ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

7 เรื่องไม่เป็นเรื่องที่เรารู้สึกอายมาทั้งชีวิต

แทบทุกคนน่าจะเคยได้ยินประโยคว่า “คุณมันช่างน่าอาย !” และทำให้เราดันทำตามสิ่งที่ไม่ใช่กฎอะไรเลย เวลาที่เราอยู่ภายใต้ความรู้สึกเหล่านี้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยที่บ้านจะรกหรือคุณจะใส่รองเท้าคู่เดิมมาเป็น 10 ปี เพราะว่าคุณชอบมัน หรือแม้กระทั่งการอ่านหนังสือไร้สาระแทนที่จะอ่านวรรณกรรมชั้นเอก

พวกเราชีวิตสดใสสนใจบทความโดยนักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสิ่งที่คนอื่นมักจะทำให้เราอับอายมาก ๆ

1. การอยู่ในบ้านที่รก

ยังคงมีคนคิดว่าผู้ชายที่ยังไม่แต่งงาน ถ้าบ้านจะรกก็ไม่แปลกอะไร แต่ถ้ามีผู้หญิงอยู่ด้วย บ้านจำเป็นต้องสะอาด เรื่องของเรื่องคือ สำหรับบางคนการถูพื้นและล้างจานเปรียบเสมือนการทำสมาธิอย่างหนึ่ง แต่สำหรับบางคนมันคือความทรมาน

บางครั้งมันก็เป็นเรื่องไร้สาระ เมื่อเราจ้างคนมาทำความสะอาดบ้าน แต่เราก็ต้องทำความสะอาดเองบางส่วนก่อน เพื่อที่เขาจะได้ไม่เห็นว่าเราทำรกไว้แค่ไหน หรือเวลามีใครมาเยี่ยม เราต้องใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงในการเก็บกวาด

ในบริเตนใหญ่ มีงานวิจัยที่มีผลสรุปว่ามากกว่า 50 เปอร์เซนต์ของผู้ตอบแบบสอบถาม รู้สึกอายในสภาพของที่อยู่อาศัยของตัวเอง และ 1 ใน 3 ของพวกเขาก็ไม่ชอบรับแขกเพราะสาเหตุนี้

สิ่งนี้หมายความว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องอายสภาพบ้านของคุณ เพราะคนส่วนใหญ่ก็รู้สึกแบบเดียวกับเรา

2. การร้องไห้ในที่สาธารณะ

ทัศนคติแบบเหมารวมเกี่ยวกับการมองว่าผู้หญิงที่ร้องไห้เป็นผู้หญิงเจ้าน้ำตา และผู้ชายที่ร้องไห้เป็นผู้ชายอ่อนแอควรจะยกเลิกไปได้แล้ว ไม่ใช่ทุกคนที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ตลอดเวลา และนั่นก็ไม่ใช่เรื่องผิด

จำไว้ว่า มีคนคอยช่วยเหลือคุณอยู่เสมอ ถ้าคุณต้องการ

3. การไปพบนักบำบัด

ในบางประเทศ ความช่วยเหลือทางด้านจิตวิทยายังคงเป็นสิ่งต้องห้าม ถ้ามีใครไปพบนักบำบัด เขาอาจจะถูกมองว่าเป็นบ้า หลาย ๆ คนจึงเลือกที่จะซ่อนความจริงนี้ไว้ แม้กระทั่งจากครอบครัวที่ใกล้ชิดที่สุดและเพื่อนของพวกเขา หากคุณเปิดใจกับใครซักคน คุณจะพบว่ามีผู้คนมากมายที่รู้สึกแบบเดียวกันกับคุณ แต่ที่เขาไม่ไปพบนักบำบัดเป็นเพราะว่าพวกเขาอาย

4. การไม่อ่านอะไรดี ๆ

ในโลกที่ศิลปะคลาสสิคได้รับความเคารพ (วรรณกรรม, ศิลปะ, ภาพยนตร์) มันยากที่จะเป็นคนที่สนใจแค่ศาสตร์สมัยใหม่ ลองบอกใครซักคนว่าคุณไม่อยากอ่านตอลสตอย, อูว์โก, ดูว์มา และนักเขียนคลากสสิคคนอื่น ๆ ดูสิ แต่สำหรับทุกวันนี้วรรณกรรมไม่ใช่แหล่งความรู้ แต่เป็นการสร้างความบันเทิงให้ตัวเอง หลาย ๆ คนไม่อ่านอะไรเลยด้วยซ้ำ

แต่ในความเป็นจริง มันเกี่ยวกับรสนิยมของตัวคุณเอง ถ้าคุณคลั่งดนตรีแร็ปและเรื่องสั้นสืบสวน นั่นก็เป็นทางเลือกของคุณ แน่นอนว่าศิลปะคลาสสิคดีต่อองค์ความรู้ทั่วไป แต่คุณไม่จำเป็นต้องรักมัน

5. การลืมหรือสับสนชื่อ

เมื่อคุณไปงานปาร์ตี้ขนาดใหญ่และมีใครบางคนแนะนำคุณให้กับกลุ่มคน มันเป็นไปได้ว่าคุณจะลืมชื่อของพวกเขาภายใน 1-2 วินาที มันเป็นเรื่องปกติมาก ๆ เพราะว่าสมองของเราไม่ต้องการเสียพลังงานไปกับการท่องจำชื่อคน มันไม่ได้สำคัญขนาดนั้น กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ การลืมชื่อเป็นเรื่องปกติของทุกคน

6. การนินทา

สำหรับหลาย ๆ คนแล้วการนินทาเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ แต่ในความเป็นจริง มันมีอีกหนึ่งมุมมอง เช่น นักสังคมวิทยาคิดว่าการนินทาเป็นทักษะทางสังคมที่เป็นประโยชน์ ที่ช่วยให้เราได้แบ่งปันข้อมูลกัน เพื่อที่จะได้รู้ว่าใครมีแหล่งข้อมูล ผู้ติดต่อและอื่น ๆ

ดังนั้น การนินทาไม่ใช่อะไรที่น่าละอาย แต่เป็นวิธีการรักษาการติดต่อกับสมาชิกคนอื่น ๆ ของสังคม และวิธีแสดงทัศนคติของตัวเองต่อบางคนหรือบางอย่าง

7. การใส่รองเท้าหรือเสื้อผ้าที่เก่าหรือตกยุคแล้ว

ในทุกช่วงเวลาของประวัติศาสตร์ เสื้อผ้าเป็นเครื่องบ่งบอกว่าบุคคลนั้นประสบความสำเร็จเพียงใด และมันยังคงเป็นความจริงเสมอ ลองนึกดูว่า ในขณะที่คุณใส่กางเกงยีนส์ไปโรงละคร และคนอื่น ๆ ใส่ชุดกระโปรงและชุดทักซิโด้ สิ่งที่คุณจะรู้สึกได้ทันทีเลยคือคุณจะรู้สึกอาย แต่การไม่แต่งตัวตามเดรสโค้ดหรือการใส่เสื้อผ้ามือสองนั้นเป็นเรื่องปกติ การใส่รองเท้าคู่เดิมในหลาย ๆ เทศกาลก็เช่นกัน ไม่มีใครควรรู้สึกอายเพียงเพราะไม่สามารถซื้อเสื้อผ้าใหม่เอี่ยม หรือแค่เพราะว่าไม่อยากใช้เงินไปกับมัน

มีคนที่คุณรู้จักที่ชอบทำให้คนอื่นรู้สึกอายบ้างไหม ?

เครดิตภาพพรีวิว unknown author / pikist, unknown author / pikist
แชร์บทความนี้