อย่าให้เจอคนต้นคิดนะ ! กว่า 15 คนที่ต้องสิ้นหวังกับการตลาดที่ฉล๊าด ฉลาด
เวลาคนเราซื้อผลิตภัณฑ์สักอย่างหนึ่ง เราก็ย่อมหวังว่าอย่างน้อยที่สุดเราก็คงไม่ต้องผิดหวังกับมันนะ แต่ความเป็นจริงอาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบขนาดนั้น และบางทีก็ทำให้ผู้บริโภคต้องงงงวยเล็กน้อย เช่น คุกกี้ที่กลายพันธุ์ ห่อมาร์ชแมลโลว์ที่มีพลาสติกห่อชิ้นจิ๋ว ๆ ข้างในไว้อีกที รวมถึงไอศกรีมที่ดูใหญ่กว่าความเป็นจริงก็เพราะหีบห่อของมันลวงตาไว้
ชีวิตสดใสหวังว่าคุณจะไม่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตัวอย่างที่เราจะเอามาให้ชมนี้หรอกนะ แต่ถ้าคุณหลีกหนีโชคชะตานั้นไม่ได้ ก็ช่วยเล่าสู่กันฟังในคอมเมนต์นี้ที เราพร้อมจะฟังคุณระบายความในใจออกมา !
“ใครเป็นคนคิดให้ใช้ตัวอักษรสีขาวบนกล่องสีเหลืองสว่างขนาดนี้ห๊ะ?”
อีกตัวอย่างของการวางตัวอักษรที่ “ฉล๊าด ฉลาด”
“บนห่อเขียนไว้ว่า ‘ชีส 8 แผ่น’ แล้วดูสิว่าในห่อให้อะไรมา”
“พอมีลูกค้ามาซื้อเครื่องดื่มพวกนี้ พวกเขาต้องเสี่ยงจะทำขวดตกแตกเลอะเทอะบนพื้นมาก แต่ไม่งั้นฉันก็สแกนจ่ายให้ไม่ได้ไง”
“ไอศกรีมที่จิ๋วที่สุดยังสามารถจิ๋วได้กว่าที่คิดอีก”
แล้วที่เหลือหายไปไหน ?
“น้ำหอมราคาขวดละเกือบ 4,800 บาท ($140) แล้วดูภาพเปรียบเทียบจากที่ฉันเห็นในเว็บไซต์กับที่ฉันได้มาจริง ๆ สิ”
“ไม่คิดว่าจะเปิดมาเจอกับสิ่งนี้เลยจริง ๆ...”
ไอ้คุกกี้กลายพันธุ์นี่มันอะไร ?
“ไม่มีทางที่จะหักช็อกโกแลตแท่งนี้ได้โดยไม่เละอ่ะ”
บางคนคงคิดว่าการห่อมาชแมลโลว์แต่ละชิ้นนี่คงเป็นความคิดที่ดีมากแล้วสินะ
“ตอนที่ยืนรอจะจ่ายเงิน ฉันถึงเพิ่งเห็นว่าลูกอมในกล่องแต่ละกล่องมันมีจำนวนไม่เท่ากันนี่นา ไม่มีกล่องไหนมีร่องรอยเปิดแล้วด้วยนะ”
การดูน้ำหนักผลิตภัณฑ์ถึงสำคัญไง อย่าดูแต่รูปทรงภายนอกเข้าใจไหม
มีที่ให้ใส่คุกกี้เพิ่มได้ 2 ชิ้นเลยนะ
ยอมรับมาเถอะน่า ว่าการถูกหลอกแบบนี้เป็นคุณก็คงโกรธเหมือนกันใช่ไหม ?
เครดิตภาพพรีวิว komanaa / reddit
แชร์บทความนี้