10 คนดังที่ไม่ได้เริ่มต้นทำธุรกิจเพียงแค่เพราะอยากได้เงินมากขึ้น

การทำกำไรจากธุรกิจใหม่อาจเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับบางคนซึ่งมันต้องใช้ความพยายามและความทุ่มเทอย่างมาก แต่สำหรับคนดังบางคนแล้ว การทำธุรกิจไม่ใช่แค่เรื่องของการทำกำไร แต่ยังเป็นเรื่องของการทำให้โลกเป็นสถานที่ที่สดใสและดีกว่าเดิม

ชีวิตสดใสได้จัดทำรายชื่อคนดังที่นอกจากจะมีชื่อเสียงและมีตารางการทำงานที่แน่นมากแล้ว แต่พวกเขาก็ยังเลือกที่จะก้าวเข้าสู่การทำธุรกิจอย่างกล้าหาญเพื่อสร้างสิ่งที่ดีกว่าให้กับชุมชนของพวกเขา

1. จอน บอง โจวี

ในปี 2011 จอน บอง โจวี (Jon Bon Jovi) โดโรเธีย เฮอร์ลีย์ (Dorothea Hurley) ภรรยาของเขาได้เปิดร้านเจบีเจ โซล คิทเช่น ซึ่งเป็นร้านอาหารในชุมชนที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่เสิร์ฟอาหารให้กับทั้งลูกค้าทึ่จ่ายเงินและลูกค้าที่ต้องการความช่วยเหลือ มันเป็นสถานที่ที่ใคร ๆ จะมารับประทานอาหารอร่อย ๆ ได้โดยไม่เสียเงิน มันจะไม่มีราคาบอกบนเมนูเนื่องจากคุณจะจ่ายเงินเพื่อเป็นการบริจาคได้เท่านั้น

แต่ถ้าคุณบริจาคไม่ได้ คุณก็ยังรับประทานอาหารอันแสนอร่อยได้โดยการอาสาเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานในครัว ร้านอาหารมีการใช้วัตถุดิบที่ส่งตรงจากฟาร์มและมีโปรแกรม “จ่ายล่วงหน้า” ซึ่งการจ่ายเงินเพิ่มทุก ๆ 660 บาท (20 ดอลลาร์) จะเป็นการมอบอาหารให้กับคนที่ไม่มีเงินบริจาค

2. เจสสิกา อัลบ้า

ในปี 2011 เจสสิกา อัลบ้า (Jessica Alba) ได้ก่อตั้ง The Honest Company ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายสำหรับเด็กทารก และเธอได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในผู้หญิงที่สร้างตัวเองที่ร่ำรวยที่สุดในอเมริกา อัลบ้าได้แนวคิดของธุรกิจนี้เป็นครั้งแรกจากออเนอร์ (Honor) ลูกคนแรกของเธอและประวัติการเจ็บป่วยของตัวเธอเองในวัยเด็ก The Honest Company ยังได้นำเสนอทางเลือกอื่น ๆ ของผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กที่มีส่วนผสมและสารเคมีทีาเป็นอันตราย

3. เจเด้น สมิธ

เมื่ออายุได้ 11 ปี เจเด้น สมิธ (Jaden Smith) ได้เริ่มก่อตั้ง Just Water ซึ่งเป็นน้ำแร่ธรรมชาติ 100% ที่บรรจุในบรรจุภัณฑ์ที่ทำมาจากกระดาษคาร์บอนซึ่งรีฟิลและรีไซเคิลได้ เขาได้ไอเดียนี้เป็นครั้งแรกในขณะที่กำลังเรียนเซิร์ฟอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกและเห็นว่ามีขวดพลาสติกลอยอยู่ข้าง ๆ เขา และเขาก็รู้สึกกังวลกับเรื่องมลพิษในมหาสมุทร ซึ่งเขาได้รับการสนับสนุนจากวิล สมิธ (Will Smith) และจาด้า พิงเค็ทท์-สมิธ (Jada Pinkett-Smith) พ่อแม่ซูเปอร์สตาร์ของเขา เจเด้นตั้งใจจะทำอะไรบางอย่างซึ่งเป็นการสร้างบริษัทที่ทดแทนการใช้ขวดพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งให้เป็นอะไรที่ยั่งยืนมากกว่าแทน

4. พอล รัดด์ และเจฟฟ์ ดีน มอร์แกน

เมื่อนานมาแล้วมีร้านขายลูกอมวินเทจอันเป็นที่รักในเมืองไรน์เบ็ค รัฐนิวยอร์ค ที่มีชื่อว่าซามูเอลส์ ออฟ ไรน์เบ็คซึ่งก่อตั้งโดยอิร่า กัทเนอร์ (Ira Gutner) ในปี 1994 ซึ่งตั้งชื่อร้านตามลุงแซมผู้ล่วงลับของเขา ซึ่งเป็นคนแนะนำให้เขารู้จักกับขนมที่มีราคาประมาณหนึ่งเพ็นนีตั้งแต่ยังเด็ก น่าเสียดายที่เขาเสียชีวิตอย่างกระทันหันในเดือนเมษายนปี 2014 ซึ่งทำให้ชุมชนคนรักลูกอมทั้งตกใจและเสียใจ

ในหมู่คนที่รักร้านค้าร้านนี้ก็มีคนดังอย่างพอล รัดด์ (Paul Rudd) และเจฟฟ์ ดีน มอร์แกน (Jeff Dean Morgan) ด้วย พวกเขารักร้านค้าร้านนี้มากจนทั้งคู่ได้ก้าวเข้ามาและทำให้มันกลับมามีชีวิตอีกครั้งเพื่อป้องกันจากการปิดตัวลง นักแสดงทั้งสองพร้อมกับภรรยาของพวกเขาและคู่รักอีกคู่หนึ่งได้เป็นเจ้าของร้านร่วมกัน และตอนนี้รู้จักกันในชื่อว่าซามูเอลส์ สวีท ช็อป

5. สตีฟ คาเรลล์

ในปี 2009 สตีฟ คาเรลล์ (Steve Carell) นักแสดงชายจากเรื่องดิ ออฟฟิศ ได้ซื้อร้านมาชฟีลด์ ฮิลล์ เจเนอรัล สโตร์อันเก่าแก่ในบ้านเกิดของเขาที่แมสซาชูเซตส์ ทั้งสตีฟและแนนซี่ คาเรลล์ (Nancy Carell) ซึ่งเป็นภรรยาของเขาและนักแสดงสาวเติบโตที่นั่น และยังคงใช้เวลาช่วงวันหยุดของพวกเขาในเมืองมาชฟีลด์ฮิลล์

พี่สาวของแนนซี่เป็นคนบอกกับทั้งคู่ว่าร้านนี้ถูกขายแล้ว และเมื่อเห็นว่ามันเป็นโอกาสที่จะช่วยอนุรักษ์ประวัติศาสตร์เอาไว้ สตีฟจึงตัดสินใจซื้อในทันที ในการให้สัมภาษณ์สตีฟบอกว่าเขาเห็นว่าร้านค้าแห่งนี้เป็นสถานที่รวมตัวที่ผู้คนจะมีความรู้สึกเป็นชุมชนได้ เขายังเชื่ออีกว่าสถานที่เหล่านี้หายากขึ้นเรื่อย ๆ และหวังว่าจะรักษาสถานที่ทางประวัติศาสตร์แห่งนี้ให้มีชีวิตและอยู่ได้เป็นอย่างดี

6. เอ็ด นอร์ตัน

ในปี 2011 เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน (Edward Norton), ชอว์น โรเบิร์ตสัน (Shaun Robertson) โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์พร้อมกับโรเบิร์ต (Robert) และเจฟฟรีย์ วูล์ฟ (Jeffrey Wolfe) ผู้ประกอบการได้ก่อตั้งคราวด์ไรซ์ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการระดมทุนที่แสวงหาผลกำไรโดยมีเป้าหมายเพื่อการกุศล ปัจจัยเฉพาะของแพลตฟอร์มนี้คือการตอบแทนความสนุกด้วยองค์ประกอบของเครือข่ายสังคม, การแข่งขัน และระบบคะแนน

7. ฟาเรล วิลเลียมส์

ใครจะไปคิดว่าคุณจะนำพลาสติกมาทำเป็นเส้นด้ายได้ ? แต่ฟาเรล วิลเลียมส์ (Pharrell Williams) และทีมงานของเขาที่ไบโอนิค ยาร์นทำได้ ไบโอนิค ยาร์นก่อตั้งในปี 2010 และมันเป็นเส้นด้ายที่ทำมาจากพลาสติกที่ถูกทิ้งและรวบรวมมาจากมหาสมุทร เส้นด้ายชนิดนี้นำมาทำเป็นเสื้อผ้า, รองเท้า, กระเป๋าและเฟอร์นิเจอร์ บริษัทยังได้พยายามสร้างโครงสร้างพื้นฐานในการกู้คืนพลาสติกบนชายฝั่งในสถานที่ต่าง ๆ

ฟาร์เรลกล่าวว่าไอเดียทั้งหมดของไบโอนิค ยาร์นคือการสร้างความยั่งยืนและไม่ให้เกิดการทิ้งขยะลงไปในมหาสมุทรอีก

8. คริสเต็น เบล และแด็กซ์ เชพเพิร์ด

คริสเต็น เบล (Kristen Bell) และแด็กซ์ เชพเพิร์ด (Dax Shepard) คู่รักและพ่อแม่ที่มีชื่อเสียงได้ก่อตั้งฮัลโล เบลโล ร้านค้าสตาร์ทอัพที่ขายสินค้าสำหรับเด็กที่มาจากธรรมชาติล้วน ๆ เช่น ผ้าอ้อม, ผ้าเช็ดก้นและครีมกันแดด ร้านค้าก่อตั้งในปี 2019 และมีจุดมุ่งหมายเพื่อขายสินค้าสำหรับเด็กเกรดพรีเมี่ยมโดยไม่ขูดรีดเงินในกระเป๋าของคุณ ในบทสัมภาษณ์ คริสเต็นและแด็กซ์บอกว่าคนดังแบบพวกเขาไม่ควรจะเป็นคนกลุ่มเดียวที่เข้าถึงสินค้าประเภทนี้ได้ มันจึงเป็นสาเหตุที่พวกเขาตัดสินใจทำธุรกิจนี้

9. ฮิวจ์ แจ็คแมน

ในปี 2009 ฮิวจ์ แจ็คแมน (Hugh Jackman) ได้พบกับเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟอย่างเป็นธรรมที่มีชื่อว่าดูเคล (Dukale) ในเอธิโอเปียซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดกาแฟ ดูเคลได้แสดงให้ฮิวจ์เห็นว่าพวกเขาปลูกกาแฟที่อร่อยด้วยอุปกรณ์ที่ง่ายและไม่ทิ้งคาร์บอนฟุตพริ้นท์ไว้เลย ฮิวจ์ได้รับแรงบันดาลใจจากความเป็นผู้นำของดูเคลในชุมชนของเกษตรกร และจากจิตวิญญาณและเสียงหัวเราะของเขาด้วย หลังจากนั้นเขาก็คิดได้ว่าโลกควรจะได้รับฟังเรื่องราวของดูเคลและกาแฟของเขาก็ต้องถูกลิ้มรส ฮิวจ์สัญญากับดูเคลว่าเขาจะช่วยทำให้สิ่งนี้เป็นจริง แล้วลาฟฟิ่ง แมน คอฟฟี่ก็ถือกำเนิด

10. จีน่า รอดริเกซ

จีน่า รอดริเกซ (Gina Rodriguez) ได้ก่อตั้งนาจา ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ชุดชั้นในที่สร้างผลกระทบต่อสังคมที่ช่วยมอบพลังให้กับคนงานตัดเย็บเสื้อผ้าหญิง โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าของบริษัทจ้างแม่เลี้ยงเดี่ยวและหัวหน้าครอบครัวที่เป็นผู้หญิงเป็นหลัก ซึ่งพวกเธอจะได้รับค่าตอบแทนสูงกว่าค่าจ้างทั่วไปพร้อมกับสวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลด้วย เธอยังมอบนโยบายการทำงานที่ยืดหยุ่นที่ช่วยให้ผู้หญิงสร้างสมดุลในการทำงานและการดูแลลูกได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ลูก ๆ ของพนักงานทุกคนจะได้รับหนังสือ, อุปกรณ์การเรียน, เครื่องแบบและอาหารที่โรงเรียน ซึ่งนาจาจะเป็นผู้จ่ายให้ทั้งหมด

ธุรกิจไหนที่โดนใจคุณที่สุด ? คุณรู้จักคนดังที่เป็นแรงบันดาลใจให้บุคคลอื่นที่กำลังทำธุรกิจเพื่อสังคมหรือไม่ ? บอกให้เรารู้ในช่องคอมเมนต์ได้เลย !