9 ความแตกต่างระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงที่มีคำอธิบายอันไม่คาดคิดเลยล่ะ

วันนี้ทางเราอยากที่จะพูดถึงความแตกต่างระหว่างชายและหญิง ซึ่งคุณอาจพูดได้ว่าคุณรู้จักความแตกต่างเหล่านี้มาทั้งชีวิตแล้วล่ะ แต่ทว่ามันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกนะ เพราะเรามั่นใจว่าจะสามารถเน้นข้อเท็จจริงบางอย่างในเรื่องนี้ที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อน แล้วในส่วนโบนัสท้ายบทความ คุณจะได้พบว่าแฟชั่นรองเท้าส้นสูงนั้นมาจากไหนกัน

ความยาวของนิ้ว

ให้ลองทำการทดลองสั้น ๆ ด้วยการวางมือของคุณลงบนพื้นราบแล้วเปรียบเทียบความยาวของนิ้วชี้และนิ้วนางของคุณดู โดยทั่วไปแล้วผู้หญิงจะมีนิ้วชี้ยาวกว่า ส่วนผู้ชายนิ้วนางจะยาวกว่า สิ่งนี้สามารถอธิบายได้อย่างไรกันนะ ?

นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าความยาวของนิ้วเหล่านี้ขึ้นอยู่กับระดับของฮอร์โมนเพศชายและเพศหญิงที่ส่งผลต่อทารกในครรภ์ ดังนั้นแล้วเหตุผลที่นิ้วนางยาวกว่านิ้วชี้ในผู้ชายก็คือฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน

ผิวส้นเท้า

นักวิทยาศาสตร์พบว่าผิวของผู้หญิงมีความชุ่มชื้นตรงบริเวณเนินอกและมือมากกว่า มีแค่เฉพาะผิวหนังตรงส้นเท้าเท่านั้นที่แห้งกว่าผู้ชาย ดังนั้นแล้วในสภาวะที่เท่ากัน ส้นเท้าของผู้ชายจะเรียบเนียนกว่า

หน้าอก

คุณอาจคิดว่า “ทำไมผู้ชายถึงต้องมีหัวนม ?” อาจฟังดูแปลก แต่ทว่าทุกคนในตอนแรกเป็นผู้หญิง ตอนที่ตัวอ่อนเริ่มพัฒนาในครรภ์ โครโมโซม Y ของผู้ชายไม่ได้เริ่มทำงานในทันที

ในช่วง 5-6 สัปดาห์แรก การพัฒนาจะเกิดขึ้นภายใต้อิทธิพลของโครโมโซม X เท่านั้น ดังนั้นหัวนมจึงมีเวลาเพียงพอในการสร้างตัวขึ้นมา หากตัวอ่อนเป็นเพศชาย โครโมโซม Y จะ “เปิด” หลังจากช่วงเวลานี้ แล้วเด็กผู้ชายจะก่อตัวเป็นรูปร่างขึ้น

ผู้ชายสามารถผลิตน้ำนมได้ โดยการหลั่งน้ำนมจะถูกกระตุ้นภายใต้สภาวะพิเศษ อย่างเช่นอาจเกิดขึ้นได้ระหว่างการรักษาด้วยฮอร์โมนโปรแลคติน

การมองเห็น

ผู้หญิงมองเห็นสีได้ดีกว่า แต่ผู้ชายเก่งในการติดตามวัตถุที่เคลื่อนไหวเร็ว โดยสิ่งนี้อาจเชื่อมโยงกับการเป็นนักล่าและผู้รวบรวมของเราในอดีต ตอนที่ผู้ชายเป็นนักล่าและผู้หญิงเป็นผู้รวบรวม

ตัวอย่างเช่น สีส้มอาจดูแดงสำหรับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ส่วนหญ้ามักจะดูเป็นสีเขียวสำหรับผู้หญิง เพราะสำหรับผู้ชายแล้ว วัตถุสีเขียวจะถูกมองเห็นเป็นสีเหลืองมากกว่า

การเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ

ผู้หญิงหลายคนต้องไปยิมเป็นประจำเพื่อให้ร่างกายมีสัดส่วน ในขณะที่ผู้ชายสามารถยกบาร์เบลล์ได้สองสามครั้งเพื่อให้ได้ซิกซ์แพ็ค ว่าแต่ “ส่วนประกอบ” ที่มีหน้าที่ในการพัฒนากล้ามเนื้อคืออะไรกันนะ ? หากคุณเดาว่าเป็นฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน คุณเดาถูกแล้วล่ะ

ในผู้หญิงก็มีการผลิตฮอร์โมนนี้เช่นกัน แต่ในปริมาณที่น้อยกว่ามาก ดังนั้นแล้วจึงเป็นเรื่องง่ายและเร็วกว่าสำหรับผู้ชายที่จะเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ

ผมร่วง

การหัวล้านหลังจากอายุ 50 ปีเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ชายประมาณครึ่งหนึ่ง (และสำหรับผู้หญิงหนึ่งในสี่ด้วย) สาเหตุของเรื่องนี้คือโรคทางพันธุกรรมที่แพร่หลาย นั่นก็คือภาวะผมบางจากพันธุกรรม ซึ่งเรียกอีกอย่างนึงว่า “หัวล้านแบบผู้ชาย” ด้วยเหตุนี้เองรูขุมขนจึงหดตัว ทำให้ผมบางลงและสั้นลงจนหายไปหมดในที่สุด

การหดตัวของรูขุมขนอาจเกิดจากความไวต่อฮอร์โมนไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ซึ่งนั่นหมายความว่ายิ่งผู้ชายมีฮอร์โมนสร้างกล้ามเนื้อมากเท่าไหร่ โอกาสที่พวกเขาจะหัวล้าน ก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

ลูกกระเดือก

ทั้งผู้ชายและผู้หญิงต่างก็มีลูกกระเดือก แต่เป็นลักษณะเด่นมากกว่าในผู้ชาย ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ? คำตอบก็คือลูกกระเดือกเป็นกระดูกอ่อนที่ปกป้องเส้นเสียงของเรา โดยมันเกิดขึ้นในช่วงวัยแรกรุ่น แล้วเนื่องจากผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะมีเส้นเสียงที่ใหญ่กว่า จึงทำให้ลูกกระเดือกของพวกเขาโดดเด่นกว่าเช่นกัน

นอกจากนี้ยิ่งลูกกระเดือกมีขนาดใหญ่เท่าใด เสียงก็จะยิ่งต่ำลงมากเท่านั้น ซึ่งมีทฤษฎีที่ว่าบรรพบุรุษของเราต้องการเสียงต่ำเพื่อขับไล่ผู้ล่า

ขนาดสมอง

สมองของผู้ชายมีขนาดใหญ่กว่าสมองของผู้หญิง แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้ชายจะมีสติปัญญาเหนือกว่าผู้หญิง นอกจากนี้สมองบางส่วนในทั้งสองเพศก็มีขนาดต่างกันและทำงานไม่เหมือนกัน ตัวอย่างเช่นในผู้หญิงสมองส่วนฮิปโปแคมปัสที่สัมพันธ์กับการเรียนรู้และสร้างความทรงจำนั้นมีขนาดใหญ่กว่า อีกทั้งสมองส่วนอะมิกดาลาที่สัมพันธ์กับการจัดการอารมณ์และการจดจำก็มีขนาดใหญ่กว่าในผู้ชายเช่นกัน

นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดลองในเรื่องนี้ โดยได้เปิดวิดีโอให้อาสาสมัครดู เพื่อให้พวกเขาระลึกถึงประสบการณ์ส่วนตัวบางอย่าง แล้วก็พบว่าในผู้ชายนั้น การทำงานเกิดขึ้นกับเฉพาะสมองส่วนอะมิกดาลาด้านขวาเท่านั้น ส่วนผู้หญิงเกิดขึ้นในด้านซ้ายเท่านั้น

หนวดเครา

เมื่อมองแวบแรก อาจดูเหมือนว่าหนวดเคราไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย แล้วทำไมมันถึงงอกขึ้นมากันนะ ? มีทฤษฎีที่ว่าขากรรไกรดูใหญ่ขึ้นเนื่องจากมีหนวดเครา ดังนั้นผู้ที่มีมันจึงดูแข็งแรงและดูเป็นผู้ชายมากกว่า บางทีบรรพบุรุษผู้หญิงของเรามักจะเลือกผู้ชายที่มีเคราหนาเป็นคู่ เพราะพวกเธอคิดว่าพวกเขาจะให้กำเนิดลูกหลานที่แข็งแรงให้กับพวกเธอได้

โบนัส: รองเท้าส้นสูง

ทุกวันนี้รองเท้าส้นสูงเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นผู้หญิงใช่หรือไม่ ? แต่ทว่าในศตวรรษที่ 17 นักขี่ม้าชาวเปอร์เซียเคยสวมรองเท้าส้นสูงหนึ่งนิ้ว เพราะการมีม้าคือสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง ดังนั้นแล้วรองเท้าส้นสูงก็หมายถึงเงินและอำนาจ ต่อมาชาวเปอร์เซียก็ได้นำแฟชั่นของพวกเขาไปยังยุโรป

พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 (Louis XIV) กษัตริย์แห่งฝรั่งเศสได้กลายเป็นแฟนตัวยงของรองเท้าส้นสูง โดยถึงขั้นออก
พระราชกฤษฎีกาที่ระบุว่ามีเพียงขุนนางเฉพาะเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้สวมรองเท้าส้นสูงได้ แล้วยิ่งส้นรองเท้าสูงและแดงมากเท่าใด ผู้สวมใส่ก็ยิ่งมีอำนาจมากขึ้นเท่านั้น

ราชาแห่งดวงอาทิตย์อนุญาตให้เฉพาะคนที่พระองค์ทรงโปรดปรานที่สุดเท่านั้นที่จะสวมรองเท้าส้นสูงสีแดงได้ แต่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 รองเท้าส้นสูงก็ได้กลายมาเป็นคุณลักษณะของผู้หญิงล้วน ๆ แต่สิ่งนี้ก็ไม่ได้หยุดร็อคสตาร์อย่างเดวิด โบวี่ (David Bowie) กับวงเดอะบีเทิลส์ (The Beatles) ในการสวมใส่พวกมัน

ข้อเท็จจริงข้อไหนในบทความนี้ที่เป็นเรื่องใหม่สำหรับคุณกันนะ ? บอกความคิดเห็นของคุณลงในคอมเมนต์ด้านล่างกันได้เลย