ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

14 เครื่องแบบในภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในความเป็นจริง

หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของภาพยนตร์ทางประวัติศาสตร์เรื่องใดก็ตามก็คือเครื่องแบบที่ดูโดดเด่นและดึงดูด ไม่ว่าจะเป็นชุดกระโปรงฟูฟ่องที่มีการตกแต่งด้วยเพชรพลอย, ทรงผมที่ซับซ้อนและเครื่องประดับอันสวยงามที่ดูน่าประทับใจบนหน้าจอ แต่บางครั้งในตอนทำชุด คนทำหนังก็อาจจะทำออกมาเกินความเป็นจริงและผิดพลาดได้

ที่ชีวิตสดใส เราได้ดูภาพยนตร์อันโด่งดังทั้ง 14 เรื่องอย่างตั้งใจอีกครั้ง และพบว่าเครื่องแต่งกายทางประวัติศาสตร์ในหนังบางเรื่องไม่สอดคล้องกับยุคของมัน

จู่ ๆ ราชินีแมรี่ก็ถูกพบว่าชอบการเจาะร่างกาย

ภาพยนตร์เรื่องแมรี่ ราชินีแห่งสกอตส์ได้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างราชินีเอลิซาเบธที่หนึ่ง (Queen Elizabeth I) และแมรี่ สจ๊วต (Mary Stuart) ซึ่งเซอร์ชา โรนัน (Saoirse Ronan) ได้สวมเครื่องประดับมากมาย ตัวอย่างเช่น เธอสวมใส่ต่างหู 5 วงที่หูขวาของเธอ ถึงแม้ว่าจะมีหลักฐานสนับสนุนถึงข้อเท็จจริงที่ผู้หญิงในศตวรรษที่ 16 จะใส่ต่างหูข้างละหลาย ๆ ชิ้นก็ตาม แต่ก็ไม่เคยพูดถึงว่าแมรี่ สจ๊วตทำตามเทรนด์แฟชั่นนี้ นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมสไตล์นี้จึงดูทันสมัยเกินไปและไม่น่าเชื่อ

ชุดของแอนนา พาฟโลฟนา ชีเรอร์ ไม่มีแขนเสื้อ

นวนิยายมหากาพย์เรื่องสงครามและสันติภาพมีฉากเป็นช่วงต้นของศตวรรษที่ 19 ถึงอย่างนั้น ชุดกระโปรงที่เราได้เห็นแอนนา พาฟโลนา ชีเรอร์ (Anna Pavlovna Scherer) สวมใส่แทบจะไม่เคยปรากฏก่อนยุค 50 เลย ชุดกระโปรงที่โชว์ไหล่ข้างเดียวไม่สอดคล้องกับแฟชั่นในยุคนั้น

ชุดกระโปรงของเดซีมีขนาดพอดีตัวและเรียบเกินไป

บาซ เลอห์มานน์ (Baz Luhrmann) ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องรักเธอสุดที่รักตีความแฟชั่นจากยุค 20 ได้ไม่ถูกต้อง ชุดกระโปรงที่ถูกสวมใส่โดยเดซี (Daisy) ซึ่งเป็นตัวละครหลักดูทันสมัยเกินไป รูปทรงของมันควรจะหลวมกว่านี้, บริเวณคอเสื้อควรจะต่ำกว่านี้และเป็นสี่เหลี่ยม และด้านหลังของชุดเดรสควรจะต่ำลงมาอีก

กระโปรงของเจนควรจะกว้างกว่านี้

เหตุการณ์ของภาพยนตร์เรื่องรักที่ปรารถนาเกิดขึ้นในช่วงหลังของศตวรรษที่ 18 ตอนที่แฟชั่นในอังกฤษได้มีการเปลี่ยนแปลง ระหว่างช่วงปีนี้หญิงสาวจะสวมใส่เดรสที่พอดีตัวและมีกระโปรงที่ฟูฟ่อง ดังนั้นชุดที่เจน (Jane) ใส่จึงดูเป็นการปฏิวัติอย่างแท้จริง สไตล์นี้จะยังไม่เป็นที่นิยมจนอีก 10-20 ปีต่อมา และกระโปรงก็ดูพอดีตัวเกินไปแม้กระทั่งสำหรับปี 1810

ชุดของเม็กไม่ได้ดูอื้อฉาวแต่ดูล้าสมัย

ในภาพยนตร์ที่ถูกตัดแปลงมาจากนิยายเรื่องสี่ดรุณี ทรงผมของตัวละครหลักเป็นสิ่งที่ถูกวิจารณ์มากที่สุด เพราะตัวละครหลักมาพร้อมกับทรงผมที่ไม่เรียบตึงและเปิดเผยบ่อยเกินไป ถึงอย่างนั้น เครื่องแต่งกายบางชิ้นก็ดูน่าคลางแคลงใจเช่นกัน

ตัวอย่างเช่น ในหนังสือบอกว่าเม็ก (Meg) เข้ามาในงานเลี้ยงพร้อมกับชุดที่ดูฉาวโฉ่ การแต่งตัวและพฤติกรรมของเธอทำให้แขกคนอื่นไม่พอใจ ในภาพยนตร์ ชุดของเธอดูเชยกว่านั้นมาก เนื่องจากเนื้อเรื่องในหนังสือบอกว่าบริเวณคอเสื้อควรจะลึกกว่านี้และเดรสของเธอก็ไม่มีสายรัด เพราะงั้นฉากนี้จึงสูญเสียสิ่งที่ต้องการจะสื่อไป

ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะกล้าออกไปข้างนอกในขณะที่สวมเสื้อเปิดไหล่ในช่วงศตวรรษที่ 16

ในช่วงศตวรรษที่ 16 ผู้หญิงมักจะใส่ชุดด้านในเดรสของพวกเธอ และบางส่วนของชุดก็จะมองเห็นได้ ถึงอย่างนั้น องค์ประกอบของชุดได้ถูกละเลยในซีรีส์โทรทัศน์เรื่องบัลลังก์รัก บัลลังก์เดือด ตัวอย่างเช่น แกเบรียล อันวาร์ (Gabrielle Anwar) ที่ปรากฏตัวบนหน้าจอด้วยเครื่องแบบสีสันสดใสที่ไม่ได้สวมเสื้อด้านใน ณ ช่วงเวลานั้น บริเวณคอเสื้อมักจะเป็นสี่เหลี่ยมและเดรสจะประกอบด้วยหลายส่วน ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะจินตนาการว่าผู้หญิงในยุคนั้นสวมใส่เดรสเปิดไหล่

มีเพียงจักรพรรดิเท่านั้นที่สวมใส่ชุดสีม่วงได้ในยุคโรมโบราณ

เหตุการณ์ของภาพยนตร์เรื่องปอมเปอีเกิดขึ้นในศตวรรษที่หนึ่ง ในช่วงเวลานั้นมีเพียงแค่จักรพรรดิที่สวมใส่เสื้อผ้าสีม่วงได้ ใครก็ตามที่กล้าใส่เสื้อผ้าสีนี้จะต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรง ดังนั้นเมื่อตอนที่ขุนนางคอร์วัส (Senator Corvus) ได้ปรากฏตัวบนหน้าจอด้วยเครื่องแบบสีนี้ คุณจึงอาจจะเริ่มกังวลถึงอนาคตของเขาขึ้นมาโดยอัตโนมัติ และไม่ใช่มีเพียงแค่เขาที่สวมเครื่องแบบสีม่วงเท่านั้น แต่ทหารของเขาก็แต่งกายในเครื่องแบบสีม่วงเช่นกัน

เสื้อรัดรูปไม่ได้ถูกตกแต่งด้วยภาพใหญ่ ๆ ภาพเดียว

ในช่วงศตวรรษที่ 16 ผู้หญิงจะตกแต่งเสื้อรัดรูป, กระโปรงหรือรายละเอียดอื่น ๆ ของชุดเดรสด้วยการปักลาย แต่พวกเธอจะเลือกลายที่ซับซ้อน ไม่ใช่ภาพใหญ่ ๆ เพียงภาพเดียว ชุดเดรสประเภทนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในภายหลัง ดังนั้นเดรสที่นาตาลี ดอร์มเมอร์ (Natalie Dormer) ผู้ที่รับบทเป็นแอนน์ บุลิน (Anne Boleyn) สวมใส่ในเรื่องบัลลังก์รัก บัลลังก์เดือดจึงดูไม่สมจริง

เสื้อสเวตเตอร์แบบถักดูแปลกมากเมื่ออยู่บนหน้าจอ

ภาพยนตร์เรื่องแมรี เชลลีย์ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของชีวิตนักเขียน ได้รับคำวิจารณ์ทั้งในด้านดีและด้านลบจากนักวิจารณ์ เหตุผลหนึ่งอาจจะเป็นเพราะเครื่องแต่งกายของตัวละครหลักดูเหมือนกับแฟชั่นที่ทันสมัยจากช่วงต้นของศตวรรษที่ 19

นักออกแบบชุดเลือกผ้าลินินแทนที่จะเป็นผ้าฝ้ายหรือผ้าขนสัตว์ ดังนั้นเดรสทั้งหมดจึงดูยับยู่ยี่และไม่ได้รูป เครื่องแต่งกายสีชมพูชุดนี้อาจจะเป็นสิ่งที่แย่ที่สุดในภาพยนตร์ เพราะมันดูเหมือนกับสไตล์ยุครีเจนซี่กรันจ์

ไม่มีสีย้อมผ้าที่สีจัดจ้านแบบนี้ในศตวรรษที่ 18

ภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์เรื่องแฟร์เวล มายควีนได้บอกเล่าเรื่องราวของชีวิตของคนในราชสำนักฝรั่งเศสในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 มีหญิงสาวมากมายที่สวมชุดหลากสีสัน ตัวอย่างเช่น แวร์จินี เลอดัวยอง (Virginie Ledoyen) ได้ปรากฏตัวบนหน้าจอในชุดเดรสสีเขียว ในศตวรรษที่ผ่าน ๆ มา แน่นอนว่าผ้าถูกย้อมได้หลากสี แต่มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำสีที่จัดจ้าน มันมักจะเป็นสีที่นุ่มนวลและเรียบง่าย

หมวกฟางปีกกว้างไม่เคยถูกผูกด้วยริบบิ้น

เหตุการณ์ในภาพยนตร์เรื่องคืนชีพกองทัพโจรสลัดสยองโลกเกิดขึ้นในช่วงต้นของศตวรรษที่ 18 และเครื่องประดับบนศีรษะของเอลิซาเบธ (Elizabeth) ก็ดูค่อนข้างสมจริงเลยทีเดียวเพราะบางครั้งหมวกฟางก็ถูกผูกไว้ด้วยริบบิ้น แต่เรื่องของเรื่องคือริบบิ้นมักจะมาจากด้านในของหมวก ไม่มีใครที่จะติดริบบิ้นลงบนด้านนั้นของหมวก มันไม่ได้ดูดีขนาดนั้น

เสื้อคลุมลูกไม้แบบนี้ดูจะใจกล้าเกินไปสำหรับในศตวรรษที่ 18

ผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องเลิฟ แอนด์ เฟรนด์ชิฟได้มีการเลือกเครื่องแต่งกายด้วยความรับผิดชอบมาก เครื่องแต่งกายส่วนใหญ่สอดคล้องกับยุคสมัย และยังคงสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตัวละครหลักด้วย อย่างไรก็ตาม นักออกแบบเครื่องแต่งกายก็ได้แสดงให้เห็นถึงการคิดเอาเองเช่นกัน เนื่องจากในตอนนั้นชุดเดรสยังไม่มีการตกแต่งด้วยเสื้อคลุมแบบลูกไม้

ดาฟนี่ลืมม้วนผมหน้าม้าของเธอ

ถึงแม้ว่าซีรี่ย์เรื่องบริดเจอร์ตันจะไม่ได้พยายามให้ความถูกต้องทางประวัติศาสตร์ แต่โดยทั่วไปแล้วเครื่องแต่งกายของตัวละครก็ค่อนข้างสอดคล้องกับยุคสมัย อย่างไรก็ตาม ในบางครั้งทรงผมก็อาจจะเป็นสิ่งที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้

ในช่วงเวลานั้น หญิงสาวจะมัดผมสูงและปล่อยผมลงบนบ่าของพวกเธอแค่เพียงด้านเดียวเท่านั้น แต่ผมหน้าม้าจำเป็นจะต้องถูกม้วน ดังนั้นการที่ดาฟนี่ (Daphne) มีผมหน้าม้าที่ปกคลุมหน้าผากของเธอ ทำให้เธอดูเหมือนกับนาตาชา โรสโตวา (Natasha Rostova) ที่รับบทโดยออเดรย์ เฮปเบิร์น (Audrey Hepburn) มากกว่าที่จะเป็นหญิงสาวจากยุครีเจนซี่

ชุดเกราะสำหรับหญิงตั้งครรภ์ไม่เคยมีปรากฏ

ซีรี่ย์เรื่องเดอะ สแปนิช พริ้นเซสได้บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของแคเธอรีนแห่งอารากอน (Catherine of Aragon) ผู้ซึ่งเป็นภรรยาคนแรกของเฮนรี่ที่แปด (Henry VIII) ในตอนหนึ่ง พระราชินีได้ถูกบังคับให้ปกป้องถิ่นฐานใหม่ของเธอด้วยมือของเธอเอง และเพราะเหตุนี้เธอจึงต้องสวมชุดเกราะ มันอาจจะมีให้เห็นบ้างกับการที่ผู้หญิงจะนำกองกำลังทหารและมีส่วนร่วมในสมรภูมิรบ

แต่มันไม่มีหลักฐานที่เชื่อถือได้ว่าชุดเกราะแบบพิเศษได้ถูกทำขึ้นสำหรับผู้หญิงในช่วงยุคกลาง แผ่นเหล็กช่วงหน้าอกที่โค้งตามร่างกายของผู้หญิงอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ หน้าที่หลักของส่วนที่นูนบนชุดเกราะก็คือการหันเหทิศทางของดาบซึ่งควรจะตัดโลหะออกได้ และการใช้ชุดเกราะแบบที่แคเธอรีนแห่งอารากอนสวมใส่ในภาพยนตร์เรื่องนี้อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่น่าเศร้าได้

คุณคิดว่าเครื่องแบบในภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ควรจะแค่เพื่อให้ดูสวยงามหรือควรจะถูกต้องตามประวัติศาสตร์จริง ๆ ด้วย ? แบ่งปันความคิดเห็นของคุณในช่องคอมเมนต์ด้านล่าง

มีรูปภาพหรือเรื่องราวเจ๋ง ๆ และอยากร่วมงานกับชีวิตสดใสงั้นเหรอ ? ส่งมาให้เราที่นี่ตอนนี้เลย พวกเรากำลังรออยู่นะ !

เครดิตภาพพรีวิว The Spanish Princess / All3 Media
ชีวิตสดใส/ภาพยนตร์/14 เครื่องแบบในภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในความเป็นจริง
แชร์บทความนี้