15 พนักงานโรงแรมได้แชร์ข้อมูลสุดล้ำค่าให้กับแขก เพื่อทำให้การเข้าพักของพวกเขาดียิ่งขึ้น

เราใช้เวลาทั้งปีไปกับการพักผ่อนในโรงแรมดี ๆ และเพลิดเพลินกับบริการรูมเซอร์วิส แต่เรารู้จริง ๆ กันมั้ยว่าเบื้องหลังของสถานที่อันสมบูรณ์แบบเหล่านี้เป็นอย่างไร ? แล้วคำตอบนี้คงไม่มีใครรู้ดีไปกว่าพนักงานที่จะมาเล่ารายละเอียดทุกอย่างที่บรรดาโรงแรมนั้นล้วนต้องการไม่ให้พวกเราค้นพบมัน

• ผมทำงานในโรงแรม 5 ดาวมาสองสามปี พนักงานแต่ละคนมีเบี้ยเลี้ยงพิเศษจำนวน 52,069 บาทสำหรับการทำให้มั่นใจได้ว่าพวกเขาจะสามารถช่วยให้แขกรู้สึกว่าการเข้าพักนั้นน่าจดจำ มีอยู่ครั้งหนึ่ง มีแขกคนหนึ่งทำนาฬิกาโรเล็กซ์ (Rolex) หายและถามแผนกต้อนรับว่าเห็นนาฬิกาของเขาบ้างหรือเปล่า หรือมีแม่บ้านคนไหนเอาไปหรือไม่ จากนั้นเมื่อแขกเดินจากไป ผู้ชายที่แผนกต้อนรับก็ออกไปข้างนอกและซื้อนาฬิกาโรเล็กซ์เรือนใหม่ให้กับแขกคนนี้ อีกทั้งทางโรงแรมยังคืนเงินให้เต็มจำนวน แขกจึงมีความสุขมาก ๆ และตอนนี้เขาก็กลับมาพักที่โรงแรมเดิมในทุก ๆ ปี © junglepiehelmet / Reddit
• การบ่นทันทีที่คุณทำได้จะทำให้คุณได้รับส่วนลด ฉันตระหนักรู้ได้ว่าผู้คนมักจะบ่นเรื่องอาคารเก่า เพราะพูดกันตามตรงแล้ว พวกเขามักจะไม่โต้แย้ง อีกทั้งคุณจะได้รับส่วนลด 10% เกือบทุกครั้งหากคุณแจ้งปัญหาใด ๆ กับพนักงานเรื่องราคาห้องของคุณ เพราะการขายห้องในราคาถูกก็ยังดีกว่าขายไม่ได้เลยในสายตาเจ้าของโรงแรม © druumer89 / Reddit
• วิธีที่ดีที่สุดในการยกเลิกการจองโดยไม่ให้ถูกเรียกเก็บเงิน หากคุณรอจนเลยเวลายกเลิกไปแล้ว ให้โทรหาโรงแรมก่อนและบอกว่าคุณจะเปลี่ยนวันเข้าพักเป็นวันที่หลังจากนั้น แล้วให้โทรกลับไปใหม่ภายในไม่กี่ชั่วโมง (หวังว่าจะได้พนักงานคนอื่นรับสาย) ค่าธรรมเนียมการยกเลิกก็จะถูกข้ามไป เนื่องจากตอนนี้มีช่วงเวลายกเลิกอันใหม่ของวันที่ใหม่ © druumer89 / Reddit

• ปัจจุบันฉันทำงานเป็นแม่บ้าน ผู้คนทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ ลืมเครื่องม้วนผมของคุณใช่มั้ย ? พวกเราน่าจะมีอยู่อันนึง ต้องการสายชาร์จเหรอ ? ได้สิ แล้วของเล่นสำหรับลูกของคุณล่ะ ? ได้เลย หากคุณถามขณะที่เราอยู่ในห้องหรือกำลังทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลาง เรายินดีที่จะช่วยเหลือคุณ © prisonschangedyou / Reddit
• ได้ตู้เย็นไว้ในห้องของคุณฟรี โดยบอกว่าเป็นความจำเป็นทางการแพทย์สำหรับเรื่องยา เพราะตามกฎหมายเอชไอพีเอเอ (HIPAA) ระบุว่าพวกเขาไม่สามารถกดดันเพื่อขอรายละเอียดจากคุณได้ สิ่งนี้อาจใช้ไม่ได้กับโมเทล/โรงแรมขนาดเล็ก แต่ควรใช้กับโรงแรม/เรือสำราญขนาดใหญ่ © Papapain / Reddit
• ฉันเคยทำงานในโรงแรมดี ๆ หลายแห่ง และบอกคุณได้ว่าแก้วน้ำสำหรับแปรงฟันไม่ได้ถูกล้างให้สะอาดอยู่เสมอ เนื่องจากคนทำความสะอาดรีบร้อน บ่อยครั้งที่พวกเขาล้างแค่น้ำ ดังนั้นให้ตรวจดูคราบริมฝีปาก © Roslagen / Reddit

• ตัวเรือดนั้นพบได้บ่อยกว่าที่คุณคิด โรงแรมส่วนใหญ่ต้องจัดการกับพวกมันอยู่เรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นให้ตรวจดูว่าคุณได้เก็บกระเป๋า/เสื้อผ้าออกจากพื้น ตามหลักแล้ว ให้เก็บสัมภาระของคุณไว้บนชั้นวางโลหะที่จัดไว้ให้ เนื่องจากตัวเรือดจะไม่ไต่ไปบนนั้น © DigitallySound / Reddit
• โรงแรมอิสระ/โรงแรมบูทีคส่วนใหญ่เกลียดการต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับบริษัทนำเที่ยว ซึ่งมีราคาสูงมาก แต่ก็จำเป็น ดังนั้นหากคุณโทรหาพวกเขาโดยตรง พวกเขาจะให้ข้อเสนอที่ดีกว่ามาก เนื่องจากพวกเขาจะทำกำไรได้มากขึ้น แต่พวกเขาไม่สามารถโฆษณาข้อเสนอส่วนลดเหล่านั้นได้ เนื่องจากขัดต่อข้อตกลงที่ทำกับเอเจนซี่ © DigitallySound / Reddit
• การขออัปเกรดห้องไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่อย่าลืมระบุว่ามีเหตุผลในการอัปเกรด (วันเกิด งานแต่งงาน ฯลฯ) แล้วคุณอาจได้รับเซอร์ไพรส์พิเศษ © kanada_kid / Reddit

• พนักงานในเรือสำราญส่วนใหญ่ไม่ได้รับการฝึกฝนที่ดีพอที่จะรับมือกับสถานการณ์ “สละเรือ” ได้ ดังนั้นมันคงจะโกลาหลน่าดูหากเกิดเหตุขึ้นบนเรือขนาดใหญ่ การบรรยายสรุปด้านความปลอดภัยที่คุณไปเป็นแค่ห้องบรรยาย และเราอยากไปที่นั่นให้น้อยกว่าคุณอีก นอกจากนี้กัปตันจะได้รับโบนัสจากการประหยัดเชื้อเพลิง การออกจากท่าเรือก่อนเวลา หรือการไปถึงช้า นั่นหมายความว่าเรือแล่นช้าลงและประหยัดเชื้อเพลิง ซึ่งหมายถึงเงินที่มากขึ้นสำหรับกัปตัน © Thoranus / Reddit
• บางครั้งโรงแรมจะปล่อยให้จองห้องพักเกินจำนวนห้อง โดยทั่วไปจะทำกันในฤดูร้อน เนื่องจากเป็นฤดูที่วุ่นวาย แล้วพวกเขาเผื่อไว้สำหรับบางคนที่ยกเลิกหรือไม่ปรากฏตัว ดังนั้นจึงนับว่าเป็นความคิดที่ดีอยู่เสมอที่จะโทรยืนยันการจองของคุณในวันที่เดินทางไปถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณจะไปถึงช้า © TinkerBell6160 / Reddit
• ฉันทำงานในรีสอร์ตหรูแห่งหนึ่งที่ค่าห้องโดยเฉลี่ยคืนละ 17,356 บาท ฉันทำงานในแผนกนันทนาการ ฉันจะบอกว่าสถานรับเลี้ยงเด็กของเราค่อนข้างปลอดภัย แต่สิ่งเดียวที่เราจะบอกคุณอยู่เสมอก็คือลูกของคุณมีช่วงเวลาที่ดี ไม่ว่าพวกเขาจะร้องไห้จนกระทั่งก่อนที่คุณจะไปถึงที่นั่น
  ผู้ปกครองทิ้งเบอร์โทรเอาไว้ เผื่อเด็กอยากกลับบ้าน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เด็กบ่นว่าอยากกลับ เราก็ทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อให้พวกเขาอยู่ต่อ © wwwdotfacebookdotcom / Reddit

• ฉันเคยทำงานในโรงแรมหรูหราระดับ 5 ดาวหลายแห่งทั่วโลก แล้วคุณจะตกใจเมื่อคุณได้รู้คุณภาพของอาหารในบุฟเฟ่ต์ เพราะฉันเคยเห็นการใส่สีผสมอาหารสีเหลืองและระบุว่าเป็น “ซอสหญ้าฝรั่น” ส่วนปลากะพงทอดน่ะเหรอ ? เป็นปลาเนื้อขาวทอดที่อยู่ในถุงที่มีข้อความเขียนติดว่า “ปลาเนื้อขาว”
  คนเปลี่ยนวันหมดอายุของผลิตภัณฑ์ เพื่อไม่ให้ค่าใช้จ่ายส่วนอาหารเพิ่มขึ้น จำนวนอาหารแช่แข็งที่ขายได้แล้วติดฉลากเอาไว้ว่า “อาหารสด” นั้นน่าตกใจสุด ๆ ไปเลย ! ดังนั้นอาหารแบบจานเดียวมีแนวโน้มที่จะมีคุณภาพดีกว่ามากเลยล่ะ ! © Bigfatpie / Reddit
• ในฐานะคนที่ทำงานในโรงแรมใหญ่ในเมืองยอดนิยม ฉันอาจมีข้อมูลเชิงลึกบางอย่าง 1) เรื่องผ้านวมส่วนใหญ่เป็นเรื่องจริง ถ้าดูสะอาดไม่ยับก็ใช้ต่อได้ ไม่ต้องซัก หากมีรอยเปื้อนชัดเจนก็กำจัดออก 2) ส่วนใหญ่แล้วคุณจองห้องผ่านบุคคลที่สาม จึงไม่มีการรับประกันประเภทห้องของคุณ (เว้นแต่คุณจะจ่ายเงินเพิ่ม) ดังนั้นแล้วอย่าโวยวายเจ้าหน้าที่แผนกต้อนรับ © BayHarbourButcher / Reddit
• เรือสำราญที่ทันสมัยส่วนใหญ่มีเรือชูชีพไม่เพียงพอ โดยทั่วไปแล้ว ประมาณ 2 ใน 3 ของผู้โดยสารที่อยู่บนเรือสามารถพอดีกับจำนวนเรือและแพได้ ข้อสันนิษฐานคือ ก) เรือจะไม่ล่ม และ ข) ถ้าเกิดเรือล่ม ผู้โดยสารประมาณหนึ่งในสามจะไม่รอด อย่างไรก็ตามเพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมาย เรือสำราญจำเป็นต้องคุ้มครองในกรณีที่เรือล่ม
  ดังนั้นเมื่อสองในสามของที่นั่งถูกจองแล้ว คนที่เหลือจะได้รับส่วนลดเยอะมากตามที่คุณเห็นในโฆษณา หากคุณจองหนึ่งในที่นั่งบนเรือที่ลดราคา ขอให้อ่านรายละเอียดเล็ก ๆ ในการจองของคุณ แล้วคุณจะพบว่าคุณจะมีสิทธิ์ได้ที่นั่งบนเรือก็ต่อเมื่อไม่มีผู้โดยสารที่จ่ายราคาเต็มอยู่ที่นั่นเพื่อใช้สิทธิ์ © C**RK / Reddit

ประสบการณ์ในโรงแรมหรือร้านอาหารที่เลวร้ายที่สุดของคุณคืออะไร ? แล้วคุณรู้เรื่องราวหรือตำนานอะไรบ้างที่เกี่ยวกับสถานประกอบการประเภทนี้ ?