10 ธรรมเนียมในการแต่งงานที่มีอดีตที่ไม่ธรรมดามากกว่าที่เราคิดไว้
สาว ๆ ทุกคนมองเห็นงานแต่งงานที่สมบูรณ์แบบในแบบฉบับของตนเอง บางคนอยากให้งานแต่งงานของตัวเองเงียบและสงบสุข ในขณะที่คนอื่น ๆ ฝันถึงห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยแขกเหรื่อหลายร้อยคน แต่ทุกคนก็ต่างเห็นตรงกันว่าการแต่งงานควรเกิดขึ้นเมื่อคนทั้ง 2 คนรักกันเท่านั้น แต่สำหรับในอดีตแล้ว มีความเป็นไปได้ที่คู่บ่าวสาวเพิ่งเจอกันครั้งแรกหลังจากพิธีแต่งงาน หรือมีขนมปังเป็นของหวานหลักในงาน หรือไม่ก็เจ้าสาวไม่ได้ถือดอกไม้อยู่ในมือ
พวกเราที่ชีวิตสดใสได้รวบรวมประเพณีการแต่งงานในอดีตที่อาจสร้างความประหลาดใจให้กับคู่บ่าวสาวรุ่นใหม่ได้เลยทีเดียว
การแต่งงานเกิดขึ้นกลางถนน
ในช่วงยุคกลางคุณไม่จำเป็นต้องมีพยานในการแต่งงาน เพราะว่าการแต่งงานกัน คุณเพียงแค่ต้องกล่าวคำปฏิญาณเท่านั้น แล้วก็ไม่สำคัญหรอกว่าจะเกิดขึ้นที่ไหน ดังนั้นใคร ๆ ก็สามารถเป็นภรรยาอยู่กลางถนนได้
ในอนาคตเพื่อที่จะสามารถพิสูจน์การแต่งงานระหว่างคนธรรมดาทั่วไป (ที่ถูกทำร้ายโดยทั้งชายและหญิง) คนที่มีการจดทะเบียนสมรสจึงถูกนำมาใช้
สีขาวเป็นสีแห่งการไว้ทุกข์
ก่อนศตวรรษที่สิบเก้า ผู้หญิงสวมชุดใหม่ล่าสุดและดูน่าดึงดูดที่สุดเท่าที่พวกเธอมี ซึ่งส่วนใหญ่มีสีสันสดใส เพราะไม่เพียงแต่จะใช้สีขาวไม่ได้เท่านั้น แต่ยังเชื่อกันว่าสีขาวคือสีสำหรับการไว้ทุกข์อีกด้วย นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมสีเขียว (สัญลักษณ์ของความอ่อนเยาว์) และสีน้ำเงิน (สัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์) จึงเป็นสีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
กระแสนิยมในชุดสีขาวเกิดขึ้นเมื่อ 180 ปีก่อน หลังจากที่หนังสือพิมพ์ได้เผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับพิธีอภิเษกสมรสของสมเด็จพระราชินีวิกตอเรีย (Queen Victoria) ซึ่งได้เลือกสวมชุดผ้าซาตินสีขาวในพิธี
ช่อดอกไม้ทำจากโหระพาและกระเทียม
ในยุคกลาง ช่อดอกไม้งานแต่งงานทำจากกระเทียมและโหระพา แล้วมันก็เป็นสิ่งจำเป็น เพราะเจ้าสาวใช้ส่วนผสมนี้เพื่อซ่อนกลิ่นร่างกายที่ไม่ได้อาบน้ำของพวกเธอ
คู่บ่าวสาวไม่กินเค้ก
ในพิธีแต่งงานมีการเลี้ยงของว่างแขกในงาน แล้วในกรุงโรมโบราณ ขนมปังข้าวสาลีหรือข้าวบาร์เลย์ถูกหักอยู่เหนือหัวของเจ้าสาว ส่วนในยุคกลางของอังกฤษ ผู้คนทำขนมปังก้อนที่พวกเขาได้นำไปสวมให้กับคู่บ่าวสาว ซึ่งต้องแต่งงานภายใต้พวกมัน
ขนมพายที่โรยน้ำตาลไอซิ่งปรากฏขึ้นในศตวรรษที่สิบหกตอนที่น้ำตาลมีราคาไม่แพงมาก
ไม่มีใครแต่งงานในวันเสาร์
การเลือกวันแต่งงานขึ้นอยู่กับความเชื่อเรื่องโชคลางต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวันในสัปดาห์ โดยนิทานพื้นบ้านอังกฤษกล่าวว่าวันพุธเป็นวันที่ดีที่สุดสำหรับการแต่งงาน วันจันทร์เป็นวันแห่งความร่ำรวย วันอังคารเป็นวันเพื่อสุขภาพ และวันเสาร์เป็นวันที่แย่ที่สุดสำหรับการแต่งงาน
ค่าสินสอดทำให้เจ้าสาวมีเสน่ห์มากขึ้น
สินสอดทองหมั้นเป็นส่วนสำคัญของพิธีแต่งงานในวัฒนธรรมต่าง ๆ มานานหลายศตวรรษ และยังคงเป็นประเพณีในบางครอบครัวและบางภูมิภาค ค่าสินสอดเป็นของขวัญให้กับครอบครัวของคู่หมั้นฝ่ายหญิง และพ่อแม่ของหญิงสาวก็เป็นผู้รวบรวม ซึ่งค่าสินสอดสามารถเพิ่มความน่าดึงดูดใจในตัวของเจ้าสาวในสายตาคนอื่น ๆ ได้
เจ้าสาวสวมเครื่องราง
คุณคงเคยได้ยินเกี่ยวกับธรรมเนียมที่ว่า “ของเก่า ของใหม่ ของที่ยืมมา และของที่เป็นสีน้ำเงิน” ประเพณีนี้เกิดขึ้นในยุควิกตอเรียในคำประพันธ์ที่กล่าว่าสิ่งเหล่านี้จะปกป้องเจ้าสาวจากความชั่วร้าย โดยของที่เป็นสีน้ำเงินคือสายรัดถุงน่อง ของที่ยืมมาก็นำมาจากผู้หญิงที่มีลูกแล้ว ของเก่าก็คือของที่สืบทอดมาจากครอบครัวของหญิงสาว และของใหม่ก็ได้รับมาจากครอบครัวของคู่หมั้นฝ่ายชาย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของครอบครัวใหม่
คู่หมั้นฝ่ายชายไม่ได้เห็นเจ้าสาวก่อนเข้าพิธี
ยังมีความเชื่อเรื่องโชคลางที่บอกว่าการเห็นเจ้าสาวในชุดแต่งงานก่อนการแต่งงานถือเป็นเรื่องไม่ดี ความเชื่อนี้เกิดขึ้นครั้งแรก เพราะคู่หมั้นฝ่ายชายและเจ้าสาวสามารถพบกันได้หลังจากสาบานตน และพ่อแม่ของพวกเขาได้จัดงานแต่งงานให้
ครอบครัวของเจ้าสาวจ่ายเงินค่าทำพิธี
ในอดีตคนเชื่อกันว่าครอบครัวของเจ้าสาวควรจัดและจ่ายเงินสำหรับงานแต่งงาน โดยพวกเขาได้จ่ายค่าบัตรเชิญแขก ของตกแต่ง อาหารและเครื่องดื่ม ตลอดจนเสื้อผ้าของเจ้าสาวและของทุกอย่างที่เธอสวมใส่หลังงานแต่งงาน ส่วนครอบครัวของฝ่ายชายจ่ายค่าช่อดอกไม้ แหวน นักบวช ของขวัญสำหรับเจ้าสาว และฮันนีมูน
ผ้าคลุมหน้าห้ามไม่ให้เจ้าสาววิ่งหนี
ในอดีต ผู้คนเชื่อกันว่าผ้าคลุมหน้าทำให้เจ้าสาวดูราวกับเปลวเทียนและขับไล่วิญญาณชั่วร้ายออกไป
นอกจากนั้นงานแต่งงานหลาย ๆ งานเกิดขึ้นด้วยเหตุผลทางการเงิน ดังนั้นผ้าคลุมหน้ากับชายกระโปรงยาว ๆ จึงจำเป็นสำหรับเจ้าสาวที่กำลังจะแต่งงานกับชายแก่ โดยพวกมันช่วยป้องกันไม่ให้เจ้าสาววิ่งหนีไป เพราะมันทำให้พวกเธอขยับตัวได้ยาก
คุณรู้จักประเพณีการแต่งงานในอดีตแบบใดกันบ้างนะ ?