ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

9 นักแสดงที่พิสูจน์ว่าพวกเขาไม่ได้ถูกจำกัดบทบาทอยู่กับแค่ภาพจำเท่านั้น

เมื่อเรานึกถึงแดเนียล แรดคลิฟฟ์ (Daniel Radcliffe) สิ่งแรกที่เรานึกออกก็น่าจะเป็นโรงเรียนพ่อมดแม่มด และเมื่อเรานึกถึงโรเบิร์ท แพททินสัน (Robert Pattinson) เราก็มักจะเห็นภาพของแวมไพร์ทรงเสน่ห์ พวกเราล้วนคุ้นเคยกับนักแสดงที่ชื่อของพวกเขาทำให้เรานึกถึงฮีโร่หรืออะไรบางอย่างในความทรงจำของเรา แต่ถึงแม้จะถูกจำโดยภาพเหล่านี้ นักแสดงหลายคนก็ต้องลบภาพตัวเองจากบทหนังในเรื่องก่อนและเดินหน้าต่อไปในเส้นทางฮอลลีวูด

ชีวิตสดใสชวนให้คุณมานึกถึงอดีตของนักแสดงเหล่านี้ที่ต้องหลบหนีจากภาพจำของบทบาทก่อนหน้าของพวกเขา และก้าวต่อไปอย่างชวนหลงใหลในแวดวงฮอลลีวูดให้ได้

1. แดเนียล แรดคลิฟฟ์

แดเนียล แรดคลิฟฟ์ (Daniel Radcliffe) เติบโตบนหน้าจอท่ามกลางสายตาของเราที่จับจ้อง ในขณะที่หลายคนเติบโตไปพร้อม ๆ กับเขา ตอนนี้เขาก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะสลัดภาพแฮร์รี่ พอตเตอร์ออกไปและพิสูจน์ว่าเขาเป็นนักแสดงหนุ่มที่มีพรสวรรค์ ไม่ใช่แค่ “เด็กชายผู้รอดชีวิต”

ความพยายามนี้รวมถึงการแสดงภาพยนตร์อินดี้แนวทดลอง กล้าหาญและสร้างสรรค์ หนึ่งในนั้นก็คือเรื่องคิล ยัวร์ ดาร์ลิงส์ (Kill Your Darlings) ซึ่งเขารับบทเป็นอัลเลน กินสเบิร์ก กวีฮิปสเตอร์ตัวจริงและในเรื่องสวิส อาร์มี่ แมน (Swiss Army Man) ที่แดเนียลได้แสดงบทบาทที่หยาบคายและน่ารังเกียจที่สุด แต่ก็ยังมีความจริงใจและช่างคิดซึ่งเป็นบทบาทของ...ศพที่ตดได้ ใช่แล้ว คุณไม่ได้อ่านผิดหรอก และเขาก็ตีบทแตกซะด้วย

2. เจค จิลเลินฮาล

เจค จิลเลินฮาล (Jake Gyllenhaal) สร้างชื่อให้กับตัวเองในฐานะตัวประหลาดอันเป็นที่รักของฮอลลีวูดและเขาก็ประสบความสำเร็จทางด้านการแสดงในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา บทบาทที่สร้างชื่อของเขาก็คือบทบาทของตัวเอกในดอนนี่ ดาร์โก้ (Donnie Darko) ซึ่งเป็นตัวละครที่คิดมากแบบแปลก ๆ ในภาพยนตร์ที่ดูแปลก ๆ

ปัจจุบันนี้เขามักจะรับบทเป็นตัวละครที่พูดได้เลยว่า “ประหลาด” ซึ่งมีตั้งแต่ “มีการดิ้นรน แต่ก็ดูแปลกพิกล” (ล่าตัวตน คนสองเงา - Enemy/ตามล่า รหัสฆ่า ฆาตกรอำมหิต - Zodiac/คืนทมิฬ - Nocturnal Animals) ไปจนหนังแนวโรคจิตฮา ๆ อย่างเรื่อง (เหยี่ยวข่าวคลั่ง ล่าข่าวโหด - Nightcrawler/ขอเทใจให้อีกครั้ง - Demolition, สไปเดอร์-แมน: ฟาร์ ฟอร์ม โฮม/Spider-Man: Far From Home)

3. โรเบิร์ท แพททินสัน

โรเบิร์ท แพททินสัน (Robert Pattinson) คนแปลกในฮอลลีวูดอีกคนหนึ่ง เขามักจะเลือกบทบาทแปลก ๆ ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อเอาตัวเองออกมาให้ห่างจากความเป็นเซดริก ดิกกอรี่ในเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์และความเป็นแวมไพร์พราวเสน่ห์จากเรื่องทไวไลท์ (Twilight) จึงไม่น่าแปลกใจที่หนังของเขามักจะมีทั้งข้อโต้แย้งและความท้าทาย เช่น ในหนังสยองขวัญเรื่องเดอะ ไลท์เฮ้าส์ (The Lighthouse) โรเบิร์ทบอกว่า “ผมแค่อยากลองทำอะไรแปลก ๆ” และเขาก็ยอมรับว่าเขาตอบตกลงรับเล่นบทนี้ทันทีหลังจากที่ได้อ่านเนื้อเรื่องและคิดว่า “ผมจะต้องมีหนวดที่เท่สุด ๆ”

เขายังแสดงเป็นบรูซ เวย์นในภาพยนตร์เรื่องแบทแมนที่กำลังจะเข้าฉายซึ่งมันจะต้องมีอะไรที่พิเศษมากแน่นอนเพราะไม่อย่างนั้นเขาคงปฏิเสธที่จะเล่นบทนี้ไปแล้ว

4. เอไลจาห์ วูด

เส้นทางอาชีพของเอไลจาห์ วูด (Elijah Wood) ก้าวสู่ขั้นพีคจากบทบาทของเขาในเรื่องเดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์ (Lord od the Rings) ไตรภาค ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะเลือกบทหนังแบบบ้าสุดขั้วและเขาก็ได้แสดงในโปรเจคแปลก ๆ หลายเรื่อง

เขาเป็นนักแสดงนำของซีรีย์ประหลาด ๆ บนโทรทัศน์สองเรื่อง เรื่องแรกคือสำนักงานนักสืบแบบโฮลิสติกของเดิร์ค เจนท์ลีย์ (Dirk Gently’s Holistic Detective Agency) ซึ่งเป็นซีรีย์แปลก ๆ ที่น่ารักและอีกเรื่องคือวิลเฟรด (Wilfred) ซึ่งเป็นหนังแปลกแนวดาร์ค เอไลจาห์ดูจะชอบเล่นหนังแนวฆ่าฟัน สยองขวัญและตลกร้าย และทั้งหมดนี้ล้วนไม่มีอะไรใกล้เคียงกับการผจญภัยในโลกแฟนตาซีของโฟรโด้ แบ๊กกิ้นเลย

5. โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์

โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์ (Joseph Gordon-Levitt) เริ่มต้นจากการเล่นบทบาทเล็ก ๆ ในละครซิตคอมชวนยิ้ม (เติร์ด ร็อค ฟอร์ม เดอะ ซัน - 3rd Rock from the Sun) และหนังโรแมนติกคอมเมดี้ที่เรียกรอยยิ้มได้ไม่แพ้กัน (10 กฎเฮ้วเด็ดหัวใจเฮี้ยว - 10 Things I Hate About You) ตั้งแต่นั้นมา เขาก็ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแสดงที่ยอดเยี่ยมโดยมีตั้งแต่หนังดราม่าอินดี้อย่างเรื่องไม่ตายก็รอดวะ (50/50) และบดหัวใจ กลบความทรงจำ (Mysterious Skin) ไปจนหนังทำเงินอย่างเรื่องจิตพิฆาตโลก (Inception) และแบทแมน อัศวินรัตติกาลผงาด (The Dark Knight Rises) ไปจนเรื่องซัมเมอร์ของฉัน 500 วัน ไม่ลืมเธอ (500 Days Of Summer) หนังฉลาดที่แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ในชีวิตจริงเป็นอย่างไรซึ่งค่อนข้างต่างจากหนังโรแมนติกคอมเมดี้ชวนยิ้ม

6. เอ็มม่า วัตสัน

นับตั้งแต่เรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ เอ็มม่า วัตสัน (Emma Watson) ก็ได้ก้าวเข้าสู่บทบาทของผู้ใหญ่อย่างสง่างามและสุขุมซึ่งพิสูจน์ว่าเธอเล่นเป็นตัวละครได้ทุกรูปแบบ เธอเล่นเป็นเด็กสาววัยรุ่นได้อย่างคล่องแคล่วในเรื่องวัยป่วนหัวใจปึ้ก (The Perks of Being a Wallflower) ซึ่งไม่มีอะไรเหมือนกับเฮอร์ไมโอนี่เลย แตกต่างจากแดเนียลตรงที่เธอยังคงเลือกที่จะแสดงหนังทำเงินอย่างเช่นเรื่องโฉมงามกับเจ้าชายอสูร (Beauty and the Beast) ฉบับรีเมค

เอ็มม่าขึ้นชื่อในเรื่องของความเข้มงวดในการเลือกบทของเธอและเธอมักจะสนใจบทที่มีความเป็นสตรีนิยมและความก้าวหน้า อย่างเช่นหนังที่ดัดแปลงมาจากหนังสือเรื่องสี่ดรุณี (Little Women)

7. เซเลน่า โกเมซ

เซเลน่า โกเมซ (Selena Gomez) เป็นนักแสดงเด็กดาวเด่นของช่องดิสนีย์ เธอแสดงหลายต่อหลายเรื่อง เช่น เดอะ สวีท ไลฟ์ ออฟ แซ็ค แอนด์ โคดี้ (The Suite Life of Zack & Cody), แฮนน่าห์ มอนทานา สาวเด่น เต้น ร้อง (Hannah Montana), ครอบครัวพลังโอมเพี้ยง (Wizards of Waverly Place) ซึ่งคุณน่าจะนึกออกนะ หลังจากที่เรื่องครอบครัวพลังโอมเพี้ยงจบลง เซเลน่าก็ก้าวออกจากฟูกของดิสนีย์และมาเล่นบทที่มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นในภาพยนตร์ที่มีข้อถกเถียงกันอย่างเรื่องบีแฮฟวิ่ง แบดลี่ (Behaving Badly) และกิน เที่ยว เปรี้ยว ล้น (Spring Breakers) ซึ่งเธอได้แสดงฉากที่เข้มข้นด้วย

เซเลน่าได้พิสูจน์ตัวเองในการพากย์เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ โดยเธอพากย์เสียงเป็นแวมไพร์สาววัยรุ่นในเรื่องโรงแรมผี หนีไปพักร้อน (Hotel Transylvania) และได้พากย์เสียงตัวละครหลักหญิงในอาร์เธอร์ ทูตจิ๋วเจาะขุมทรัพย์มหัศจรรย์ (Arthur and the Invisibles) ทั้งสามภาค

8. เอซรา มิลเลอร์

บางทึ ผลงานการแสดงของเอซรา มิลเลอร์ (Ezra Miller) ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดสองเรื่องซึ่งก็คือหนังวัยรุ่นเรื่องวัยป่วนหัวใจปึ้ก (The Perks of Being a Wallflower) และเรื่องคำสารภาพโหดของเควิน (We Need to Talk About Kevin) ในขณะที่หนังเรื่องแรกเป็นเรื่องราวการบรรลุนิติภาวะอันทรงพลัง หนังเรื่องที่สองกลับเป็นหนังที่ตื่นเต้นเร้าใจอย่างมากซึ่งเป็นการสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูก, ความผิดพลาดในการเลี้ยงลูกและ “ลูกที่รับมือได้ยาก”

อนาคตของเอซราทางด้านการแสดงก้าวหน้าอย่างมากโดยเขาได้แสดงในภาพยนตร์ที่มีสเกลใหญ่ขึ้น และตอนนี้เขาก็ได้เล่นทั้งหนังซุปเปอร์ฮีโร่ของดีซีและหนังแฟรนไชส์ของสัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ (Fantastic Beasts) ซึ่งเป็นหนังภาคแยกออกมาจากเรื่องแฮร์รี่พอตเตอร์ (Harry Potter)

9. แอนน์ แฮททาเวย์

เป็นเวลาหลายปีที่แอนน์ แฮททาเวย์ (Anne Hathaway) ได้เล่นบทบาทที่ไร้เดียงสาในภาพยนตร์ของดิสนีย์อย่างเรื่องบันทึกรักเจ้าหญิงมือใหม่ (The Princess Diaries) ก่อนจะก้าวเข้าสู่ตำแหน่งซุปเปอร์สตาร์ชื่อดัง ผลงานการแสดงของเธอมีความหลากหลายมาก มีทั้งหนังแนวแฟชั่นคอมมาดี้อย่างเรื่องนางมารสวมปราด้า (The Devil Wears Prada) หนังแนวประหลาดอย่างเรื่องอลิซในแดนมหัศจรรย์ (Alice in Wonderland) และซุปเปอร์ฮีโร่หนังทำเงินอย่างเรื่องแบทแมน อัศวินรัตติกาลผงาด (The Dark Knight Rises) หนังไซไฟเรื่องทะยานดาวกู้โลก (Interstella) และหนังภาคแยกจากเรื่องโอเชี่ยน อีเลเว่น (Ocean’s Eleven) ซึ่งก็คือโอเชี่ยน เอ็ท (Ocean’s 8) ซึ่งเป็นภาคหญิงล้วน

และเมื่อคุณคิดว่าเธอไม่มีอะไรอย่างอื่นแล้ว เธอยังได้เผยเสียงร้องเพลงของเธอในภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากละครบอร์ดเวย์เรื่องเล มิเซราบล์ (Les Miserables) และร้องเพลงที่บีบคั้นหัวใจจนทำให้เธอได้รับรางวัลออสการ์

ของแถม: คริสเต็น สจ๊วต

ผู้คนมักจะมองข้ามคริสเต็น สจ๊วต (Kristen Stewart) เพราะเธอแสดงเรื่องทไวไลท์ (Twilight ) แต่เธอได้พิสูจน์ตัวเองมานานแล้วว่าเธอเป็นนักแสดงที่เก่งกาจเหมือนกับนักแสดงร่วมของเธอ ตอนนี้เธอได้แสดงหนังที่ไม่ธรรมดา หนึ่งในนั้นมีหนังสยองขวัญเรื่องมฤตยูใต้สมุทร (Underwater) ด้วย ซึ่งกองถ่ายตั้งอยู่บนแท่นขุดเจาะกลางทะเลลึกซึ่งการถ่ายทำมักจะให้นักแสดงดำอยู่ใต้น้ำ ด้วยเหตุนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงส่งผลกระทบต่อคริสเต็นอย่างมากทั้งทางร่างกายและจิตใจ

และใครจะไปเดาได้ว่าตอนนี้เธอกำลังรับบทเป็นเจ้าหญิงไดอาน่าในภาพยนตร์เรื่องต่อไป อย่างที่ผู้กำกับกล่าวไว้ว่า “คริสเต็นมีทั้งความลึกลับและความเปราะบางและมีความแข็งแกร่งอย่างที่สุด” และนี่คือสิ่งที่พวกเขาต้องการจากคนที่จะมาแสดงเป็นเจ้าหญิงไดอาน่า เพราะฉะนั้นมันถึงเวลาที่คริสเต็นจะต้องปัดฝุ่นสำเนียงอังกฤษของเธอแล้ว

นักแสดงคนไหนที่ทำได้เกินความคาดหมายของคุณ แบ่งปันคำตอบของคุณในช่องคอมเมนต์

เครดิตภาพพรีวิว Twilight / Summit Entertainment, The Lighthouse / A24
แชร์บทความนี้