11 นักแสดงที่มีโอกาสได้แสดงเป็นตัวละครดังแต่กลับพลาดโอกาสนั้นไป

มันมีหลายวิธีในการรับบทบาทเป็นนักแสดงในภาพยนตร์สักเรื่อง นักแสดงบางคนได้รับการคัดเลือกระหว่างการคัดเลือกนักแสดง ในขณะที่คนอื่นๆ ได้ถูกทาบทามให้รับบทเนื่องจากความนิยมของพวกเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับ เคต วินสเล็ต (Kate Winslet) หลังจากแสดงเรื่อง ไททานิค (Titanic) แต่ไม่ใช่ว่าการคัดเลือกทั้งหมดจะจบลงแบบได้รับคัดเลือก หรือนักแสดงอาจไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของผู้กำกับหรือผู้ผลิตภาพยนตร์ ตัวอย่างเช่น รัสเซล โครว์ (Russell Crowe) ปฏิเสธที่จะแสดงใน เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ (Lord of the Rings) เพราะสัญชาตญาณของเขาบอกให้เขาทำอย่างนั้น

เดเนอริส ทาร์แกเรียน (Daenerys Targaryen) — เอลิซาเบธ โอลเซ่น (Elizabeth Olsen)

นักแสดงหญิงผู้โด่งดังจากบทบาทสการ์เล็ตวิทช์ล้มเหลวในการออดิชั่นบทบาท Mother of Dragons ในช่วงเริ่มต้นอาชีพการงานของเธอ เอลิซาเบธ โอลเซ่นอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในภายหลังว่า: “มันเป็นการออดิชั่นที่น่าอึดอัดใจที่สุดเท่าที่ฉันเคยมีมา ฉันกำลังพูดสุนทรพจน์ของ คาลีซี (Khaleesi) ตอนที่เธอออกมาจากกองไฟ มันแย่มาก ฉันไม่ได้รับการติดต่อกลับด้วย” เป็นผลให้ เอมีเลีย คลาร์ก (Emilia Clarke) ได้รับบทเดเนอริสแทน

อารากอร์น (Aragorn) — รัสเซลล์ โครว์ (Russell Crowe)

ครั้งหนึ่ง รัสเซลล์ โครว์เคยถูกถามว่าเขารู้สึกเสียใจที่ปฏิเสธบทอารากอร์นในไตรภาคเรื่อง ลอร์ดออฟเดอะริงส์ (Lord of the Rings) ที่โด่งดังหรือเปล่า นักแสดงตอบอย่างตรงไปตรงมาว่าเขาไม่เคยเสียใจเกี่ยวกับเรื่องนี้และอธิบายว่าทำไมเขาถึงปฏิเสธมันไป จากที่โครว์เล่า จริงๆ แล้ว ปีเตอร์ แจ็คสัน (Peter Jackson) ไม่เคยอยากให้เขามารับบทอารากอร์น สัญชาตญาณของรัสเซลล์บอกเขาว่าผู้กำกับมีคนที่เหมาะสมอยู่ในใจแล้ว ดังนั้นเขาจึงปฏิเสธข้อเสนออย่างสุภาพ

เอลลี่ แซทเลอร์ (Ellie Sattler) — กวินเน็ธ พัลโทรว์ (Gwyneth Paltrow)

ในปี 1992 กวินเน็ธ พัลโทรว์ ต้องการรับบทเป็น ดร.เอลลี่ แซทเลอร์ การเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนี้จะช่วยให้อาชีพของนักแสดงที่ทะเยอทะยานโด่งดังขึ้นได้เพราะ จูราสิค พาร์ค (Jurassic Park) กลายเป็นแฟรนไชส์ยอดนิยม อย่างไรก็ตามนักแสดงหญิงล้มเหลวในการได้รับบทบาทนี้และบทบาทไปตกที่ ลอร่า เดิร์น (Laura Dern) แทน

เจมส์ บอนด์ (James Bond) — เฮนรี่ คาวิลล์ (Henry Cavill)

ตอนนี้มันยากที่จะจินตนาการถึงใครก็ได้ที่ไม่ใช่ แดเนียล เคร็ก (Daniel Craig) มารับบทนี้ แต่เฮนรี่ คาวิลล์เคยได้รับโอกาสให้มาเป็นสายลับ 007 คนใหม่ แต่นักแสดงกลับถูกปฏิเสธในที่สุดเพราะเขา “อวบนิดหน่อย” คาวิลล์ยอมรับคำวิจารณ์อย่างมีศักดิ์ศรีและเริ่มฝึกฝนร่างกายมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่ออาชีพการงานในอนาคตของเขา

เจน สมิธ (Jane Smith) — เกวน สเตฟานี (Gwen Stefani)

นักร้องยอดนิยม เกวน สเตฟานี เป็นคนเก่งอย่างแท้จริง เธอเกือบได้รับบทนำในเรื่อง นายและนางคู่พิฆาต (Mr. & Mrs. Smith) สเตฟานีไปออดิชั่นหลายครั้ง แต่ในที่สุด เธอก็ได้เลือกอาชีพนักดนตรี และ เจน สมิธ ก็ได้รับบทโดย แองเจลินา โจลี่ (Angelina Jolie) แทน

อินเดียน่า โจนส์ (Indiana Jones) — ทอม เซลเลค (Tom Selleck)

เขาเกือบจะได้เล่นเป็นนักผจญภัยที่ร่าเริง ทอม เซลเลค ได้รับบทเป็น อินเดียน่า โจนส์ แต่ในตอนนั้น เขาได้เซ็นสัญญากับ Magnum, P.I. ละครทีวี และโปรดิวเซอร์ไม่ยอมให้เขารับงานทั้งสองเรื่องพร้อมกัน

เจ้าชายแคสเปี้ยน (Prince Caspian) — นิโคลัส ฮอลต์ (Nicholas Hoult)

นักแสดงระบุว่าการออดิชั่นสำหรับบทบาทของเจ้าชายแคสเปี้ยนนั้นเป็นอะไรที่แย่ที่สุดในอาชีพการงานของเขา นิโคลัส ฮอลต์ ถูกขอให้พูดด้วยสำเนียงสเปน อย่าง พุซ อิน บู๊ทส์ (Puss in Boots) จาก เชร็ค (Shrek) ฮอลต์รู้สึกอับอายกับคำขอนี้เพราะเขาไม่ได้เตรียมตัวไว้ ในที่สุด บทบาทนี้ก็ตกเป็นของนักแสดงชาวอังกฤษ เบ็น บาร์นส์ (Ben Barnes) ซึ่งเหมาะสมที่สุด

วิโอลา เดอ เลสเซปส์ (Viola De Lesseps) — เคท วินสเล็ต (Kate Winslet)

หลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากจากเรื่อง ไททานิค (Titanic) เคท วินสเล็ตได้รับข้อเสนอมากมายจากผู้กำกับภาพยนตร์หลายคน เธอได้รับเชิญให้ร่วมแสดงในเรื่อง กำเนิดรักก้องโลก (Shakespeare in Love) แต่นักแสดงหญิงปฏิเสธเพราะเธออยากทำงานในโปรเจกต์ที่มีอิสระมากขึ้น ในที่สุด กวินเน็ธ พัลโทรว์ (Gwyneth Paltrow) ก็ได้เข้ามารับบทบาทแทน และเธอก็เลือกได้ถูกต้อง เพราะเธอได้รับรางวัลออสการ์จากการแสดงของเธอ

อเล็กซ์ มุนเดย์ (Alex Munday) — แองเจลินา โจลี่ (Angelina Jolie)

เรารู้จากผลงานของแองเจลินา โจลีว่าเธอชอบที่จะมีส่วนร่วมในหนังแอคชั่น แต่ถึงกระนั้นก็มีภาพยนตร์ที่คล้ายกันที่นักแสดงปฏิเสธ ดรูว์ แบร์รีมอร์ (Drew Barrymore) และ คาเมร่อน ดิแอซ (Cameron Diaz) พยายามอย่างเต็มที่เพื่อโน้มน้าวให้โจลี่เข้ามารับบทบาทเล่นเป็นคู่หูกัน แต่ก็ไม่เป็นผล

โจลี่รู้สึกว่าเธอไม่เหมาะกับบทบาทนี้และต่อมาก็อธิบายถึงการปฏิเสธของเธอว่า “ฉันไม่ได้อยู่ในจุดนั้นในอาชีพการงานของฉัน ดังนั้นคนดูจะไม่สนุกเท่าไรที่เห็นฉันวิ่งไปทั่ว สวมรองเท้าส้นสูงไล่ตามคนเลว และสะบัดผมไปมา”

แพทริค เบทแมน (Patrick Bateman) — จอห์นนี่ เดปป์ (Johnny Depp)

ในตอนแรก อเมริกัน ไซโค (American Psycho) ควรจะกำกับโดย สจวร์ต กอร์ดอน (Stuart Gordon) ในสายตาเขา เห็นเพียง จอห์นนี่ เดปป์ (Johnny Depp) ที่เหมาะสมกับบทบาทหลักและเกลี้ยกล่อมให้เขารับบทบาทนี้ แต่ผู้เขียนนวนิยายเรื่องนี้จู่ๆ ก็เปลี่ยนใจกะทันหัน เขาดึงสิทธิ์ของ สจวร์ต กอร์ดอน กลับคืนและบอกว่าเดปป์เป็นนักแสดงเหยาะแหยะซึ่งแก่เกินไปที่จะเล่นบทนี้ โดยในขณะนั้น เดปป์มีอายุเพียง 28 ปี

คริสเตียน เกรย์ (Christian Grey) — ชาร์ลี ฮันแนม (Charlie Hunnam)

ในปี 2013 หนังสือพิมพ์ทุกฉบับประกาศข่าวแห่งปี: ชาร์ลี ฮันแนม จะแสดงในภาพยนตร์ดัดแปลงเรื่อง ฟิฟตีเชดส์ออฟเกรย์ (Fifty Shades of Grey) แต่ไม่กี่เดือนต่อมา นักแสดงก็เปลี่ยนใจและปฏิเสธบทบาทนี้ กลับกลายเป็นว่าฮันแนมเผชิญกับภาวะความเครียดเนื่องจากตารางงานที่ยุ่งมากของเขา

นักแสดงตระหนักว่าเขาไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ แต่การตัดสินใจครั้งนี้เป็นเรื่องยากมากสำหรับเขา ฮันแนมไม่ได้ดูหนังภาคใดเลยในไตรภาคนี้เพราะเขาเรียกสถานการณ์นั้นว่า “ความเป็นมืออาชีพของตัวเองที่แย่ที่สุด” ในชีวิตของเขา

คุณคิดว่านักแสดงจากบทความของเราน่าจะเหมาะสมกับบทบาทเหล่านี้ที่พวกเขาไม่ได้เล่นหรือเปล่า? คอมเมนต์แสดงความคิดเห็นด้านล่างได้เลย