12 ข้อเท็จจริงที่พิสูจน์คำพูดที่ว่า “เมื่อก่อนทุกอย่างดีกว่ามาก” ไม่สมเหตุสมผลอีกต่อไป

ผู้คนมักพูดว่าเมื่อก่อนทุกอย่างดีกว่ามาก น่ันหมายถึงสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนั้นดีกว่าและก็ใช้ชีวิตอยู่ได้ง่ายกว่ามาก การหวนคิดถึงความหลังเป็นเรื่องดี แต่เวลาในปัจจุบันก็เป็นเรื่องดีเช่นกัน เพราะเราได้อาศัยอยู่ในโลกแห่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ไม่หยุดนิ่ง ซึ่งส่งผลดีทั้งต่อเราและธรรมชาติ

ที่ชีวิตสดใส พวกเราอยากจะบอกคุณเรื่องความเปลี่ยนแปลงในแง่ดีทั้ง 12 อย่างที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้หรือที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้

1. การท่องเที่ยวในอวกาศใกล้เข้ามาทุกที

จากการคาดการณ์ชี้ว่าขนาดของตลาดการท่องเที่ยวในอวกาศจะสูงถึง 1 แสนล้านบาทในปี 2030 โดยมีบริษัทสองสามแห่งแข่งขันกันเพื่อชิงสิทธิ์ในการส่งนักท่องเที่ยวเข้าสู่วงโคจร และบริษัทสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ของอีลอน มัสก์ (Elon Musk) ก็เป็นหนึ่งในนั้น

มีการเดินทางที่ประสบความสำเร็จหลายครั้งเกิดขึ้นในปี 2000 และจนกระทั่งระยะหลัง ๆ การท่องเที่ยวในอวกาศก็ถูกลืมไป แต่ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2021 มีการวางแผนการเดินทางครั้งใหม่ ซึ่งหมายความว่าในที่สุดเหล่านักธุรกิจ ผู้ใจบุญ นักวิทยาศาสตร์ และหมอจะบินไปอวกาศ ซึ่งใครจะไปรู้ว่าบางทีแม้แต่คนธรรมดาก็สามารถบินไปดวงจันทร์ในช่วงสุดสัปดาห์ได้ภายในเวลาแค่สิบกว่าปี !

2. กำลังพัฒนาเทคโนโลยีที่จะยกระดับสมองของเรา

โครงการนูร่าลิงก์ (Neuralink) ของอีลอน มัสก์คือไมโครชิปที่จะสร้างการเชื่อมต่อระหว่างสมองของมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ ซึ่งในอนาคตมันจะช่วยรักษาโรคพาร์กินสันและยังสามารถให้การตอบกลับแบบการสัมผัสของหุ่นยนต์เทียมได้อีกด้วย

นอกจากนี้นูร่าลิงก์ยังสามารถช่วยเหลือผู้ที่มีความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าที่ไม่สามารถพาตัวเองให้ออกจากบ้านได้ด้วย มัสก์ได้ระบุไว้ว่าแผ่นไมโครชิปนี้จะช่วยบรรเทาอาการของคนนั้น ๆ เพื่อให้พวกเขาอย่างน้อยก็สามารถเริ่มการรักษาได้

3. นักวิทยาศาสตร์ประสบความสำเร็จในการปลูกฟันมนุษย์

ฟันปลอมมีประวัติมาอย่างยาวนาน โดยนานมาแล้วผู้คนใช้งาช้าง ขี้ผึ้ง และไม้เพื่อทดแทนฟันที่เสียไป ปัจจุบันมีการใช้วัสดุที่ทันสมัยมากขึ้น แต่ฟันยังคงทำจากวัสดุเทียมและต้องยึดติดกับขากรรไกรด้วยโครงสร้างที่ซับซ้อน

เมื่อไม่นานมานี้นักวิทยาศาสตร์สามารถปลูกพืชเทียมที่มีโครงสร้างใกล้เคียงกับฟันจริงมาก ๆ และนี่ก็เป็นความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่ในด้านทันตกรรม อีกทั้งเทคโนโลยีนี้เป็นไปได้ที่ชั้นเคลือบฟันจะสามารถปลูกได้

4. จักษุวิทยาไม่ได้หยุดนิ่งเช่นกัน

เมื่อเร็ว ๆ นี้จักษุแพทย์ของ “ศัลยกรรมตกแต่งตา” แห่งเอ็มเอ็นทีเค (MNTK) สาขาเชบอคซารี่ (Cheboksary) ได้คิดค้นม่านตาเทียมร่วมกับเลนส์เทียม ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่ตาสามารถฟื้นฟูกลับคืนมาได้ โดยสิ่งประดิษฐ์อันเป็นเอกลักษณ์นี้ได้รับการจดสิทธิบัตรภายใต้ชื่อ “ไอริส-เลนส์ไดอะแฟรม” และนำมันมาใช้

สิ่งประดิษฐ์อื่น ๆ ก็ดูดีเช่นกัน อย่างแว่นสายตาที่ปรับได้เอง โดยคนที่สายตายาวจะสามารถปรับแต่งแว่นตาให้อยู่ในอันเดียวได้ โดยที่ไม่ต้องใช้แว่นสายตาต่าง ๆ หลายอันในการอ่านหนังสือ เดิน ฯลฯ

5. แพนด้ายักษ์ไม่ได้อยู่ในรายชื่อสัตว์ใกล้สูญพันธุ์อีกต่อไป

ก่อนหน้านี้แพนด้ายักษ์อยู่ในรายชื่อสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ แต่เนื่องจากการปกป้องป่าและการปลูกป่าที่มีประสิทธิภาพจึงทำให้ปัจจุบันนี้มันอยู่ในรายชื่อสัตว์กลุ่มเปราะบาง อีกทั้งเป็นเพราะมาตรการอนุรักษ์ จึงทำให้จำนวนประชากรของมันเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ

6. โลกในปัจจุบันนี้มีต้นไม้มากกว่า 100 ปีที่แล้ว

มีเหตุผลที่สันนิษฐานว่าการตัดไม้ทำลายป่าและไฟป่าขนาดใหญ่ช่วยลดเปอร์เซ็นต์ของต้นไม้บนโลกได้อย่างมาก แต่ปรากฏว่าแม้จะเกิดภัยธรรมชาติและภัยจากน้ำมือมนุษย์ ปัจจุบันก็ยังมีต้นไม้บนโลกมากกว่าเมื่อ 100 ปีก่อน โดยในช่วงเวลานี้จำนวนต้นไม้ได้เพิ่มขึ้น 400%

7. จะมีรถไฟความเร็วสูง

บริษัทเวอร์จิ้น ไฮเปอร์ลูป (Virgin Hyperloop) กำลังพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับห้องโดยสารที่จะพุ่งทะยานด้วยความเร็วสูงถึง 1,207 กิโลเมตรต่อชั่วโมงผ่านอุโมงค์สุญญากาศที่แทบไม่มีอากาศ โดยใช้การลอยด้วยแม่เหล็ก และตามการคาดการณ์ชี้ว่า เวอร์จิ้น ไฮเปอร์ลูปวางแผนที่จะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์โดยเร็วที่สุดในปี 2027

8. บริษัทต่าง ๆ จะพัฒนาพลาสติกที่ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ

นักวิทยาศาสตร์ได้ส่งเสียงเตือนมานานแล้วว่าขยะพลาสติกจะลงสู่มหาสมุทร โดยมีขยะพลาสติกลงสู่น้ำมากถึง 12.7 ล้านตันทุกปี ซึ่งนับว่าเป็นมลพิษที่น่ากลัวมาก โดยจำเป็นต้องแก้ปัญหานี้ในระดับโลก ไม่ใช่แค่การเสียสละของนักเคลื่อนไหวรายบุคคลเท่านั้น

หน่วยงานกรีนพีซ (Greenpeace) ได้วิจัยเกี่ยวกับพลาสติกที่ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติอยู่แล้ว โดยวัสดุนี้ทำมาจากอ้อยและรีไซเคิลได้ง่ายกว่ามาก

ส่วนนักวิทยาศาสตร์คนอื่น ๆ ก็เดินตามรอยเท้าของพวกเขาเช่นกัน โดยนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยของรัฐ
แอสตราคาน (Astrakhan State University) ได้พัฒนาฟิล์มยึดเกาะจากเจลาติน และบริษัทฟินแลนด์แห่งหนึ่งได้เปิดตัวการผลิตหลอดดูดจากเศษไม้รีไซเคิล

9. การพิมพ์ 3 มิติได้ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมการแพทย์และอาหารแล้ว

เครื่องพิมพ์ 3 มิติไม่ได้ถูกมองว่าเป็นนวัตกรรมอีกต่อไป แต่หลายคนไม่ทราบถึงความสามารถของพวกมัน และในขณะเดียวกันเทคโนโลยีในกลุ่มนี้ได้ก้าวหน้าไปไกลพอที่จะผลิตเนื้อสัตว์ได้ โดยไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์

มันยังถูกนำมาใช้ในการแพทย์อีกด้วย อย่างเช่นแพทย์สามารถจัดทำกระดูกสันหลังเลียนแบบของผู้ป่วยได้อย่างถูกต้อง เพื่อวางแผนการผ่าตัดที่ซับซ้อนหรือทำขาเทียมให้พอดีตัว

10. การเดินทางเสมือนจริงจะเข้ามาแทนที่การเดินทางจริง เมื่อคุณไม่สามารถเดินทางไปได้ด้วยตนเอง

เมื่อไม่มีโอกาสได้เห็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตด้วยตาคุณเอง คุณก็สามารถพลิกดูภาพบนอินเทอร์เน็ตหรือไปทัวร์เสมือนจริงก็ได้ โดยเทคโนโลยีวีอาร์ (VR) ได้ให้คุณสวมแว่นตาและเดินทางไปยังส่วนต่าง ๆ ของโลกและไปไกลกว่านั้นได้

ในปัจจุบันคุณไม่สามารถได้กลิ่นหรือสัมผัสลมทะเลจากผิวของคุณในขณะที่อยู่ในโลกเสมือนจริง แต่ดูเหมือนว่านักประดิษฐ์กำลังค่อย ๆ พัฒนาสิ่งนี้อยู่

11. ปัญญาประดิษฐ์อยู่ในขั้นสูงอย่างไม่น่าเชื่อ

เราได้ยินมาหลายครั้งแล้วว่าปัญญาประดิษฐ์ (AI) เอาชนะผู้เล่นหมากรุกที่เก่งที่สุดในโลก แต่ทว่าเมื่อไม่นานมานี้ คอมพิวเตอร์ก็พยายามทำให้ตัวเองเหนือขึ้น โดย AI พยายามเอาชนะแชมป์เกมหมากล้อมของจีน

จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ เกมโกะหรือเกมหมากล้อมเป็นเกมเดียวที่มนุษย์เหนือกว่า AI หลังจากที่คอมพิวเตอร์เอาชนะแชมป์เกาหลีอย่างลี เซดอล (Lee Sedol) ได้ อุปกรณ์นี้ก็ได้จบอาชีพของมันด้วยคำว่า “ปัจจุบันมีสิ่งที่ไม่สามารถเอาชนะได้”

การพัฒนา AI จะช่วยให้การผลิตในหลาย ๆ ด้านเป็นไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งก่อนหน้านี้ต้องใช้ทรัพยากรมนุษย์ แต่ตอนนี้หุ่นยนต์จะสามารถแทนที่คนได้ แม้ว่าหลายคนจะกลัวว่า AI จะทิ้งมนุษยชาติไว้เบื้องหลัง แต่ว่าในทางกลับกันแล้วการพัฒนาในด้านนี้จะสร้างอาชีพและงานใหม่ ๆ

12. เวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ก้าวหน้าอย่างมาก

นานมาแล้วหากแพทย์ได้วินิจฉัยว่าเป็นสตรีมีบุตรยาก นั่นแสดงว่าหญิงสาวคนนั้นไม่สามารถมีลูกได้ ซึ่งกรณีนี้ยาวนานมาจนถึงปี 1978 หรือนานกว่านั้น ก่อนที่การคลอดลูกครั้งแรกที่เกิดจากการปฏิสนธินอกร่างกายจะประสบความสำเร็จ

ด้วยความช่วยเหลือของเทคโนโลยีนี้ทำให้มีเด็กมากกว่า 8 ล้านคนเกิดมาบนโลก ในขณะที่ภาวะมีบุตรยากและอายุของผู้ให้กำเนิดก็ไม่ถือว่าเป็นอุปสรรคต่อการคลอดลูกที่มีสุขภาพดีอีกต่อไป

คุณเคยได้ยินรูปแบบอื่น ๆ ของเทคโนโลยีหรือสิ่งประดิษฐ์บ้างมั้ย ? แล้วคุณอยากจะเพิ่มอะไรลงไปในรายการนี้หรือเปล่า ? บอกพวกเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างนะ