10 นักแสดงที่ปรากฏตัวเพียงแค่ไม่กี่ฉากแต่ได้รางวัลออสการ์ไปครอง

ไม่ว่าเวลาที่นักแสดงอยู่บนหน้าจอจะน้อยแค่ไหน ก็อาจใช้เวลาแค่ 5 นาทีในการพิสูจน์ว่าการแสดงของพวกเขานั้นเหมาะสมกับรางวัลออสการ์รึเปล่า พูดสั้น ๆ ก็คือในการพัฒนาเรื่องราวมันมีช่วงเวลาและตัวละครที่อธิบายทุกอย่างได้ และด้วยการนำเสนอบทบาทที่ดีที่สุดของพวกเขา ทำให้พวกเขาเล่นฉากที่ตราตรึงใจที่แย่งซีนการแสดงได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ชีวิตสดใสอยากจะแบ่งปัน 10 นักแสดงที่ปรากฏตัวแค่ไม่กี่ฉากในภาพยนตร์ แต่ก็ได้แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ด้านการแสดงอันยอดเยี่ยมและทำให้พวกเขาได้รับรางวัลออสการ์ไปครอบครอง

1. แอนน์ แฮททาเวย์ - เล มิเซราบล์ (2012)

แอนน์ แฮททาเวย์ (Anne Hathaway) เป็นหนึ่งในนักแสดงที่พิสูจน์ว่าคุณก็ทำให้ผู้ชมหลงใหลได้ในเวลาสั้น ๆ เธอปรากฏตัวในละครเพลงเรื่องเล มิเซราบล์ (2012) เป็นเวลา 15 นาที และหนึ่งในฉากที่มีความยาวเพียง 3 นาทีครึ่ง ว่ากันว่าเป็นสิ่งที่ช่วยให้เธอคว้ารางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม มันไม่ง่ายเลยเพราะเธอต้องลดน้ำหนักและรับมือกับความวิตกกังวลในการแสดง

2. แอนโทนี่ ฮอปกินส์ - อำมหิตไม่เงียบ (1991)

แอนโทนี่ ฮอปกินส์ (Anthony Hopkins) กับบทบาทฮันนิบาล เลคเตอร์ (Hannibal Lecter) อาชญากรที่อันตรายและชาญฉลาดในภาพยนตร์เรื่องอำมหิตไม่เงียบ (1991) ทำให้เขาชนะรางวัลออสการ์สาขานักแสดงยอดเยี่ยม และบทบาทนี้ก็ได้ผลักดันอาชีพของเขา โดยรวมแล้วนักแสดงปรากฏตัวในภาพยนตร์เพียง 17 นาทีเท่านั้น

3. นิโคล คิดแมน - ลิขิตชีวิตเหนือกาลเวลา (2002)

นิโคล คิดแมน (Nicole Kidman) ได้มอบชีวิตให้กับตัวละครเวอร์จิเนีย วูล์ฟ (Virginia Woolf) ในภาพยนตร์เรื่องลิขิตชีวิตเหนือกาลเวลา (The Hours) ในภาพยนตร์เรื่องนี้เธอแสดงร่วมกับเมอรีล สตรีป (Meryl Streep) และจูเลียน มัวร์ (Julianne Moore) ตัวละครที่เธอรับบทเป็นผู้หญิงที่มีปัญหาสุขภาพจิต แต่ถึงแม้ว่าการปรากฏตัวของเธอจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ มันก็ทำให้เธอได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงยอดเยี่ยม

4. อลัน อาร์คิน - นางงามตัวน้อย ร้อยสายใยรัก (2006)

ในภาพยนตร์เรื่องนางงามตัวน้อย ร้อยสายใยรัก (Little Miss Sunshine) อลัน อาร์คิน (Alan Arkins) รับบทเป็นเอ็ดวิน (Edwin) คุณปู่ที่มองโลกในแง่ดีซึ่งสนับสนุนหลานสาวของเขาให้ประกวดนางงาม ในภาพยนตร์เรื่องนี้เขาโดดเด่นจากตัวละครตัวอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัดซึ่งเป็นเพราะทัศนคติของเขา และถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ปรากฏตัวในฉากยาว ๆ แต่บทบาทของเขานอกจากจะมีความสำคัญต่อเรื่องราวแล้ว ยังทำให้เขาได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบยอดเยี่ยมด้วย

5. จาเรด เลโต้ - สอนลูกให้รู้จักกล้า (2013)

จาเรด เลโต้ (Jared Leto) ปรากฏตัวในเรื่องสอนลูกให้รู้จักกล้า (Dallas Buyers Club) น้อยกว่าหนึ่งในสี่ของทั้งเรื่อง ในฐานะเรยอน (Rayon) ผู้หญิงข้ามเพศ นอกจากที่นักแสดงจะต้องทำการเปลี่ยนแปลงด้านกายภาพแล้ว เขายังใช้งานวิจัยเพื่อช่วยให้เขาทำให้ตัวละครมีชีวิตและเหนือสิ่งอื่นใด เขาปฏิเสธที่จะยกเลิกบทบาทของเขาระหว่างการถ่ายทำ การแสดงของเขาทำให้เขาได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบยอดเยี่ยม

6. มาเฮิร์ซชาล่า อาลี - มูนไลท์ (2016)

ภาพยนตร์เรื่อง Moonlight บอกเล่าเรื่องราวของเด็กชายชาวแอฟริกัน-อเมริกันที่กำพร้าพ่อใน 3 ช่วงชีวิต: วัยเด็ก วัยรุ่น และวัยผู้ใหญ่ ในตอนแรก มาเฮิร์ซชาล่า อาลี (Mahershala Ali) รับบทเป็นฮวน (Juan) ตัวละครที่กลายมาเป็นพ่อของตัวเอก การแสดงของเขาทำให้เขาได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม

7. ยูน-ยอ จอง - มินาริ (2020)

ยูน-ยอ จอง (Yuh-Jung Youn) นักแสดงชาวเกาหลีใต้ได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบยอดเยี่ยมในปี 2021 สำหรับบทบาทของเธอในภาพยนตร์เรื่องมินาริ (Minari) ผลงานของเธอทำให้เธอเป็นผู้หญิงเอเชียคนที่สองที่ชนะรางวัลด้านการแสดงตั้งแต่ปี 1958

8. เบียทริซ สเตรท - เน็ตเวิร์ค (1976)

การแสดงของเบียทริซ สเตรท (Beatrice Straight) เป็นก้าวสำคัญของเวลาและคุณภาพทางการแสดง ในฐานะของภรรยาตัวละครที่มีชื่อว่าโฮลเด้น (Holden) ในเรื่องเน็ตเวิร์ค (1976) เธอปรากฏตัวเพียงแค่ 3 ฉากและมันเป็นการแสดงที่สั้นที่สุดที่ชนะรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม

9. จูดี เดนช์ - กำเนิดรักก้องโลก (1998)

นักแสดงอีกหนึ่งคนที่ไม่ต้องใช้เวลาบนหน้าจอมากมายเพื่อจะได้รางวัลออสการ์ไปครองก็คือจูดี เดนช์ (Judi Dench) สำหรับบทบาทในเรื่องกำเนิดรักก้องโลก (1998) มันใช้เวลาแค่ประมาณ 8 นาทีในการแสดงเป็นพระราชินีเอลิซาเบธที่หนึ่ง (Queen Elizabeth I) ที่ทำให้เธอชนะรางวัลในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม

10. ฮีธ เลดเจอร์ - แบทแมน อัศวินรัตติกาล (2008)

สำหรับผลงานของฮีธ เลดเจอร์ (Heath Ledger) ในเรื่องแบทแมน อัศวินรัตติกาล (Batman: The Dark Knight) ทำให้เขาได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบยอดเยี่ยม ซึ่งครอบครัวของเขาเป็นผู้รับรางวัลแทน จำนวนเวลาที่เขาปรากฏบนหน้าจอในฐานะโจ๊กเกอร์ (Joker) ซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของแบทแมนนั้นเพียงแค่ 33 นาทีเท่านั้น

ฉากไหนจากภาพยนตร์เรื่องไหนที่คุณคิดว่าน่าจดจำ และเพราะเหตุใด ? และบอกเราด้วยว่าคุณมีนักแสดงคนโปรดหรือเปล่า และอะไรที่ทำให้พวกเขาพิเศษในความคิดของคุณ !