คำตอบของ 12 ข้อสงสัยธรรมดา ๆ ที่ทุกคนเห็นแล้วต้องบอกว่า เออใช่ ฉันก็เคยอยากรู้คำตอบเรื่องนี้จะตายอยู่แล้ว
ความสงสัยเป็นแรงจูงใจของมนุษย์ในการเรียนรู้ ยิ่งไปกว่านั้น การถามคำถามต่าง ๆ ก็สามารถจุดประกายความคิดสร้างสรรค์และการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ขึ้นมาได้ ด้วยเหตุนี้เอง คนเราทุกคนควรจะได้รับการสนับสนุนให้สามารถตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องอะไรก็ได้ อย่างไรก็ตาม บางคำถามที่สุมอยู่ในใจเรามานานก็ช่างหาคำตอบได้ยากเหลือเกิน
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมชีวิตสดใสจึงได้ค้นหาคำตอบของ 12 คำถามที่น่าสงสัยที่สุดมาให้คุณได้ไขข้อข้องใจกัน !
1. ใครควรมีสิทธิ์ได้ใช้ที่วางแขนตรงกลางกันแน่
จริง ๆ ก็ไม่เคยมีกฏเกณฑ์อย่างเป็นทางการบัญญัติไว้หรอกนะว่าใครควรมีสิทธิ์ได้ใช้ที่วางแขนที่อยู่ตรงกลางกันแน่ อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้เขี่ยวชาญด้านมารยาทต่างมีข้อสรุปของปัญหานี้ที่ตรงกัน นั่นก็คือคนที่ติดแหง็กอยู่ตรงที่นั่งตรงกลางควรจะได้เป็นคนใช้มันสิ ซึ่งเหตุผลก็มีดังนี้
คนที่นั่งริมทางเดินมีโอกาสที่จะได้ยืดแข้งยืดขา ขณะที่คนที่นั่งริมหน้าต่างก็มีข้อดีตรงที่สามารถเอนตัวพิงหน้าต่างและเพลิดเพลินไปกับภาพวิวได้ แถมยังควบคุมการเปิดปิดหน้าต่างรับแสงจากข้างนอกได้อีก แต่คนที่นั่งตรงกลางน่ะจะขยับตัวขยับแข้งขยับขาก็ลำบาก แถมไม่มีที่จะให้เอนพิงอีกต่างหาก
2. ทำไมขวดพลาสติกบรรจุน้ำอัดลมถึงมีร่องที่ก้นขวด ขวดน้ำเปล่าไม่เห็นต้องมีเลย
การมีร่องอยู่บริเวณนั้นก็เพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับขวดยังไงล่ะ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นนะ เพราะขวดพลาสติกจะต้องสามารถทนต่อแรงอัดของแก๊สที่อยู่ภายในน้ำอัดลมให้ได้ นอกจากนี้ เครื่องดื่มประเภทนี้มักจะต้องดื่มเย็น ๆ และเมื่อไหร่ก็ตามที่แก๊สของเหลวพวกนี้เย็นตัวขึ้นมา ปริมาตรของมันก็จะเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นขวดจะเสียรูปทรงแตกโพล๊ะเพราะสิ่งนี้ไม่ได้เด็ดขาด
แถมให้อีกนิด ที่มุมหรือตรงปลายร่องพวกนั้นมันสามารถขยายตัวได้นิดหน่อยด้วยนะ และยังหดตัวได้โดยที่ขวดจะไม่ปริแตกด้วย ซึ่งทำมาเพื่อรองรับปริมาตรที่เปลี่ยนไปนี้เช่นกัน
3. ทำไมแมลงวันถึงหาหน้าต่างที่อุตส่าห์เปิดไว้ให้ไม่เคยเจอ
แมลงวันมีลูกตาที่มาอยู่รวมกันซึ่งทำให้มันแยกกลางวันและกลางคืนออกจากกันได้อย่างแม่นยำมาก เมื่อมันบินวนไปรอบ ๆ ห้องคุณ สิ่งเดียวที่มันกำลังตามหาคือแหล่งที่มีแสงสว่าง ถึงแม้ว่าหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้ก็จัดว่าเป็นแหล่งที่มีแสงสว่างจุดหนึ่งเช่นกัน แต่มันกลับทำให้มีแรงลมจากข้างนอกพัดพาเข้ามาในห้องด้วย ลมเหล่านี้สร้างแรงกดอากาศที่เหล่าแมลงบินฝ่าไปไม่เก่งเท่าไหร่ ซึ่งทำให้มันชอบหลีกเลี่ยงหน้าต่างที่เปิดไว้และบินไปบินมาหาที่มาของแสงสว่างที่อื่นแทน
4. ทำไมน้ำแข็งถึงลื่นได้ล่ะ
น้ำแข็งจะลื่นก็ต่อเมื่อคุณเดินเหยียบมันเท่านั้นแหละ เพราะมันทำให้เกิดภาวะใกล้เคียงกับจุดที่น้ำแข็งจะหลอมละลายได้ การลื่นเกิดขึ้นจากการกลิ้งตัวไปเหนือโมเลกุลของน้ำที่ไม่สามารถเชื่อมติดกับโมเลกุลของน้ำตัวอื่น ๆ บนพื้นผิวได้ ซึ่งคุณลองนึกเปรียบเทียบกับฟลอร์เต้นรำที่เต็มไปด้วยลูกแก้วหรือลูกบอลมากมายดูก็ได้
5. ทำไมน้องเหมียวถึงครางกันนะ
คนส่วนมากชอบคิดว่าแมวมักจะครางออกมาเพราะมันพึงพอใจ ก็เสียงนั้นชอบหลุดออกมาตอนที่ดูเหมือนว่าแมวกำลังเคลิบเคลิ้มกับการถูกลูบหัวลูบหางทุกที อย่างไรก็ตาม มีการศึกษาพบว่าเสียงครางเหล่านั้นมีคุณสมบัติในการสื่อสารและการรักษา เหล่านักวิจัยยังค้นพบอีกว่าเสียงครางของน้องแมวนั้นสร้างคลื่นความถี่ที่ใช้ในการรักษาความเจ็บปวด ภาวะบวมน้ำ บาดแผล หรือแม้แต่อาการหายใจลำบากได้อีกด้วย นี่อาจจะเป็นคำอธิบายได้ว่าทำไมเหล่าทาสของน้องเหมียวหลายตัวถึงพบว่าการได้กอดเพื่อนซี้นุ่มนิ่มปุกปุยเหล่านี้ ถึงได้ทำให้รู้สึกผ่อนคลายนัก
6. จริง ๆ แล้วกระจกเป็นสีอะไรกันแน่
กระจกที่สมบูรณ์แบบจะต้องสามารถสะท้อนสีทุกสีที่มีได้ โดยคำจำกัดความทางวิทยาศาสตร์ของแสงสีขาวคือการที่มันจะต้องประกอบไปด้วยสีทุกสีที่มีอยู่มาผสมรวมกัน ด้วยเหตุนี้เองจึงสามารถพูดได้ว่ากระจกเป็นสีขาว
7. ทำไมสลอธถึงได้เชื่องช้านัก
อาหารการกินของสลอธนั้นคือใบไม้ล้วน ๆ ซึ่งมีสารอาหารต่ำมาก นั่นหมายความว่าเจ้าสัตว์ตัวนี้มักได้กินอะไรที่มีแคลอรีต่ำสุด ๆ และเพราะว่าพวกมันอาศัยอยู่บนต้นไม้ ต้องปีนต้นไม้อยู่ทุกวี่ทุกวันซึ่งต้องใช้พลังงานมากพอดู ดังนั้น เพื่อรักษาให้ร่างกายมีระบบการเผาผลาญที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เพื่อให้รับกับปริมาณแคลอรีอันต่ำแสนต่ำที่ได้รับเหล่านั้น พวกมันจึงเคลื่อนไหวได้ช้าสุด ๆ
8. ทำไมกาวถึงไม่ติดฝาหลอดล่ะ
กาวส่วนใหญ่จะมีน้ำเป็นตัวทำละลาย ซึ่งจะทำให้มันยังคงเป็นน้ำเหนียว ๆ อยู่ในหลอด ซึ่งมันจะเริ่มเหนียวหนึบก็ต่อเมื่อคุณบีบมันออกมาจากหลอดและติดลงบนพื้นผิวต่าง ๆ เท่านั้น พอมันสัมผัสกับอากาศโดยรอบ น้ำที่อยู่ในตัวกาวก็จะมีการระเหยออก ทำให้กาวแข็งตัว สิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงโมเลกุลเหนียว ๆ ที่ติดวัตถุไว้ด้วยกันเท่านั้น
9. ทำไมชุดแต่งงานต้องเป็นสีขาว
ในศตวรรษที่ 19 ผู้หญิงส่วนใหญ่เข้าพิธีวิวาห์ในชุดเดรสที่มักจะสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ในงานพิเศษอื่น ๆ ภาพฝันอันสวยหรูของงานวิวาห์สีขาวบริสุทธิ์ถูกวาดฝันและกระตุ้นโดยภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่จบลงที่พระเอกนางเอกแต่งงานมีสุขสมหวังตลอดไป แต่ว่ากันตามธรรมเนียมจริง ๆ แล้วนั้น มีแต่ครอบครัวคนรวยเท่านั้นแหละที่จะสามารถมีเงินพอที่จะซื้อหาชุดเจ้าสาวสีขาวได้ เพิ่งจะมาในปี 1950 เท่านั้น ที่คนชั้นกลางก็เริ่มที่จะเลียนแบบการแต่งกายเหล่านั้นบ้าง ต้องขอบคุณการพัฒนาที่ทำให้วัสดุต่าง ๆ มีราคาถูกลงในยุคความเจริญรุ่งเรืองภายหลังสงคราม
อย่างไรก็ตาม แม้กระทั่งในทุกวันนี้ ก็ยังไม่จำเป็นว่าทุกวัฒนธรรมจะต้องสวมชุดแต่งงานสีขาวเสมอไปหรอกนะ ยกตัวอย่างเช่น ในประเทศจีนและอินเดีย เจ้าสาวจะสวมชุดเดรสสีแดงแทนสัญลักษณ์ของความโชคดีและความสำเร็จ
10. ลายบนตัวม้าลาย
มีความเชื่อยอดนิยมอย่างหนึ่งที่คนเชื่อกันมานานแสนนานแล้วว่า แท้จริงแล้วม้าลายเป็นสัตว์สีขาวที่มีลายทางสีดำ อย่างไรก็ตาม จริง ๆ แล้วมันตรงกันข้ามเลยต่างหาก แรกเริ่มเดิมทีม้าลายมีสีดำนะ ซึ่งลายทางสีขาวเพิ่งมาปรากฏภายหลังในขณะที่ตัวอ่อนของม้าลายกำลังเจริญเติบโตอยู่ในท้องแม่นั่นเอง ซึ่งสามารถเห็นได้จากรูปด้านบน คุณจะเห็นได้ว่าลายของม้าลายตัวหนึ่งยังพัฒนาไม่ได้เต็มที่เท่าไหร่นัก
11. ทำไมน้ำส้มถึงรสชาติแย่มากหลังจากแปรงฟัน
ยาสีฟันเล่นตลกกับต่อมรับรสของคุณนิดหน่อยน่ะสิ มันไประงับความสามารถในการลิ้มรสหวาน ซึ่งหมายความว่ารสชาติอื่น ๆ ในอาหารอย่างเช่นน้ำส้ม จะเด่นมีออร่าขึ้นมาเสียเฉย ๆ สิ่งนี้เองทำให้ความหวานของน้ำส้มถูกระงับไว้ ในขณะที่รสชาติความขมกลับเพิ่มมากขึ้น ทันใดนั้นเครื่องดื่มรสชาติอร่อย ๆ ของคุณก็จะกลายเป็นกระเดือกแทบไม่ลงก็ด้วยประการฉะนี้
12. ทำไมฝ่ามือชอบมีเหงื่อออกเวลาตื่นเต้น
เหงื่อที่หลั่งออกมาเพราะความเครียดมาจากอาการประหม่าจากความตื่นเต้น โดยร่างกายของคุณจะหลั่งสารอะดรีนาลีนที่ทำให้หัวใจคุณเต้นแรงขึ้นเพื่อเตรียมรับมือกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป หน้าที่หลักของอาการเหงื่อออกคือเพื่อควบคุมอุณหภูมิของร่างกายเพื่อให้ร่างกายของคุณทำงานได้ จุดที่ร่างกายมีต่อมเหงื่อมาอยู่รวมกันสูงที่สุดก็คือฝ่าเท้าและฝ่ามือนั่นเอง
คำตอบเหล่านี้ทำให้คุณประหลาดใจได้บ้างไหมนะ ? ยังมีคำถามอะไรอีกไหมที่คุณอยากรู้คำตอบเช่นกัน ?