11 สิ่งลึกลับน่าประหลาดใจที่นักวิทยาศาสตร์ยังอธิบายไม่ได้
ดูเหมือนว่านักวิทยาศาสตร์จะได้ทำการศึกษาทุกอย่างบนโลกของเราไปแล้ว แต่นั่นไม่เป็นความจริงเลย
ชีวิตสดใสได้รวบรวมเรื่องราวลึกลับชวนหลงใหล ที่ยังไม่มีเหตุผลที่จะมาอธิบายมันได้ดีพอ
1. ทำไมแมวถึงส่งเสียงคราง
แมวจะส่งเสียงครางเมื่อมันมีความสุข แต่ไม่มีใครรู้ว่า ในขณะที่มันส่งเสียงแบบนั้น คุณจะไม่ได้ยินเสียงหัวใจของมันเต้นเลย!
นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าแมวทำเสียงสั่นได้ด้วยเส้นเสียงของมัน มันจะช่วยเร่งการเยียวยาและลดความเจ็บปวดซึ่งเป็นสาเหตุว่าทำไมแมวจะร้องเมื่อมันเครียดหรือเจ็บ
2. สิ่งมีชีวิตบางอย่างมาจากไหน
สิ่งมีชีวิตหลายสายพันธุ์ไม่มีบรรพบุรุษ ไม่มีใครรู้อย่างแน่ชัดว่าสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำมีพัฒนาการมาจากปลาตั้งแต่เมื่อไหร่ เนื่องจากสัตว์บกชนิดแรกมีการพัฒนาแขนขาและศีรษะอย่างสมบูรณ์
มีการกล่าวว่าไดโนเสาร์ได้สูญพันธุ์หลังจากภัยพิบัติทางธรรมชาติเมื่อ 65 ล้านปีก่อน ในขณะเดียวกันก็มีการปรากฏสายพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ไม่มีแหล่งที่มา
3. วัวมีเข็มทิศแม่เหล็กไหม
จากการใช้กูเกิ้ลเอิร์ธ นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการศึกษารูปของวัวขณะที่กำลังกินหญ้าและได้ค้นพบรูปแบบที่ประหลาด 70% ของวัวหันหัวไปทางทิศเหนือหรือทิศใต้ในขณะที่กำลังกินหรือดื่ม สิ่งนี้ได้มีการสำรวจในทุกทวีป โดยไม่คำนึงถึงภูมิประเทศ, สภาพอากาศและปัจจัยอื่น ๆ
4. ฝนที่มีลักษณะเหมือน “วุ้น” คืออะไร
ปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดนี้เกิดขึ้นที่โอควิลล์ วอชิงตัน ในเดือนสิงหาคม ปี 1994 แทนที่จะเป็นฝน กลับมีสสารที่มีลักษณะคล้ายกับวุ้นตกลงมาจากท้องฟ้า วันถัดมา ผู้คนจำนวนหนึ่งมีอาการคล้ายเป็นไข้
นักวิทยาศาสตร์ได้วิเคราะห์สสารนั้นพบว่ามันประกอบด้วยแบคทีเรีย 2 ประเภท หนึ่งในนั้นมักจะพบในระบบย่อยอาหารของมนุษย์ พวกเขาไม่สามารถหาความเชื่อมโยงระหว่างแบคทีเรียและโรคระบาดลึกลับได้
5. สสารมืดคืออะไร
ประมาณ 27% ของจักรวาลคือสสารมืด มันไม่ผลิตหรือมีปฏิสัมพันธ์กับรังสีแม่เหล็กไฟฟ้า จึงไม่สามารถตรวจจับมันได้
ทฤษฎีแรกเกี่ยวกับสสารมืดปรากฎเมื่อประมาณ 60 ปีที่แล้ว แต่นักวิทยาศาสตร์ไม่ได้มีการนำเสนอหลักฐานโดยตรงของการมีอยู่ของมัน
6. มีดาวเคราะห์อยู่ในระบบสุริยะทั้งหมดกี่ดวง
ตั้งแต่พลูโตไม่ได้ถูกรวมอยู่ในดาวเคราะห์ทางการ เชื่อว่ามีดาวเคราะห์ทั้งหมด 8 ดวง แถบไคเปอร์ที่อยู่เหนือดาวพลูโตประกอบไปด้วยวัตถุที่เป็นน้ำแข็ง นักวิทยาศาสตร์ค้นพบวัตถุนับพันชิ้นในพื้นที่นั้นที่มีขนาดใหญ่กว่าพลูโต
พวกเขายังสังเกตว่ามีช่องว่างขนาดใหญ่ในแถบไคเปอร์ ดาวเคราะห์ไม่ทราบชื่อบางดวงที่มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับโลก ดึงก้อนหินทั้งหมดจากแถบเข้าหาตัวเอง
7. ทำไมถึงมีคนที่ถนัดขวาและถนัดซ้าย
มนุษย์ส่วนใหญ่ (70 — 95 %) เป็นคนถนัดขวา และส่วนน้อย (5 — 30 %) เป็นคนถนัดซ้าย ส่วนผู้ที่ถนัดทั้งสองข้างไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด
ยีนส์มีอิทธิพลต่อสิ่งนี้แต่ “ยีนส์ของการถนัดซ้าย” ไม่ได้ถูกระบุไว้ สภาพแวดล้อมทางสังคมก็มีอิทธิพลเช่นกัน เมื่อเด็กที่ถนัดซ้ายถูกสั่งให้เขียนด้วยมือขวาของเขา บางคนก็กลายเป็นคนถนัดขวา
8. ทำไมสัตว์โบราณขนาดใหญ่จึงสูญพันธุ์
สัตว์ขนาดใหญ่รู้จักกันในชื่อว่ามหพรรณสัตว์ ได้หายไปประมาณ 10,000 ปีแล้ว
บางคนเชื่อว่าการที่อากาศเปลี่ยนแปลงทำให้มหพรรณสัตว์ตายแต่ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด อีกหนึ่งทฤษฎีกล่าวว่าสัตว์ตายจากความอดอยาก นักวิทยาศาสตร์ในอลาสก้าได้พบช้างแมมมอธที่ถูกเก็บรักษาไว้ซึ่งในท้องของมันเต็มไปด้วยพืชผักที่ยังไม่ย่อย
9. ทำไมเราจึงฝัน
บางคนเชื่อว่าความฝันเป็นเพียงรูปภาพสุ่ม ๆ และคลื่นสมอง ในขณะที่บางคนเชื่อว่าเป็นความต้องการจากจิตใต้สำนึก, ปัญหาที่แก้ไม่ตกและประสบการณ์
การศึกษาเกี่ยวกับความฝันเรียกว่า oneirology นักวิทยาศาสตร์บอกว่าความฝันเป็นสัญลักษณ์ของบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ลึกภายในจิตใจของมนุษย์ แต่ไม่มีใครรู้ว่าจริง ๆ แล้วมันเกิดจากอะไร
10. อะไรคือ “เสียงคำรามของอวกาศ”
ในขณะที่กำลังศึกษาดาวดวงใหม่ในปี 2006 ทันใดนั้นนักวิทยาศาสตร์ก็ได้ยินเสียงคำรามอันลึกลับ ถึงแม้ว่าเสียงไม่สามารถเดินทางในอวกาศได้แต่คลื่นวิทยุทำได้ แต่มันมาจากไหนกัน นักวิจัยรู้เพียงว่าคลื่นเสียงไม่ได้มาจากดวงดาวหรือปรากฎการณ์ที่เกี่ยวกับจักรวาลที่รู้จัก
11. ทำไมเราถึงมีหมู่เลือดที่แตกต่างกัน
หมู่เลือดมีแอนติเจนในเซลล์เลือดที่แตกต่างกัน มันเป็นสัญญาณของแอนติบอดีที่ทำลายเซลล์แปลกปลอมในร่างกาย แต่นักวิทยาศาสตร์ไม่มีคำตอบว่าทำไมมันถึงต่างกัน
มีข้อเสนอว่ามันเกี่ยวข้องกับโรคและภูมิคุ้มกัน คนที่มีหมู่เลือดบีจะอ่อนแอต่อเชื้ออีโคไลได้ง่ายกว่า ส่วนคนที่มีหมู่เลือดโอจะมีความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากมาเลเรียน้อยกว่า