ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

งานวิจัยเผยว่าความรู้สึกอ่อนกว่าวัยสามารถช่วยให้คุณอายุยืนและมีสุขภาพดีขึ้นได้

การแก่ชราเป็นกระบวนการตามธรรมชาติของมนุษย์ ถึงแม้ความจริงที่ว่าเมื่อเวลาผ่านไป พวกเราหลายคนกลัวที่จะเป่าเทียนบนเค้กวันเกิดมากขึ้นเรื่อย ๆ นักวิทยาศาสตร์ก็ได้ค้นพบว่าความแก่ชราเป็นเรื่องของจิตใจ ไม่ใช่แค่ตัวเลขหรือรูปร่างหน้าตาที่เราเห็นในกระจกอีกต่อไป แต่มันคือความรู้สึกภายในของเรา แล้วการรู้สึกอ่อนกว่าวัยนั้นก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพ อีกทั้งยังน่าสนใจเพราะว่ามันสามารถช่วยให้คุณมีอายุยืนยาวขึ้นได้

พวกเราที่ชีวิตสดใสอยากค้นหาความลับในการใช้ชีวิตให้เต็มที่และมีอายุยืนยาว ดังนั้นเราจึงศึกษางานวิจัยต่าง ๆ เพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่เกี่ยวกับความรู้สึกของคุณทั้งหมด ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม คุณก็สามารถคงความอ่อนเยาว์เอาไว้ได้ตลอดไป นอกจากนี้พวกเรายังมีแรงบันดาลใจให้กับคุณอยู่ในท้ายบทความด้วยนะ

อายุใจสามารถบอกอะไรเกี่ยวกับตัวคุณได้

การรู้สึกอ่อนกว่าวัยหรือแก่กว่านั้นสามารถบอกลักษณะนิสัยของใครบางคนได้มากมาย อายุที่ผู้คนรับรู้หรือรู้สึกที่ไม่ใช่เลขอายุจริง ๆ เรียกกันว่า “อายุใจ” ซึ่งนักจิตวิทยาที่ชื่อไวสส์ (Weiss) และลัง (Lang) ได้กล่าวไว้ว่าเราอ้าแขนรับอายุใจเหล่านี้เพื่อเป็นวิธีจัดการกับความเครียดของวัยชรา

จากผลการศึกษาพบว่าคนที่มีอายุใจน้อยลงจะเป็นคนชอบเข้าสังคมมากกว่าและเปิดรับประสบการณ์ใหม่ ๆ ซึ่งตรงกันข้ามกับประชากรที่เหลือ อย่างไรก็ตามการมีจิตใจที่อ่อนกว่าวัยนั้นไม่ได้หมายถึงการไม่บรรลุนิติภาวะ เพราะผู้คนได้รับสติปัญญามาจากประสบการณ์ชีวิต ซึ่งความแตกต่างก็คือการตอบสนองต่อสถานการณ์ในมุมมองเชิงบวกที่ต่างกันและการควบคุมตนเอง

เมื่ออายุสามสิบ เราอยากที่จะเด็กลง

ในช่วงวัยรุ่น พวกเราส่วนใหญ่มีความต้องการที่จะแก่ให้เร็วขึ้น อย่างในหนังเรื่อง ต๊กกะใจ...ตื่นขึ้นมา 30 (13 Going on 30) ได้บอกว่าตอนที่อายุ 13 เราอยากจะอายุ “30 เป็นหนุ่มสาวเจ้าชู้และเติบโต” แต่ความจริงก็คือเมื่ออายุ 30 ปี อายุใจของเราประมาณ 70% ก็เริ่มลดลง อีกทั้งนักจิตวิทยาแอนนา คอร์นาดท์ (Anna Kornadt) ยังพบว่าเรามีความรู้สึกที่แตกต่างออกไปในมุมต่าง ๆ ของชีวิต

เมื่อพูดถึงหัวข้อต่าง ๆ เช่น การเงิน ซึ่งมีการเชื่อมโยงแบบเหมารวมกับความหมายแฝงในแง่ลบ โดยผู้คนมีแนวโน้มที่จะแสดงปฏิกิริยาราวกับว่าพวกเขามีอายุเด็กลง เพื่อแยกตัวออกจากกลุ่มอายุจริง อย่างเช่นการบอกว่าตัวคุณมีอายุ 45 ปีทั้งที่จริงแล้วอายุ 50 ปี อาจเป็นวิธีแสดงออกถึงการควบคุมตนเองได้มากขึ้นและกังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการทำงานน้อยลง

ความรู้สึกของการอ่อนกว่าวัยนี้ทำหน้าที่เป็นการป้องกันตัวเอง ส่งผลให้เรามีมุมมองในแง่บวกมากขึ้นในเรื่องการวางแผนในอนาคตและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ

อายุใจของคุณสามารถทำนายเกี่ยวกับสุขภาพของคุณได้

ยิ่งคุณรู้สึกอ่อนวัยมากเท่าใด คุณก็ยิ่งเข้าใจในเรื่องความมีสุขภาพดีมากขึ้นเท่านั้น จากผลการศึกษาที่ตีพิมพ์โดยสมาคมจิตวิทยาอเมริกัน (American Psychological Association) อธิบายว่ายิ่งอายุใจของคุณน้อยลง ระดับความเครียดของคุณก็จะยิ่งต่ำลงด้วย

ความรู้สึกเหมือนอยู่ในวัย 22 ทั้ง ๆ ที่มีอายุ 36 ปีทำอะไรกับคุณ ? นี่อาจหมายถึงการทำงานด้านความคิดที่ดีขึ้น การมีอารมณ์รุนแรงที่เกิดจากความเครียดน้อยลง ความเสี่ยงในการเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาลก็ลดลงด้วย อีกทั้งมีอายุยืนซึ่งตรงกันข้ามกับผู้ที่รู้สึกว่าตัวเองนั้นแก่ขึ้น

สามารถช่วยป้องกันภาวะซึมเศร้า

เราได้พูดกันไปแล้วว่าระดับความเครียดลดลงตามสัดส่วนของอายุใจที่น้อยลงได้อย่างไร และด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ดูเหมือนว่าจะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคซึมเศร้าน้อยลงไปด้วย

มหาวิทยาลัยมงต์เปลลิเย่ร์ (University of Montpellier) ได้ติดตามข้อมูลของคนวัยกลางคนและผู้สูงอายุมากกว่า 17,000 คนที่มีปัจจัยด้านประชากรศาสตร์แตกต่างกัน พบว่าผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่รู้สึกว่าตัวเองเด็กลงกว่าอายุจริง 8 ปี ส่วนคนอื่น ๆ ที่รู้สึกว่าตัวเองนั้นแก่เร็วขึ้นประมาณ 8 ถึง 13 ปี มีความเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคหรือมีภาวะซึมเศร้าเพิ่มขึ้น 18%-25%

จิตใจอ่อนกว่าวัย ร่างกายก็แข็งแรงขึ้น

คุณอาจจำได้ว่าตอนเป็นเด็กคุณสามารถวิ่งไปรอบ ๆ บ้านหรือเล่นเกมได้หลายชั่วโมงโดยที่ไม่รู้สึกเหนื่อย แต่พอเวลาผ่านไป การออกกำลังกายก็ค่อนข้างที่จะน่าเบื่อหน่าย แล้วความลับอีกอย่างหนึ่งของอายุใจก็คือ มันสามารถทำนายรูปแบบของการออกกำลังกายได้อีกด้วย

ความรู้สึกว่าตัวเองเด็กลงอาจส่งผลให้มีกิจกรรมทางร่างกายที่สนุกมากยิ่งขึ้น เช่น การออกกำลังกาย การเรียนรู้งานอดิเรกใหม่ ๆ การเดินทาง การเต้นรำ และการเคลื่อนไหวทั่ว ๆ ไป โดยคุณจะมีเวลามากขึ้นในการเพลิดเพลินไปกับทุกอย่างที่ทำให้คุณรู้สึกมีความสุขเหมือนเป็นเด็ก

คนที่รู้สึกว่าตัวเองเด็กลงสามารถจินตนาการถึงอนาคตที่สดใสได้

ร่างกายบรรลุในสิ่งที่จิตใจนั้นเชื่อ และกลไกของการแก่ไปตามอายุใจสามารถเป็นไปได้ทั้งสองทางตามที่คนเราต้องการ คือหากคุณรู้สึกไม่สบายตัว อ่อนแอ หรือหลงลืม ก็มีโอกาสมากยิ่งขึ้นที่จะรู้สึกแก่ขึ้นและสุขภาพก็แย่ลง

โบนัส: วัย 93 ปี ไม่เคยดูดีเท่านี้มาก่อนเลย !

เฮเลน (Helen) เป็นหญิงอายุ 93 ปี หรือที่รู้จักกันในชื่อ แบดดี้วิงเคิล (Baddiewinkle) บนโลกโซเชียลมีเดีย และเธอยังเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการรักษาใจให้อ่อนกว่าวัยเอาไว้นั้นมีประโยชน์ต่อคนเรา โดยเฮเลนไม่กลัวที่จะแบ่งปันบุคลิกอันสดใสของเธอบนอินสตาแกรม และพวกเราพูดได้เพียงว่าตัวเธอนั้นเปล่งประกายทั้งภายนอกและภายใน

การมีจิตใจที่อ่อนกว่าวัยสามารถเปลี่ยนความคิดและขจัดความสงสัยกับความกลัวในเรื่องอนาคตไปได้ ความแก่ชราเป็นสิ่งที่เราหยุดมันไม่ได้ก็จริง แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นกระบวนการอันสวยงามที่มาเติมเต็มประสบการณ์และปัญญาให้กับเรา ดังนั้นการรักษาจิตวิญญาณให้อ่อนกว่าวัยไม่เพียงแต่นำประโยชน์มากมายมาให้คุณเท่านั้น แต่ยังทำให้คุณสนุกกับการเลือกเดินเส้นทางนี้มากขึ้นอีกด้วย

คุณรู้สึกว่าตัวเองเด็กกว่าอายุจริงหรือเปล่านะ ? มาแชร์กิจกรรมที่ทำให้คุณรู้สึกอ่อนกว่าวัยและมีความสุขมากยิ่งขึ้นกันเถอะ !

เครดิตภาพพรีวิว baddiewinkle/Instagram, baddiewinkle/Instagram
ชีวิตสดใส/สิ่งแปลกๆ/งานวิจัยเผยว่าความรู้สึกอ่อนกว่าวัยสามารถช่วยให้คุณอายุยืนและมีสุขภาพดีขึ้นได้
แชร์บทความนี้