11 ความแตกต่างที่สำคัญของเที่ยวบินที่ผู้โดยสารส่วนใหญ่ไม่เคยสังเกตเห็น

ไม่ว่าคุณจะสวมหูฟังหรือกำลังอ่านหนังสือในครั้งล่าสุดที่คุณบินบนเครื่องบิน อย่าลืมมองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวังมากขึ้นในครั้งต่อไปที่คุณพบว่าตัวเองอยู่นนท้องฟ้า คุณอาจเลือกใช้ฟีเจอร์สที่น่าสนใจซึ่งมีแต่คนที่เดินทางบ่อยหรือลูกเรือเท่านั้นที่รู้ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่คุณนั่งเครื่องบินบางประเภทในขณะเดินทางไกลหรือที่นั่งของคุณเป็นสีน้ำเงิน

ชีวิตสดใสได้รวบรวมรายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องบิน 11 ข้อที่ผู้โดยสารส่วนใหญ่ไม่รู้

1. การออกแบบห้องโดยสาร

ครั้งต่อไปที่คุณบิน ไม่ว่าจะระยะสั้นหรือยาว ให้ใส่ใจกับประเภทของเครื่องบินที่คุณกำลังบิน สำหรับเที่ยวบินระยะยาว สายการบินจะเลือกเครื่องบินที่ใหญ่กว่าและกว้างขวางกว่า ตัวอย่างเช่น แอร์บัส 350 มีพื้นห้องโดยสารและผนังด้านข้างที่ตรงกว่าในเครื่องบินลำอื่น ด้วยเหตุนี้ผู้โดยสารจึงมีพื้นที่สำหรับส่วนหัวและไหล่มากขึ้น

2. ความแตกต่างของที่นั่ง

คุณเดินทางในเที่ยวบินทางไกล มีแนวโน้มที่เครื่องบินที่ใช้สำหรับเที่ยวบินนั้น ๆ จะมีการติดตั้งให้นั่งได้เป็นระยะเวลานานขึ้นอย่างแน่นอน มาต่อกันด้วยตัวอย่างของเราเกี่ยวกับแอร์บัส 350 ซึ่งมักจะบินระยะไกล มันมีช่องว่างระหว่างที่นั่งกว้างกว่ามากและแม้แต่เบาะรองนั่งก็มีคุณภาพดีกว่า นอกจากพื้นที่วางขาที่กว้างขึ้นแล้ว ยังมีช่องว่างระหว่างที่พักแขนอีกด้วย

3. การหมุนเวียนของอากาศ

นอกจากแอร์บัส 350 แล้ว ยังมีเครื่องบินยอดนิยมอีกประเภทหนึ่งสำหรับระยะทางไกล นั่นคือดรีมไลเนอร์หรือโบอิ้ง 787-9 ทั้งสองรุ่นนี้ อากาศในห้องโดยสารมีความชื้นมากขึ้นเนื่องจากระบบระบายอากาศพิเศษ ทำให้ผิวและดวงตาของคุณไม่รู้สึกแห้งเหมือนตอนที่คุณเดินทางในเครื่องบินลำอื่น อากาศหมุนเวียนภายในห้องโดยสารโดยเฉลี่ยทุก ๆ 3 นาที

4. หน้าต่างประเภทต่าง ๆ

เมื่อพูดถึงดรีมไลเนอร์ ในเครื่องบินลำนี้ หน้าต่างจะใหญ่ขึ้น 30% เมื่อเทียบกับเครื่องบินรุ่นคล้าย ๆ กัน ยิ่งไปกว่านั้น ก็ไม่มีม่านพลาสติกและผู้โดยสารแต่ละคนมีสวิตช์หรี่ไฟอิเล็กทรอนิกส์ข้างที่นั่ง พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินทำให้ไฟสว่างขึ้นหรือมืดลงโดยอัตโนมัติได้

5. ความแตกต่างของระบบความบันเทิง

เครื่องบินบางลำไม่มีหน้าจอในตัวที่ด้านหลังที่นั่ง เครื่องบินที่ครอบคลุมระยะทางสั้นถึงปานกลางมีโอกาสน้อยที่จะมีความบันเทิงทุกประเภทในห้องโดยสารและบางสายการบินพยายามใช้เครื่องบินเหล่านี้ที่ไม่มีหน้าจอบนที่นั่ง ถ้าคุณเดินทางในเที่ยวบินระยะยาว คุณอาจได้รับประโยชน์จากความบันเทิงบนเที่ยวบินซึ่งประกอบด้วยภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์และเพลง

6. ที่นั่งข้างหลังปลอดภัยกว่า

ไม่รู้ว่าจะจองที่นั่งตรงไหนในครั้งหน้าที่คุณบินใช่ไหม ? จากการศึกษาพบว่าการนั่งที่นั่งด้านหลังเครื่องบินทำให้คุณมีโอกาสรอดมากขึ้น 40% จากอุบัติเหตุเครื่องบินตก แล้วเลือกที่นั่งริมหน้าต่างหรือทางเดินดีล่ะ ? นี่เป็นทางเลือกส่วนบุคคล แต่ถ้าคุณรู้ว่าคุณเข้าห้องน้ำบ่อย ให้ลองจองที่นั่งริมทางเดินจะได้ไม่ต้องรบกวนคนที่นั่งข้างคุณ

7. วิธีกำจัดเชื้อโรค

เราทุกคนคงเคยได้ยินใครบางคนจามหรือไอขณะอยู่บนเครื่องบิน ถ้าคนคนนั้นอยู่ใกล้คุณ ให้เอื้อมมือไปที่แผงเหนือศีรษะแล้วเปิดช่องระบายอากาศ กำหนดทิศทางการไหลเข้าหาตัวคุณ วิธีนี้จะทำงานเป็นเกราะป้องกันเชื้อโรคเนื่องจากอากาศในห้องโดยสารไหลเวียนทุกสองสามนาทีอยู่แล้ว

8. วิธีหลีกเลี่ยงอาการเจ็ตแล็ก

อาการเจ็ตแล็กอาจไม่น่าพิสมัยนัก แต่ถ้าคุณกำลังบินจากนิวยอร์กไปลอนดอน คุณก็ไม่ต้องกังวลนัก ร่างกายของคุณจะปรับตัวใในการบินไปทางทิศตะวันออกได้ง่ายกว่าที่จะบินไปทางทิศตะวันตก ที่จริงคุณอาจน้ำหนักลดด้วยซ้ำและคุณอาจไปถึงเร็วขึ้นด้วยเพราะเครื่องบินบินได้เร็วกว่าจากตะวันตกไปตะวันออกเนื่องจากกระแสลมความเร็วสูง

9. ทำไมเครื่องบินต้องบินวน

คุณอาจเคยสงสัยว่าทำไมเครื่องบินของคุณถึงไม่ลงจอดทันทีหลังจากที่ถึงจุดหมายปลายทาง มีบางกรณีที่เครื่องบินบินรอบสนามบินบางแห่งนานขึ้นเล็กน้อย กรณีนี้มักเกิดขึ้นเมื่อการลงจอดไม่สำเร็จหรือมีเครื่องบินมากเกินไปบนรันเวย์ ใช่ พวกเขาก็มีการจราจรติดขัดและเวลาเร่งด่วนเหมือนกัน หรืออาจมีบางอย่างบนรันเวย์และเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินกำลังดูแลปัญหาอยู่

10. ทำไมเครื่องบินต้องมีที่นั่งสีน้ำเงิน

มีเหตุผลสำคัญที่ว่าทำไมที่นั่งบนเครื่องบินส่วนใหญ่เป็นสีน้ำเงิน สีพิเศษนี้มีไว้เพื่อให้คุณสงบลงและช่วยให้คุณผ่อนคลายและยังง่ายต่อการรักษาความสะอาดอีกด้วย เป็นที่รู้กันว่าสีแดงทำให้คนตระหนักถึงอันตรายและนึกถึงป้ายจราจรและในเครื่องบิน มีคนจำนวนมากที่บินเป็นครั้งแรกหรือกลัวการขึ้นไปบนท้องฟ้า

11. ตัวอักษรบนตั๋วเครื่องบินของคุณหมายถึงอะไร

ครั้งต่อไปที่คุณได้รับบอร์ดดิ้งพาส ให้ลองดูดี ๆ นอกจากข้อมูลเกี่ยวกับชื่อ ปลายทาง ที่นั่งและหมายเลขแถวของคุณแล้ว ยังมีตัวอักษรขนาดใหญ่มากแสดงอยู่ด้วย หมายถึงคลาสที่คุณเลือก เช่น A และ F หมายถึงชั้นหนึ่ง J หมายถึงชั้นธุรกิจ Y หมายถึงชั้นประหยัด และ P หมายถึงชั้นประหยัดพรีเมียม

วันนี้คุณได้เรียนรู้อะไรจากบทความของเราบ้าง ? คุณรู้สึกประหลาดใจกับรายละเอียดเที่ยวบินเหล่านี้หรือเปล่า ?