13 สิ่งสำคัญที่ทุกคนควรรู้ก่อนอายุ 30
ชีวิตจริง ๆ จะเริ่มต้นขึ้นหลังอายุ 30 เพราะมันเป็นช่วงที่ในที่สุดเราก็ได้มีความตระหนักรู้ เป็นอิสระ และเข้าใจในความทะยานอยากของตัวเองตลอดจนความปรารถนาที่เราต้องการจริง ๆ อย่างไรก็ตาม ในการที่จะทำความฝันให้เป็นจริงและประสบความสำเร็จขั้นสูงสุดในทุกแง่มุมของชีวิตได้นั้น มันคุ้มค่านะที่จะได้เรียนรู้เรื่องบางอย่างเสียก่อน
ชีวิตสดใสได้เลือกเรื่องราวจำเป็น 13 หัวข้อที่ทุกคนควรทำให้ได้ก่อนอายุ 30 อย่าพลาดโบนัสช่วงท้าย เพราะเราจะเผย 4 ขั้นตอนสู่ความสุขง่าย ๆ ให้คุณได้อ่านกัน
1. หางานที่คุณทำแล้วมีความสุข
หลังจากที่เราได้เรียนจบจากมหาวิทยาลัย ได้ทดลองการเปลี่ยนงานหลากหลายรูปแบบ ได้ลองทำงานในออฟฟิศ รับเงินเดือนและทำอาชีพต่าง ๆ แต่ก่อนอายุจะครบ 30 เป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญนะที่คุณควรจะหางานที่จะให้ความสุขกับคุณได้ ที่ที่คุณจะเติบโตพัฒนายิ่งขึ้น และก้าวหน้าในอาชีพได้มากยิ่งขึ้น
2. เรียนรู้ที่จะทำอาหารจานเด่นของตัวเอง
คุณอาจเป็นคนที่เกลียดการทำอาหาร หรือท่องจำสูตรของกอร์ดอน แรมเซย์ (Gordon Ramsay) ได้ทุกสูตร ไม่ว่าจะอย่างไหน คุณควรจะมีเมนูอาหารหนึ่งที่คุณทำได้ดีกว่าคนอื่น ซึ่งควรจะเป็นอาหารหลัก ส่วนจะมีขนมหวานจานเด่นด้วยหรือไม่นั้นก็แล้วแต่คุณจะตัดสินใจ ให้ทดลองและอย่ากลัวที่จะเพิ่มคุณลักษณะพิเศษใหม่ ๆ ลงไปในเมนูของคุณเพื่อฝึกปรือให้ตัวเองเชี่ยวชาญในเมนูนั้น ๆ การที่คุณมีอาหารจานเด่นของตัวคุณเองจะทำให้คุณมีความมั่นใจเวลาที่มีแขกสำคัญมาที่บ้าน
3. เข้าใจว่าคนไหนคือเพื่อนแท้
เมื่อตอนที่เรายังเป็นวัยรุ่น เรามักจะแวดล้อมไปด้วยผู้คนมากมาย และสร้างเพื่อนใหม่ได้ง่าย ๆ บ่อยครั้งที่เรามักคิดผิดว่าพวกเขาทุกคนจะเป็นเพื่อนของเราตลอดไป อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เวลาผ่านไปช่วงหนึ่ง พวกเขาก็จะพากันหายตัวไปและหลงเหลือไว้เพียงเพื่อนแท้ที่อยู่เคียงข้างเราเท่านั้น เพื่อนที่จะคอยช่วยเราเมื่อเรารู้สึกเศร้าและคนที่จะร่วมยินดีไปกับความสำเร็จของเรา จงซาบซึ้งและเห็นถึงคุณค่าของคนที่ยืนเคียงข้างเราผ่านบททดสอบของกาลเวลาเหล่านี้ และอย่าไปยึดติดกับคนที่อยู่รอบตัวคุณมากเกินไปนัก
4. เลิกบอกเล่าชีวิตส่วนตัวของคุณให้ใครฟังอย่างละเอียด
ระลึกไว้เสมอว่าหากคุณต้องการให้ความสัมพันธ์ของคุณเข้มแข็ง คุณไม่ควรบอกใครเกี่ยวกับปัญหาที่คุณและคู่รักของคุณกำลังเผชิญอยู่ แต่หากคุณรู้สึกว่าคุณต้องการบอกใครสักคน เพราะคุณต้องการที่จะแบ่งปันความกังวลเหล่านี้ให้ใครสักคนฟัง ให้ไปหานักจิตบำบัด บุคคลผู้มีอาชีพในการรับฟังเรื่องราวของคุณอย่างตั้งใจ และยังช่วยวิเคราะห์การกระทำของคุณและคู่รักของคุณได้ หากทำเช่นนี้จะทำให้คุณได้พิจารณาตัวเองด้วย คุณจะไม่มองตัวเองในฐานะของเหยื่อเพียงอย่างเดียว แต่ยังเห็นข้อเสียของคุณเอง ซึ่งจะทำให้คุณมีวิธีที่ถูกต้องในการแก้ปัญหาสถานการณ์ต่าง ๆ
5. จัดลำดับความสำคัญให้ถูกต้อง
เรามักจะทำอะไรอย่างรีบเร่งเสมอในชีวิตนี้ พยายามที่จะทำหลาย ๆ อย่างให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่หลังจากผ่านไปสักระยะหนึ่ง เราจะเข้าใจว่าเรามัวแต่ไปโฟกัสกับสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิต โดยละเลยสิ่งสำคัญหลาย ๆ อย่างไปเสีย ปกติแล้วสิ่งเหล่านั้นก็จะได้แก่การเดินทางท่องเที่ยว การได้ใช้เวลากับครอบครัว การได้สร้างช่วงเวลาต่าง ๆ ที่เราจะจดจำไว้ในชีวิต ไม่มีใครจำช่วงเวลาที่เราต้องทำโอทีในออฟฟิศในคืนวันศุกร์ได้หรอกนะ มันเป็นเรื่องสำคัญมากที่เราควรเรียนรู้ที่จะจัดลำดับความสำคัญ และทำในสิ่งที่คุณอยากทำให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
6. หาเงินกับเวลาไปพักร้อนบ้าง
การขาดการพักผ่อนนำไปสู่ความเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ และยังทำให้ประสิทธิภาพในการทำทุกอย่างลดลงอีกด้วย ดังนั้น แทนที่จะจ่ายเงินซื้อสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่สุดที่เพิ่งเข้าสู่ตลาด ควรนำเงินจำนวนนี้ไปพักร้อนอย่างที่เราคู่ควรจะดีกว่า การได้พักผ่อนอย่างเต็มที่จะทำให้คุณสามารถทำงานได้ต่อไปอีกและอาจจะได้มากขึ้นด้วยซ้ำ ให้สร้างกฎในการเก็บเงิน 20% ของเงินเดือนไว้สำหรับการพักร้อนในอนาคตไว้เลย
7. สอบใบขับขี่
การสอบใบขับขี่ให้ผ่านจะเป็นแรงจูงใจในการกระทำต่อไปของคุณ เมื่อคุณได้ใบขับขี่มาแล้ว คุณจะเริ่มคิดถึงการซื้อรถ ซึ่งจะรวมไปถึงการเพิ่มระดับเงินเดือนของคุณ เวลามีใบขับขี่จะไปเที่ยวได้ง่ายกว่ามาก คุณสามารถเช่ารถได้เสมอเวลาที่ไปต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้ได้ไปสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้มากขึ้น
8. หารายได้พิเศษ
ทำให้แน่ใจว่าตัวคุณจะมีแหล่งรายได้พิเศษก่อนอายุ 30 โดยอาจจะเป็นงานฟรีแลนซ์ แพสสีพอินคัมต่าง ๆ หรืออาจจะเป็นธุรกิจของตัวคุณเอง ถึงแม้คุณจะทำงานกับหนึ่งในบริษัทที่มั่นคงที่สุดในประเทศคุณก็ตาม แต่นั่นไม่อาจรับรองว่าคุณจะมีอนาคตที่มั่นคงเสมอไป ดังนั้นการหารายได้พิเศษจึงเป็นเรื่องสำคัญเพื่อให้คุณสามารถรับมือได้เมื่อเกิดเหตุวิกฤตใด ๆ ขึ้น
9. ย้ายออกมาจากบ้านพ่อแม่เสีย
มันอาจจะสะดวกสบายดีนะกับการได้อยู่กับพ่อแม่ของคุณ บ้านของคุณมักจะสะอาดอยู่เสมอ และมักจะมีอาหารตั้งอยู่บนเตาพร้อมรอคุณกลับมาบ้าน อย่างไรก็ตาม ไม่ช้าก็เร็วคุณจำเป็นต้องตัดสินใจที่จะย้ายออกมาจากบ้านพ่อแม่ของคุณ ซึ่งควรจะเป็นก่อนช่วงอายุ 30 เพราะสิ่งนี้จะทำให้คุณเรียนรู้ที่จะวางแผนงบประมาณ คำนึงถึงทุกค่าใช้จ่ายที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน เช่นค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคต่าง ๆ รวมไปถึงเรื่องเล็ก ๆ อย่างน้ำยาทำความสะอาด และอื่น ๆ
10. เรียนรู้การพูดในที่สาธารณะ
พวกเราหลายคนอาจจะรู้สึกประหม่าเมื่อจำเป็นที่จะต้องขึ้นพูดในที่สาธารณะ ต้องยืนยันในความคิดเห็นของตนเอง หรืออาจจะเรื่องง่าย ๆ อย่างการพูดคุยกับคนแปลกหน้า จงเรียนรู้ที่จะเอาชนะความกลัวเหล่านี้ คนที่สามารถคงสติไว้ได้เสมอโดยไม่พูดตะกุกตะกักหรือใช้คำฟุ่มเฟื่อยที่แสดงความลังเลใด ๆ มักจะได้รับความเคารพและความสนใจจากผู้อื่น การที่จะสามารถพูดคุยได้อย่างไหลลื่นนั้น คุณจะสามารถขจัดความรู้สึกไม่มั่นคงในจิตใจออกไป สามารถนำเสนอโปรเจกต์ต่าง ๆ ได้อย่างประสบความสำเร็จ สามารถโน้มน้าวเจ้านายให้เพิ่มเงินเดือนให้คุณได้ และสามารถหยุดการโต้เถียงหรือความขัดแย้งใด ๆ ในวิถีทางที่จะเป็นประโยชน์ต่อตัวคุณเอง
11. ค้นหาสไตล์ของคุณเอง
ผู้ใหญ่คนหนึ่งควรจะมีสไตล์เป็นของตนเองที่ทำให้ตัวเองรู้สึกสบายใจ การได้ค้นพบสไตล์ของตัวเองนั้น คุณจะลืมปัญหาโลกแตกว่าจะใส่เสื้อผ้าอะไรดีไปเลย เพราะว่าคุณจะรู้อยู่แล้วว่าจะเลือกเสื้อผ้าแบบไหนที่จะบ่งบอกนิสัยและความเป็นเอกลักษณ์ของตัวคุณได้ ยิ่งไปกว่านั้น การได้รู้สไตล์ของตัวเองจะช่วยให้คุณเลือกเสื้อผ้าใหม่ ๆ ที่จะเข้ากันได้ดีกับเสื้อผ้าที่คุณมีอยู่แล้วได้ง่ายขึ้น จงระลึกเสมอว่ารูปลักษณ์ภายนอกของคุณเป็นสิ่งที่จะสร้างความประทับใจเมื่อแรกพบตลอดจนเป็นการประทับภาพลักษณ์เกี่ยวกับความเป็นตัวคุณ ดังนั้นมันจึงสำคัญที่คุณจะต้องรู้สึกสบายใจในการแต่งตัวเช่นนั้นเสียก่อน
12. อ่านวรรณกรรมคลาสสิก
เราต่างได้เคยเรียนวรรณกรรมคลาสสิกต่าง ๆ มาตั้งแต่สมัยที่อยู่โรงเรียน แต่ด้วยเพราะวัยที่ยังน้อย เราอาจไม่สามารถทำความเข้าใจเรื่องราวได้อย่างลึกซึ้งจริง ๆ เราจึงไม่ควรขี้เกียจที่จะย้อนกลับไปอ่านนิยายชื่อดังสุดคลาสสิกเหล่านั้นอีกรอบ เราแน่ใจเหลือเกินว่าคุณจะมีมุมมองต่อนิยายเหล่านั้นต่างไปจากเดิมอย่างแน่นอน คุณจะสังเกตเห็นรายละเอียดมากขึ้น เห็นความนัยที่ซ่อนอยู่ หรือแม้แต่ความเชื่อมโยงในโลกยุคปัจจุบันนี้ ยิ่งไปกว่านั้น คุณจะมีความตระหนักถึงวัฒนธรรมของตนเองมากยิ่งขึ้น ถ้อยคำของคุณจะสวยงามมากขึ้น และคุณจะสามารถพูดคุยสนับสนุนบทสนทนาที่น่าสนใจต่าง ๆ ได้
13. รักษารูปร่างของตัวเองให้ดี
ปกติแล้วเราสามารถทำสิ่งนี้ได้โดยไม่ต้องออกกำลังกายเลยนะ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับช่วงอายุด้วย แม้บางทีเราจะกินมันฝรั่งทอดตอนกลางดึกก็ยังไม่ส่งผลต่อรูปร่างเราเลย อย่างไรก็ตาม ความกระชับของกล้ามเนื้อจะลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป ส่วนระบบเผาผลาญก็จะค่อย ๆ ช้าลง ดังนั้น หากคุณไม่อยากลงเอยด้วยการต้องมาใช้เวลาว่างนั่งอยู่เฉย ๆ บนม้านั่งเมื่ออายุ 50 คุณควรสร้างนิสัยให้เล่นกีฬาบ้าง ตารางประจำสัปดาห์ของคุณควรจะรวมกิจกรรมที่ต้องใช้กำลังกายเข้าไปด้วย เพื่อให้คุณรักษารูปร่างเอาไว้ได้และยังมีสุขภาพดีอยู่เสมอ
โบนัส: 4 ขั้นตอนง่าย ๆ เพื่อให้มีความสุขมากยิ่งขึ้น
นี่คือสาระน่ารู้: อ้างอิงจากสถิติแล้วนั้น จริง ๆ แล้วไม่มีแนวคิดว่าอะไรคือ “ช่วงอายุที่มีความสุขที่สุด” อยู่หรอกนะ เราสามารถมีความสุขได้เท่า ๆ กันไม่ว่าจะอยู่ในช่วงเวลาใดก็ตาม และนี่ก็คือตัวอย่างของขั้นตอนเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะช่วยรักษาระดับความสุขของคุณให้สูงที่สุดได้อยู่เสมอ:
- ใช้เวลาวันละ 10 −15 นาทีในการอยู่เงียบ ๆ บ้าง วางมือจากทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ แล็ปท็อป งาน และอื่น ๆ
- ปฏิเสธนิสัยและความปรารถนาที่ไม่ดีของตัวเอง เพราะสิ่งเหล่านั้นใช้พลังงานมากจนเกินไป
- พาตัวเองเข้าไปอยู่ในแวดล้อมของคนที่คิดบวกอยู่เสมอ
- ทำความสะอาดบ้านบ้าง บ้านที่รกทำให้จิตใจของเรายุ่งเหยิง
ยังมีเรื่องอะไรอีกไหมนะที่เราลืมใส่เข้าไปในรายการเหล่านี้ ? บอกเราได้ในคอมเมนต์เลย !