ทำไมการเคี้ยวหมากฝรั่งถึงทำให้คุณดูตุ้ยนุ้ยได้กันนะ

การเคี้ยวหมากฝรั่งอยู่คู่กับมนุษย์เรามานับ 10,000 ปีแล้ว และในปัจจุบันนี้ หมากฝรั่งสามารถช่วยดูแลสุขภาพฟัน แถมยังช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย ! อย่างไรก็ตามอย่าเพิ่งรีบเอาหมากฝรั่งทั้งห่อมาเคี้ยวพร้อมกันทีเดียวล่ะ

ชีวิตสดใสแน่ใจว่าความพอดีต่างหากคือปัจจัยสำคัญ แม้แต่ของที่ทำให้สุขภาพดีสุด ๆ ก็ยังส่งผลร้ายได้มากกว่าดีหากใช้อย่างไม่ระมัดระวัง ดังนั้น มาลองดูกันดีกว่าว่ามีเรื่องอะไรที่เราต้องคำนึงถึงบ้าง และที่ตอนท้ายของบทความนี้ เรายังมีเคล็ดลับแถมพิเศษว่าจะเคี้ยวหมากฝรั่งอย่างถูกวิธีได้อย่างไร

การเคี้ยวหมากฝรั่งมากเกินไปสามารถทำให้กล้ามเนื้อกรามของคุณขยายใหญ่ขึ้นได้

ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากคุณเคี้ยวหมากฝรั่งมากเกินไป นิสัยนี้อาจทำให้ใบหน้าของคุณเปลี่ยนไปอย่างคาดไม่ถึงได้เลยทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น นิสัยนี้อาจทำให้ใครบางคนมีกรามเหลี่ยมได้เลยนะ ! นอกจากนี้ การใช้กล้ามเนื้อในการเคี้ยวมากเกินไปอาจส่งผลทำให้มีอาการปวดหัวได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่วัยรุ่น

หมากฝรั่งรสมินต์สามารถทำให้คุณโหยอาหารขยะได้

หากคุณเคี้ยวหมากฝรั่งรสมินต์เป็นประจำก่อนกินขนม ถ้าอย่างนั้นก็เป็นไปได้ว่าคุณอาจจะอยากกินอาหารขยะตามมาหลังจากนั้น อย่างน้อยนี่ก็คือผลจากการศึกษาในปี 2013 สิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะเมนทอลในหมากฝรั่งจะเพิ่มความขมให้กับรสผลไม้ต่าง ๆ ที่อยู่ในหมากฝรั่ง ดังนั้นหลายคนจึงอาจจะพยายามกดรสชาติที่เหลือทิ้งไว้หลังกินหมากฝรั่งด้วยการกินอะไรที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายและหาซื้อได้ง่าย อย่างเช่นแฮมเบอร์เกอร์หรือมันฝรั่งทอด

การเคี้ยวหมากฝรั่งที่ปราศจากน้ำตาลสามารถทำให้ท้องอืดได้

มี 2 เหตุผลที่เป็นไปได้ว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เหตุผลแรกคือ เมื่อคุณเคี้ยวหมากฝรั่ง อากาศที่คุณกลืนเข้าไปนั้นจะทำให้ท้องของคุณพองขึ้น เหตุผลที่สองอยู่ที่น้ำตาลแอลกอฮอล์ซึ่งมักจะนำมาใช้ในการผลิตหมากฝรั่งปราศจากน้ำตาล ถึงแม้ว่าสารให้ความหวานดังกล่าวจะไม่สามารถย่อยได้ แต่มันก็จะไม่อยู่ในท้องของคุณไปตลอด ตรงกันข้าม มันอาจเปลี่ยนรูปกลายเป็นฟองอากาศหลังจากถูกหมักเป็นแก๊สโดยแบคทีเรียที่อยู่ในลำไส้

สารให้ความหวานเทียมอาจเข้าไปเปลี่ยนจุลินทรีย์ในลำไส้

หมากฝรั่งที่ปราศจากน้ำตาลค่อนข้างเป็นที่นิยมในหมู่คนที่อยากจะมีหุ่นฟิตเปรี๊ยะ อย่างไรก็ตาม มีผลการศึกษาบางชิ้นที่กล่าวไว้ว่าหากหมากฝรั่งเหล่านั้นมีส่วนผสมของสารให้ความหวานเทียมแล้วละก็ การกินเข้าไปบ่อย ๆ อาจนำไปสู่ภาวะไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ และยังช่วยเพิ่มแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคอ้วนได้ ถึงแม้ว่าเหล่านักวิจัยจะชี้ว่าผลกระทบนี้จะเกิดเป็นรายบุคคลเท่านั้น และอาจแตกต่างกันไปแล้วแต่กรณี แต่พวกเขาก็ยังแนะนำให้เราเชื่อในสัญชาตญาณของตัวเราเองจะดีกว่า

แถมพิเศษ: เคี้ยวอย่างชาญฉลาด !

คำแนะนำง่าย ๆ ด้านล่างนี้จะช่วยให้คุณมีความสุขกับการเคี้ยวมันฝรั่งได้โดยไม่ทำอันตรายใด ๆ ต่อสุขภาพร่างกายของคุณ !

• หมากฝรั่งหวาน ๆ ที่มีน้ำตาลจริง ๆ แล้วก็คือลูกอมดี ๆ นี่เอง มันสามารถทำให้เกิดโรคอ้วนได้ อย่าเคี้ยวมันเพราะคิดว่ามันจะช่วยป้องกันฟันผุ
• ให้เคี้ยวหมากฝรั่งปราศจากน้ำตาลหลังจากกินอาหารไปแล้วไม่เกิน 20 นาที
• ให้คิดถึงความสมดุลเป็นหลัก อย่าเคี้ยวหมากฝรั่งที่มีส่วนผสมของซอร์บิทอลเกิน 14 แท่งต่อวัน
• หากคุณแพ้สารให้ความหวานเทียม ให้ลองเคี้ยวหมากฝรั่งที่มีส่วนผสมของไซลิทอลแทน นี่คือน้ำตาลแอลกอฮอล์ธรรมชาติที่มักจะช่วยทำให้รู้สึกไม่สบายตัวน้อยลงและช่วยยับยั้งคราบจุลินทรีย์ได้

คุณชอบเคี้ยวหมากฝรั่งแบบไหน? คุณเคยมีประสบการณ์ตรงที่เป็นผลมาจากการเคี้ยวหมากฝรั่งเหล่านี้ไหม?