ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

19 ผู้คนที่จะมาบอกเล่าประสบการณ์ในร้านอาหารที่ไม่มีวันลืมได้ลง

เราทุกคนต่างก็ต้องแวะไปตามร้านคาเฟ่หรือร้านอาหารกันบ้างทั้งนั้น ซึ่งในขณะที่เราอาจมีเหตุผลต่างกันไป อย่างอาจจะไปเฉลิมฉลองวันพิเศษต่าง ๆ หรืออาจจะมีนัดกับเพื่อน แต่มีสิ่งหนึ่งที่จะคงเดิมตลอดเวลา นั่นก็คือเราต่างก็อยากได้มื้ออาหารดี ๆ ด้วยกันทั้งนั้น แต่บางครั้งสิ่งที่พนักงานเสิร์ฟยกออกมาอาจทำให้เรามีความรู้สึกมากมายปะปนกันไปหมด ผสมกับความไม่ไว้วางใจอยู่ในนั้น แทนที่จะรู้สึกมีความสุขไปกับมัน และเราก็เกือบพร้อมที่จะพูดออกไปแล้วว่า “นี่ล้อกันเล่นใช่มั้ย !”

ผู้ติดตามแพลตฟอร์มควอรา (Quora) ต่างจดจำช่วงเวลาในร้านอาหารเหล่านี้ได้อย่างขึ้นใจ และยังมีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตคนอื่นทั้งหลายที่ตัดสินใจเข้ามาร่วมแชร์ประสบการณ์ด้วย ชีวิตสดใสได้อ่านเรื่องราวทั้งหมดแล้วจึงคัดเลือกเรื่องราวที่น่าสนใจมากสุด ๆ มาให้ทุกคนได้อ่านกัน และไม่ลืมที่จะเพิ่มช่วงโบนัสให้คุณ ๆ ได้อ่านกันท้ายบทความเช่นเคย

19.

สามีกับฉันพากันไปที่ร้านอาหารแห่งนี้ แล้วฉันก็ไปสะดุดตาเมนูขนมที่มีชื่อว่า “แอปเปิ้ลพายแบบไทย” ก็เลยสั่งมาลองชิม ฉันชอบขนมที่เป็นพวกพายมาก และก็ชอบอาหารไทยด้วย ดังนั้นก็เลยรอให้อาหารมาเสิร์ฟด้วยความหวังมากสุด ๆ และแล้วพวกเขาก็นำสิ่งนี้มาเสิร์ฟให้ฉัน ตัวพายดูเหมือนแอปเปิ้ลชิ้นเล็ก ๆ 4 — 5 ชิ้นที่เอาไปคลุกเคล้าผัดกับเนย เอาซอสช็อกโกแลตมาละเลงอีกนิดหน่อย กับช็อกโกแลตชิป 11 เม็ด (ใช่แล้ว ฉันนับมันด้วย) ฉันแอบร้องหน่อยนึงเลยและสาบานไว้เลยว่าจะไม่กลับมากินที่ร้านนี้อีกเป็นอันขาด © Madhuri Peri Bhattacharya / Quora

18.

“ฉันไม่เคยกินซาโมซ่าไก่มาก่อนเลยในชีวิต ฉันเลยอยากลองกินดู ก็เลยสั่งมาหนึ่งที่ ตอนที่เห็นกล่องฉันนี่แบบว่า ‘ว้าว ! เป็นซาโมซ่าที่ชิ้นใหญ่มากเลยนะเนี่ย !’ แต่พอเปิดกล่องออกมาเท่านั้นแหละ”

17.

ภรรยากับผมเราไปฉลองวันครบรอบแต่งงานปีที่ 2 ด้วยกัน เราทั้งสองคนตัดสินใจที่จะเริ่มจากซุปหัวหอมฝรั่งเศสก่อนเป็นอันดับแรก ตอนที่มันมาถึง เราถึงได้รู้ว่ามันดูไม่ค่อยจะเหมือนซุปหัวหอมเท่าไหร่เลยนะ แทนที่จะมีชีสละลายอยู่บนน้ำซุป กลายเป็นว่าในถ้วยมีอะไรบางอย่างที่เป็นผงเล็ก ๆ ละเอียด ๆ เต็มไปหมด ตอนที่ผมลองชิมนี่เกือบสำลักออกมาเลย เพราะรสชาติอย่างกับผมตักเกลือเต็มช้อนเข้าปากอย่างไรอย่างนั้น พอบริกรสาวมาถึงผมก็ขอให้เธอช่วยอธิบายให้ฟังหน่อยซิว่าเกิดอะไรขึ้นกับซุปนี่ ซึ่งเธอบอกว่า “คือมอสซาเรลล่าชีสมันหมดน่ะค่ะ เราก็เลยต้องบดพาเมซานชีสลงไปแทน” เราก็เลยขอคืนซุปกลับไปเลย © Tom Curran / Quora

16.

ผมกับเพื่อนมาค้างคืนกันที่โรงแรม และเราก็สั่งรูมเซอร์วิสในตอนเช้า ซึ่งราคารวมอยู่ในค่าห้องอยู่แล้วนะ เราฝากโน้ตไว้ว่าเราไม่กินเนื้อสัตว์นะ ซึ่งพวกเขามีเมนูอาหารมังสวิรัติอยู่อย่างจำกัดแหละ แต่ยังไงก็ควรจะกินกันได้พอสำหรับสองคนอยู่หรอกนะ และเราก็ได้รับอาหารขึ้นมาส่งให้ที่ห้อง สุดท้ายแล้วเราได้มะเขือเทศมาครึ่งลูก เห็ดแชมปิญอง 6 ดอก แฮชบราวน์หนึ่งชิ้น และน่าจะเป็นถั่วอีกช้อนโต๊ะ ทั้งหมดนี้ต่อคน จะบอกว่าผมหงุดหงิดมากก็ยังเป็นคำพูดที่น้อยกว่าความจริงไปเยอะ ! © Jade Smith / Quora

15.

“เคยอยากจะฟาดไอศกรีมให้เรียบทั้งโต๊ะมานานแล้ว”

14.

ตอนที่ฉันเรียนม.ปลาย พ่อกับแม่เคยพาฉันไปที่ร้านอาหารเอธิโอเปียแห่งหนึ่ง เราสั่งจานแบบที่รวมมิตรมาเพื่อจะได้ลองอะไรหลาย ๆ อย่างได้มากที่สุด ไม่นานหลังจากนั้นเจ้าของร้านก็ยกถาดใหญ่ ๆ มาเสิร์ฟ ซึ่งมีจานอาหารเล็ก ๆ เป็นสิบเลยวางเรียงโอบล้อมกองขนมปังอยู่ แต่ไม่มีช้อนส้อมมาให้นะ มีแต่กระดาษเช็ดมือ

เราได้แต่นั่งงงงันอยู่ตรงนั้นชั่วครู่ เจ้าของร้านก็จัดการฉีกขนมปัง จิ้มลงไปในเมนูที่เป็นถั่วเลนทิลอร่อย ๆ จานหนึ่ง แล้วก็ยัดเข้าปากพ่อฉันทันทีด้วยมือเปล่านั่นแหละ แถมทำแบบเดียวกันกับฉันด้วย © Dan Fink / Quora

13.

เมื่อฤดูร้อนปี 2017 ผมไปเที่ยวที่อิตาลีและแวะที่เมืองเนเปิลส์ (Naples) 2 — 3 วัน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าตอนนั้นผมเที่ยวแบบประหยัดมากนะ โดยจะกินอาหารแค่วันละ 2 มื้อ หลังจากที่ออกไปเดินเล่นจนทั่วมาทั้งวันซึ่งเป็นวันที่แสนยาวนาน ผมก็ตัดสินใจที่จะเข้าไปในร้านอาหาร ผมหิวมากก็เลยสั่งพาสต้ามากิน กว่าอาหารที่สั่งไปจะมาถึงนี่ผ่านไปนานมาก และเมื่อพนักงานเสิร์ฟยกอาหารของผมเข้ามา ผมก็ได้พบกับสิ่งนี้ ผมนั่งจ้องมองมันอยู่ 2 นาทีได้ ก่อนที่จะถ่ายรูปด้วยซ้ำ ผมต้องจ่ายเงิน 400 บาท (11 euros) เพื่อสิ่งนี้แถมยังต้องบวกทิปให้ด้วย ซึ่งกินเข้าไป 4 คำก็หมดแล้ว สิ่งนี้ทำให้ผมหัวเราะไม่หยุดจนมาถึงโฮสเทลเลย และยังขำกับเรื่องนี้มาจนถึงวันนี้ ผมว่าผมน่าจะถูกล้อเล่นเข้าให้แล้ว © Shruthi H / Quora

12.

“ผมจ่ายเงินให้กับเมนูบางอย่างที่เรียกว่า ‘เบอร์เกอร์ไททานิค’ ซึ่งมีคำบรรยายไว้ในเมนูแค่ว่าเป็นเบอร์เกอร์อย่างหนึ่ง และนี่คือสภาพตอนที่มันมาถึง”

11.

เมื่อ 10 ปีก่อนที่ผมได้ไปที่ประเทศซาอุดิอาระเบียเป็นครั้งแรก ผมว่าจะออกไปหาอาหารกลางวันกิน ปกติคนขับรถของเราจะสั่งอาหารแบบสั่งกลับบ้านมาให้เรากิน แต่ครั้งนั้นผมตัดสินใจที่จะไปกินกับเขาด้วย เขาแนะนำสิ่งที่เรียกว่ากับซะฮ์ไก่ (Kabsa) ให้ผมกิน ซึ่งผมไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันคืออะไร และคำอธิบายของคนขับรถผมก็แค่บอกมาประมาณว่ามันเป็นข้าวแบบอาหรับกับไก่ และคนขับรถก็ถามผมว่า “คุณอยากได้ครึ่งหนึ่งหรือที่นึงเลย ?” ผมหิวมากตอนนั้น แลนด์ลงมาจากเครื่องบินก็ตีสามแล้ว ยังไม่ได้นอนดี ๆ สักตื่นเพราะไฟลท์ยาวกว่า 9 ชั่วโมง แถมยังไม่ได้กินอาหารเช้า ผมก็เลยเลือกรับที่นึงมาเลย

หนึ่งชั่วโมงต่อมา อาหารก็มาถึงในถุงพลาสติกใสที่เต็มไปด้วยข้าวที่เรียกได้ว่ามากพอที่จะเลี้ยงครอบครัวชาวอินโดนีเซียได้ 4 คนเลย แล้วผมก็เห็นไก่ย่างมาในลังกระดาษ กลายเป็นว่าเจ้ากับซะฮ์ไก่จานนี้กลายเป็นอาหารกลางวัน อาหารเย็น อาหารเช้าของอีกวัน และอาหารกลางวันของอีกวันได้เลย แถมผมยังพอมีข้าวเหลือหลังจากนั้นอีกด้วยนะ © Bayu Riyadi / Quora

10.

“ผมตัดสินใจที่จะไปฉลองวันเกิดตัวเองที่ร้านอาหารราคาแพงแห่งหนึ่งในโตรอนโต ซึ่งผมรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่กับที่นี่ตั้งแต่ก่อนที่จะสั่งอาหารละ และท้ายที่สุดเมื่อพนักงานเสิร์ฟยกอาหารมาให้เรา ก็ยิ่งไม่ได้ทำให้ความประทับใจที่ผมมีต่อร้านนี้ดีขึ้นได้เลย เราจ่ายไป 1,100 บาท ($30) เพื่อราวิโอลี 5 ชิ้นอ่ะคิดดู” © Arman Parmar / Quora

9.

“ดูเหมือนฉันไม่มีทางจะตักซุปกินได้เลยนะเนี่ย”

8.

“ฉันคงต้องมีมือที่ใหญ่กว่านี้หน่อยถึงจะถือเบอร์เกอร์ชิ้นนี้ได้แฮะ”

7.

ตอนนั้นฉันอยู่ในช่วงหยุดพักร้อนก็เลยไปที่คาเฟ่แห่งหนึ่ง บริกรบอกฉันว่าให้สั่งพิซซ่าที่ขึ้นชื่อของทางร้าน และคุยว่าทุกคนต่างมาที่นี่เพื่ออาหารจานนี้โดยเฉพาะ ฉันก็เลยตัดสินใจลองดูและก็เริ่มตั้งหน้าตั้งตาคอย ฉันรอแล้วรอเล่า รอแล้วรอเล่า รอจนกระทั่งสุดท้ายพนักงานก็เดินกลับมา ในมือเขามีพิซซ่าไหม้ ๆ ชิ้นเล็ก ๆ พร้อมกระดาษแข็งกลม ๆ รองอยู่ข้างใต้ ซึ่งมันดูเหมือนเป็นของที่วางรองพิซซ่าแช่แข็งที่ซื้อได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตน่ะ ปกติฉันไม่ใช่คนที่ช่างติเรื่องอาหารอะไรสักเท่าไหร่นะ ซึ่งปกติมักจะกินอะไรก็ได้โดยไม่ตั้งข้อสงสัยใด ๆ เลย แต่ครั้งนี้มันเกินกว่าที่ฉันจะเข้าใจได้จริง ๆ

ฉันก็เลยถามบริกรไปว่า “พวกคุณวัตถุดิบหมดเลยต้องไปซื้อพิซซ่าแช่แข็งมาเสิร์ฟให้ฉันเหรอ ?” ฉันบอกได้เลยว่าฉันทำเขาตกใจมาก เหมือนกับว่าเขาไม่ได้คิดว่าฉันจะจับได้น่ะ แต่เขาก็ยืนยันข้อสงสัยของฉันนะ แล้วก็ขอโทษ แถมเสนอที่จะเอารายการนั้นออกจากใบเสร็จคิดเงินของฉันด้วย © Robert Puckett / Quora

6.

“พิซซ่ามาร์การิต้าที่ทำให้ผมไม่อยากจะกิน...หรือแม้แต่มีชีวิตอยู่เลยเหอะ”

5.

เพื่อนผมเล่าว่าโรงอาหารที่ทำงานของพวกเขาพยายามที่จะเอาใจคนที่ไม่กินเนื้อสัตว์ พวกเขาก็เลยเพิ่มซุปแบบเดียวกันเข้าไปในเมนู เป็นแบบที่มีเนื้อและไม่มีเนื้อ ตอนพักกลางวันของเขา เพื่อนผมก็ไปขอเจ้าซุปนี่มาชามนึง พ่อครัวก็ค่อย ๆ ตักน้ำซุปกับใส่ผักเข้าไปในชาม และก็ถามเพื่อนผมว่าเขาอยากได้ซุปแบบเป็นมังสวิรัติรึเปล่า เพื่อนผมก็เลยเลือกแบบที่มีเนื้อสัตว์ พ่อครัวก็เลยตักเนื้อจากหม้อเดียวกันนั่นแหละมาใส่ในชามนั้น เพื่อนผมถึงกับพูดไม่ออกเลยทีเดียว © Irreverse / Pikabu

4.

“พนักงานเสิร์ฟเอาจานนี้มาให้และพูดว่า ‘อย่ากินก้อนหินนะคะ’”

3.

ฉันเกลียดเมนูหวาน ๆ ที่มีเนื้อวัว สัตว์ปีก หรืออาหารทะเลอยู่ในนั้น มีครั้งนึงที่ฉันไปที่ร้านอาหารจีนและเห็นรูปกุ้งอยู่ในเมนู ซึ่งมันดูดีมากเลย ฉันก็เลยตัดสินใจที่จะสั่งเมนูนี้ ซึ่งฉันรู้ดีนะว่าคนจีนชอบใส่น้ำตาลลงไปในเมนูที่คุณคาดไม่ถึงมากแค่ไหน ฉันก็เลยบอกพนักงานเสิร์ฟว่า “คุณทำกุ้งนี่โดยไม่ใส่น้ำตาลรึเปล่าคะ ?” ซึ่งเธอก็ยืนยันมาว่า “ค่ะ ไม่ได้ใส่น้ำตาล” แล้วเธอก็เอาอาหารที่ฉันสั่งมาให้ ฉันลองชิม แล้วฟันฉันก็เหมือนติดหนึบอยู่กับน้ำเชื่อมอะไรบางอย่าง พนักงานเสิร์ฟสาวที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ได้ใส่น้ำตาลเลยค่ะ ใส่แต่น้ำผึ้งแท้ ๆ !” © Yuriy8 / Pikabu

2.

“เราสั่งของหวานจากร้านฟาซอส (Faasos) ที่เปิดเป็นเดลิเวอรี่ นี่คือสิ่งที่เราคาดหวังว่าจะได้ และนี่คือสิ่งที่เราได้มา”

1.

ฉันคงสามารถอธิบายได้แค่ว่า พวกมันเป็น “เกี๊ยวไดโนเสาร์สเตโกซอรัส” น่ะ

ของแถม: “ฉันสั่งแซนด์วิชไอศกรีมที่เมืองไทย...นี่คือสิ่งที่พวกเขาให้ฉัน”

เคยมีเมนูอาหารจากร้านคาเฟ่หรือร้านอาหารไหนไหมที่ทำให้คุณถึงกับประหลาดใจสุด ๆ ? มันมีตรงไหนที่แปลกมาก ๆ เหรอ ?

เครดิตภาพพรีวิว Imgur
ชีวิตสดใส/สิ่งแปลกๆ/19 ผู้คนที่จะมาบอกเล่าประสบการณ์ในร้านอาหารที่ไม่มีวันลืมได้ลง
แชร์บทความนี้