10 นักแสดงสาวที่เล่นเป็นตัวละครที่มีบทบาทตรงข้ามกัน แล้วพวกเธอก็ทำได้ยอดเยี่ยมทั้งสองบทบาท
นักแสดงบางคนดูเหมือนจะได้เล่นบทเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ในหนังทุกเรื่อง ซึ่งสิ่งนี้ก็เกิดขึ้นกับแคเธอรีน ไฮเกล (Katherine Heigl), ซูอีย์ เดสชาเนล (Zooey Deschanel) และมิเชลล์ รอดรีเกซ (Michelle Rodriguez) แล้วมันก็เป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าเป็นเพราะเหตุใดกัน บางทีแล้วพวกเธอก็อาจจะแสดงเก่งในบทตัวละครแบบนั้นโดยเฉพาะ จนผู้สร้างภาพยนตร์ไม่อยากลองใช้ให้พวกเธอทำในสิ่งอื่น ๆ อย่างไรก็ตามก็มีนักแสดงสาวหลายคนที่แปลงโฉมเป็นตัวละครได้หลายสิบบทบาท ไม่ว่าจะเป็นตัวร้ายที่สิ้นหวังหรือบทน่ารักกุ๊กกิ๊ก
ที่ชีวิตสดใส พวกเราอยากพูดถึงเหล่าสาว ๆ คนดังที่สามารถเล่นเป็นตัวละครที่ตรงข้ามกับตัวจริงของพวกเธอได้อย่างยอดเยี่ยมสุด ๆ ไปเลย
เคท บลันเชตต์
มีการพูดกันว่าเคท บลันเชตต์ (Cate Blanchett) มีอาชีพที่นักแสดงหลายคนต่างใฝ่ฝัน เพราะว่านักแสดงสาวชาวออสเตรเลียคนนี้ได้เล่นเป็นตัวละครต่าง ๆ มาหลายสิบบทบาท ไม่ว่าจะเป็นทั้งผู้ชายและผู้หญิง นางเอก และตัวร้าย แล้วก็ไม่ใช่แค่ในหนังเพียงเท่านั้น เพราะเคทยังขึ้นแสดงบนเวทีอีกด้วย
บทบาทที่ดีที่สุดของเธอ ได้แก่ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 (Queen Elizabeth I) ในหนังประวัติศาสตร์เรื่อง อลิซาเบธ ราชินีบัลลังก์เลือด (Elizabeth) และสายลับอิริน่า สปาลโก (Irina Spalko) ในหนังผจญภัยเรื่อง ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า 4: อาณาจักรกะโหลกแก้ว (Indiana Jones and the Kingdom of the Crystal Skull) อย่างไรก็ตามสตีเว่น สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) ได้กล่าวว่าตัวละครอิริน่า สปาลโก คือวายร้ายตัวโปรดของเขาในหนังชุดอินเดียน่า โจนส์ (Indiana Jones)
อิเมลด้า สตอนทัน
ตัวร้ายที่รับบทโดยอิเมลด้า สตอนทัน (Imelda Staunton) กลายเป็นหนึ่งในคู่อริหลักในหนังแฮรรี่ พอตเตอร์ (Harry Potter) โดยในนิตยสารได้เขียนเอาไว้ว่าสตอนทันสนุกมาก ๆ กับบทบาทของศาสตราจารย์โดโลเรส อัมบริดจ์ (Professor Dolores Umbridge) วายร้ายจอมเจ้าเล่ห์และเห็นแก่ตัวในหนังเรื่องนี้
แต่นักแสดงสาวก็เล่นเป็นตัวละครที่มองโลกในแง่ดีได้สมบทบาทไม่น้อย อย่างในเรื่อง มาเลฟิเซนต์ (Maleficent) ที่เธอได้เล่นเป็นนางฟ้าแสนน่ารักที่คอยเลี้ยงดูเจ้าหญิง โดยนักวิจารณ์ได้รวมทั้งสองบทบาทนี้อยู่ในการแสดงที่ดีที่สุดของเธอ
เอ็มม่า ทอมป์สัน
เอ็มม่า ทอมป์สัน (Emma Thompson) ได้เลือกรับบทที่แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนอันหลากหลายของผู้หญิงมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นราชินีแห่งอังกฤษ ศาสตราจารย์ในฮอกวอตส์ หรือบารอนเนสผู้เย่อหยิ่ง ซึ่งบทบาททั้งหมดนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักวิจารณ์และผู้ชม
หนึ่งในตัวละครที่เป็นตัวดีที่แสดงโดยทอมป์สันก็คือแนนนี่ แมคฟี่ (Nanny McPhee) ในหนังที่มีชื่อเดียวกัน โดยตัวละครนี้ได้แปลงโฉมหน้าตาของเธอในแบบต่าง ๆ บวกกับการแสดงของนักแสดงสาวที่สมบทบาทมาก ๆ
ในหนังเรื่อง ครูเอลล่า (Cruella) ปี 2021 เอ็มม่ารับบทเป็นตัวร้าย โดยนักแสดงสาวได้กล่าวว่าเธอใฝ่ฝันที่จะเล่นเป็นตัวร้ายมานานหลายปีแล้ว แล้วเธอก็พอใจกับชุดที่เธอใส่ในหนังมากเป็นพิเศษ เธอบอกว่ามันเป็นงานศิลปะที่แท้จริง เมื่อถูกถามถึงวิธีสร้างภาพให้ดูเป็นตัวร้าย ทอมป์สันได้ตอบว่า “ฉันคิดว่าถ้าสามีของฉันอยู่ในห้อง เขาจะต้องพูดว่า ’เธอไม่ต้องแสดงอะไรเลยจริง ๆ’”
เฮเลน่า บอนแฮม คาร์เตอร์
ตามสื่อต่าง ๆ เราจะเห็น เฮเลน่า บอนแฮม คาร์เตอร์ (Helena Bonham Carter) มีสไตล์ที่โดดเด่น ซึ่งนี่ก็หมายถึงตัวละครที่เธอรับบทด้วย โดยนักแสดงสาวมักเล่นเป็นผู้หญิงที่พิลึกอยู่บ่อย ๆ อย่างบทเบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์ (Bellatrix Lestrange) ตัวร้ายในหนังแฮร์รี่ พอตเตอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผลงานที่ดีที่สุดของเธอ
ตัวละครนี้กลายเป็นสัญลักษณ์อันโด่งดัง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะเฮเลน่า โดยลักษณะรูปร่างหน้าตาบางอย่างของตัวละครเบลลาทริกซ์ได้กลายเป็นภาพจำของเฮเลน่า อย่างเช่นผมยุ่ง ๆ และฟันผุ ซึ่งเธอยังทำให้ตัวละครนี้มีความสมดุลมากกว่าที่อธิบายไว้ในบท
แต่เธอก็เล่นเป็นตัวละครตัวดีได้อย่างเป็นธรรมชาติเช่นกัน อย่างบทนางฟ้าแม่ทูนหัวในเรื่อง ซินเดอเรลล่า (Cinderella) ปี 2015 ก็อยู่ในลิสต์ผลงานการแสดงที่ดูสดใสมากที่สุดของเธอ
เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์
เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ (Jennifer Lawrence) มีผลงานการแสดงที่โดดเด่นมากจนได้รับรางวัล อย่างรางวัลออสการ์และรางวัลลูกโลกทองคำ อีกทั้งเธอได้รับการเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งในผู้มีอิทธิพลมากที่สุดโดยฟอร์บส (Forbes) ดาราสาวร่วมแสดงในหนังอินดี้และหนังทำเงิน จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ตัวละครของเธอจะมีความแตกต่างกันมาก ๆ โดยลอว์เรนซ์รับบทเป็นมิสทีค (Mystique) ในหนังเอ็กซ์-เม็น (X-Men) สองสามภาค และก็ไม่มีใครจดจำเธอได้เพราะว่าการแต่งหน้า
เจนนิเฟอร์ดูแตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิงในหนังเรื่อง ดอนท์ ลุค อัป (Don’t Look Up) ซึ่งเธอรับบทเป็นนักศึกษาปริญญาโทที่ค้นพบดาวหางที่กำลังพุ่งชนโลก โดยทั้งสองผลงานนี้ถูกรวมอยู่ในลิสต์บทบาทที่ดูสดใสมากที่สุดของเธอ
ทิลด้า สวินตัน
ตามสื่อต่าง ๆ รายงานว่า ทิลด้า สวินตัน (Tilda Swinton) คือหนึ่งในดาราฮอลลีวูดยุคใหม่ที่ดีที่สุด โดยเธอสามารถแปลงโฉมได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นหญิงสาวที่มีความรัก สาวเผด็จการบ้าคลั่ง หรือนางฟ้าตกสวรรค์ และเกือบทุกบทบาทของเธอก็ดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างมาก
ในปี 2020 เปโดร อัลโมโดวาร์ (Pedro Almodóvar) ได้เปิดตัวหนังเรื่อง เดอะ ฮิวแมน ว็อยส์ (The Human Voice) ที่นำแสดงโดยทิลด้า ซึ่งเธอรับบทเป็นหญิงสาวที่กำลังคุยอยู่กับคนรักที่อยากบอกเลิกกับเธอทางโทรศัพท์ และการแสดงของเธอนั้นก็น่าทึ่งมากจนนักวิจารณ์ได้พูดถึงหนังเรื่องนี้ไว้ว่า “สั้นกระชับและระเบิดอารมณ์อย่างหัวเสียได้ถึงใจมาก”
ทิลด้าดูแตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิงในหนังระทึกขวัญวันสิ้นโลกเรื่อง ยึดด่วน วันสิ้นโลก (Snowpiercer) ที่เธอรับบทเป็นผู้ช่วยผู้ดูแลรถไฟสุดเพี้ยน โดยนักแสดงสาวได้พยายามทำให้ตัวละครของเธอดูน่าขยะแขยงที่สุด แม้กระทั่งรายละเอียดบางอย่างเกี่ยวกับหน้าตาของตัวละครตัวนี้ก็มาจากไอเดียของทิลด้า
นิโคล คิดแมน
นิโคล คิดแมน (Nicole Kidman) เป็นหนึ่งในนักแสดงที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดมาตั้งแต่ปี 1990 โดยเธอได้เล่นหนังหลายประเภท เช่น ละครเพลง ละครประวัติศาสตร์ จิตวิทยาระทึกขวัญ และหนังฟอร์มยักษ์เกี่ยวกับซูเปอร์ฮีโร่ ซึ่งบทนางเอกของเธอนั้นก็ค่อนข้างหลากหลายเช่นกัน
คิดแมนเล่นเป็นเกรซ เคลลี่ (Grace Kelly) ได้สมบทบาทมากในหนังเรื่อง เกรซ ออฟ โมนาโก (Grace of Monaco) โดยนักวิจารณ์ได้เขียนเอาไว้ว่า “กล้องคงถอนหายใจด้วยความสุขทุกครั้งที่มีเธออยู่บนหน้าจอ”
แต่นักแสดงสาวก็สามารถเล่นเป็นตัวร้ายได้ อย่างในเรื่อง แพดดิงตัน คุณหมีหนีป่ามาป่วนเมือง (Paddington) โดยเธอรับบทเป็นมิลลิเซนต์ ไคลด์ (Millicent Clyde) จอมไล่ล่าหมี ซึ่งตัวเธอนั้นมีความสุขที่ได้รับบทนี้ เพราะว่าเธอเป็นแฟนตัวยงของหนังสือของไมเคิล บอนด์ (Michael Bond) ในวัยเด็ก นิโคลให้ความสำคัญกับบทของตัวเองมาก โดยเธอได้ไปเรียนวิธีขว้างมีดและลงเรียนวิชาการสตัฟฟ์สัตว์
ลีน่า เฮดดี้
ลีน่า เฮดดี้ (Lena Headey) เป็นที่รู้จักกันดีในบทของเซอร์ซี แลนนิสเตอร์ (Cersei Lannister) ในซีรีส์เรื่อง มหาศึกชิงบัลลังก์ (Game of Thrones) แต่เธอก็มีผลงานที่ยอดเยี่ยมอีกมากมาย อย่างเช่นบทซาร่าห์ คอนเนอร์ (Sarah Connor) ของเธอก็ได้รับคำชมในแง่บวกจากนักวิจารณ์และผู้ชม โดยเธอถูกเรียกว่า “ผู้นำที่แข็งแกร่งที่จะเดินฝ่าฟันทุกสิ่งเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง”
ผลงานอื่น ๆ ของเฮดดี้ (Headey) ได้แก่ ซาร่าห์ ทรีวานีย์ (Sarah Trevanny) ในหนังระทึกขวัญเรื่อง ริปลีย์ส เกม (Ripley’s Game), จูเลีย ไนท์ (Julia Knight) ในเรื่อง สู้ท้าฝันเพื่อครอบครัว (Fighting with My Family) และราชินีกอร์โก้ (Queen Gorgo) ในเรื่อง 300 มหาศึกกำเนิดอาณาจักร (300: Rise of an Empire)
สำหรับบทเซอร์ซีได้นำเงินและชื่อเสียงมาให้กับลีน่า แต่ก็ทำให้แฟน ๆ โกรธเคืองเธออีกด้วย เพราะเธอแสดงบทนี้ได้สมบทบาทมากจนแฟน ๆ ของซีรีส์เรื่องนี้ได้นำเอาความเกลียดชังที่มีต่อตัวละครมาลงกับเธอเป็นการส่วนตัว โดยเธอได้พูดถึงในระหว่างการแจกลายเซ็นที่งานคอมมิค-คอน (Comic-Con) ผู้คนต่างแย่งหนังสือไปจากมือเธอเพื่อป้องกันไม่ให้เธอเซ็นมัน
นาตาลี พอร์ตแมน
บทของอีวี่ (Evey) ในเรื่อง เพชฌฆาตหน้ากากพญายม (V for Vendetta) เป็นหนึ่งในบทบาทที่โดดเด่นที่สุดในอาชีพการแสดงของนาตาลี พอร์ตแมน (Natalie Portman) โดยนักแสดงสาวได้โกนหัวและหัดสำเนียงพูด ซึ่งผู้ชมก็ชื่นชอบหนังเรื่องนี้กัน แล้วในการให้สัมภาษณ์ นาตาลีก็ได้กล่าวว่าเธอพร้อมที่จะกลับมาเล่นหนังภาคต่อของหนังเรื่องนี้หากผู้สร้างตัดสินใจที่จะสร้างมัน
แต่ทว่าบทตัวละครที่เล่นร้ายได้ทำให้เธอได้รับรางวัลออสการ์ อย่างหนังกระตุกขวัญเรื่อง แบล็ค สวอน (Black Swan) ที่ออกฉายในปี 2010 โดยเธอรับบทเป็นนีน่า เซเยอร์ส (Nina Sayers) หญิงสาวที่ติดอยู่กับความหมกมุ่น ซึ่งเธอได้แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ศิลปินต้องอดทน เพื่อให้ได้มาซึ่งความสำเร็จไปจนถึงความสมบูรณ์แบบ
ชาร์ลิซ เธอรอน
ในปี 2003 หนังเรื่อง ปีศาจ (Monster) ได้ออกฉาย ชาร์ลิซ เธอรอน (Charlize Theron) ต้องเปลี่ยนลุคของเธอไปอย่างมากเพื่อบทบาทนี้ โดยเธอเพิ่มน้ำหนักขึ้น 14 กิโลกรัม โกนขนคิ้ว และใส่ฟันปลอม ซึ่งการแสดงของเธอนั้นก็ได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่นักแสดงสาวสามารถถ่ายทอดอารมณ์ทางสายตาและท่าทางได้เป็นอย่างดี
ชาร์ลิซอารมณ์เสียมากทุกครั้งที่อ่านว่าสื่อได้เขียนเกี่ยวกับการแปลงโฉมภายนอกของเธอ ไม่ใช่การแสดงของเธอ อย่างไรก็ตามเธอก็ได้พิสูจน์แล้วว่าเธอไม่ได้เป็นแค่นักแสดงที่มีเพียงใบหน้าสวย ๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นนักแสดงที่ชนะรางวัลออสการ์ในบทบาทนี้
หนึ่งในผลงานที่ดีที่สุดของชาร์ลิซคือ ฟิวริโอซ่า (Furiosa) ในหนังเรื่อง แมด แม็กซ์: ถนนโลกันตร์ (Mad Max: Fury Road) ซึ่งตัวละครนี้ของเธอเป็นนักรบหญิงผู้กล้าหาญที่ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยคนอื่น โดยนิตยสารต่าง ๆ ได้เขียนไว้ว่าบทฮีโร่สาวของเธอได้ “ขโมยซีนจากตัวละครเอกของเรื่องเลยทีเดียว”
คุณรู้จักนักแสดงชายและหญิงคนอื่น ๆ ที่เก่งในเรื่องการพลิกบทบาทบ้างหรือเปล่า ? บอกเราในคอมเมนต์ด้านล่างได้เลยนะ