15 ดาราฮอลลีวูดผู้ที่สามารถเรียนจบฮาร์วาร์ดได้อย่างง่ายดาย

ชากีราเขียนบทกวีบทแรกเมื่อเธออายุได้ 4 ขวบ ในขณะที่ไอน์สไตน์เพิ่งหัดพูดได้ตอนอายุ 4 ขวบ แม้ว่าการทดสอบวัดระดับไอคิวที่สูงกว่า 130 จะไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ว่าคน ๆ นั้นจะประสบความสำเร็จมากเพียงใด และพวกเขาก็มีจำนวนเพียงแค่ 2.5 % ของจำนวนประชากรเท่านั้น โดยหนึ่งในจำนวนของคนเหล่านั้น บางคนกลับได้เป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงที่คว้ารางวัลบนเวทีหรือโด่งดังบนแคทวอล์คแทนที่จะประสบความสำเร็จในด้านวิชาการ

เราชาวชีวิตสดใสชื่นชมคนที่มีสติปัญญาที่แบ่งปันความรู้ความสามารถของตนให้กับคนทั้งโลก ดังนั้นเราจึงต้องการนำเสนอกลุ่มคนดังระดับวีไอพีที่มีมันสมองอันปราดเปรื่องโดยไม่สนว่าพวกเขาจะเคยเข้าศึกษาที่ฮาร์วาร์ดหรือไม่ก็ตาม

1.ชากีรา

เธอเขียนบทกวีบทแรกได้ตั้งแต่อายุ 4 ขวบ และมีผลงานเพลงอัลบั้มแรกเมื่ออายุ 13 ปี ด้วยไอคิว 140 ของเธอ แทนที่เธอจะเลือกเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัย เธอกลับเลือกที่จะเรียนรู้ชีวิตจากการทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลก และนี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่สูญเปล่าเพราะนักร้องสาวคนนี้เธอพูดได้ถึง 5 ภาษาเลยทีเดียว

2. ซินดี ครอว์ฟอร์ด

เธอเป็นนักเรียนที่มีผลการเรียนดีเสมอ และยังได้เป็นตัวแทนกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลาย เธอชื่นชอบวิทยาศาสตร์ จึงได้ทุนสาขาวิศวะเคมี แต่แล้ววันหนึ่งโลกก็ต้องสูญเสียวิศวกรคนสวยคนนี้ไป เมื่อเธอตัดสินใจก้าวเข้าสู่วงการบัญเทิง และได้ตำแหน่งแชมป์ซูเปอร์โมเดลมาครองแทน

3. แมท เดม่อน

ตามผลการรายงาน ระดับไอคิวของ แมท เดม่อน (Matt Damon) สูงถึง 160 เขาเริ่มเขียนบทภาพยนตร์เรื่องตามหาศรัทธารัก (Good Will Hunting) ตั้งแต่ขณะเรียนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และแม้ว่าเขาจะไม่เคยสำเร็จการศึกษา แต่ต่อมาเขาก็ได้รับรางวัลอคาเดมีอวอร์ดสาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมร่วมกับเพื่อนรักของเขา เบ็น อัฟเฟล็ค (Ben Affleck)

4. นาตาลี พอร์ตแมน

เธอจบปริญญาสาขาจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดซึ่งเธอได้มีส่วนร่วมในบทความเรื่อง Frontal Lobe Activation during Object Permanence เธอสามารถพูดได้ถึง 5 ภาษาและระดับไอคิวของเธออยู่ที่ 140

5. คริส มาร์ติน

เขาศึกษาที่มหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน ในสาขาเอกวิชาโบราณคดีโลก และสำเร็จการศึกษาด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งในภาษากรีกและละติน ระหว่างที่ศึกษาอยู่มาร์ตินก็ได้พบกับเพื่อนที่ต่อมาได้ร่วมวง Coldplay ด้วยกัน ดังนั้นจึงสามารถพูดได้ว่าด้วยความฉลาดและการศึกษาของเขานี่เองที่ทำให้เราได้ฟังผลงานเพลงดี ๆ ของเขาในวันนี้

6. เควนติน แทแรนติโน

เขาเขียนผลงานบทภาพยนตร์ครั้งแรกตั้งแต่อายุ 14 ปี และได้คิดเกี่ยวกับบทภาพยนตร์เรื่องต่อไปนับแต่นั้น ตัวเขาเองไม่เคยเข้าเรียนระดับวิทยาลัยและไม่เคยต้องการศึกษาต่อ แต่ด้วยระดับไอคิว 160 ของเขานี่เองที่อาจช่วยให้เขาคว้ารางวัลออสการ์มาถึง 2 รางวัล

7. โจดี้ ฟอสเตอร์

เธอเริ่มปรากฏตัวทางโทรทัศน์ตั้งแต่อายุได้ 3 ขวบ และได้แสดงนำในเรื่องแท็กซี่มหากาฬ (Taxi Driver) ตอนอายุเพียง 12 ปี จากนั้นเธอจึงตัดสินใจพักอาชีพนักแสดงที่โด่งดังของเธอเมื่อตอนอายุ 18 ปี และกลับมาเป็นนักเรียนอย่างเต็มตัวที่มหาวิทยาลัยเยล (Yale) ซึ่งเธอได้สำเร็จการศึกษาระดับเกียรตินิยมอันดับหนึ่งก่อนที่จะกลับสู่วงการฮอลลีวูดอีกครั้ง

8. อีวา ลองโกเรีย

เธอมุ่งมั่นหารายได้ให้ตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะความปรารถนาสูงสุดคือการได้ช่วยดูแลน้องสาวที่เป็นเด็กที่มีความต้องการพิเศษ ในช่วงมัธยมเธอเรียนอย่างหนักพร้อมกับทำงานที่ร้านอาหารเวนดี้ไปด้วย และหลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยระดับปริญญาโทแล้ว เธอทำงานอย่างหนักในตำแหน่งจัดหางานจนกระทั่งมีแมวมองได้เล็งเห็นพรสวรรค์ของเธอ

9. เดวิด ดูคอฟนี

เขามีอาชีพนักวิชาการที่ประสบความสำเร็จ และหลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านวรรณคดีอังกฤษที่มหาวิทยาลัยเยล เขาก็เริ่มศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก ในช่วงเวลานั้นเองเขาเริ่มมีผลงานการแสดง (และ The X-Files) จากนั้นเขาก็ละทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลังเพื่อทำตามความปรารถนาของตัวเอง

10. จีน่า เดวิส

นักแสดงสาวเจ้าของรางวัลออสการ์ผู้นี้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยบอสตัน แถมยังเล่นเปียโนและฟลุต และพูดภาษาสวีเดนได้อย่างคล่องแคล่ว เธอมีระดับไอคิว 140 และเป็นสมาชิกสาธารณะขององค์กรเมนซาซึ่งเป็นคลับวีไอพีเฉพาะสำหรับผู้ที่มีไอคิวมากกว่า 135 ซึ่งมีจำนวนเพียง 2% ของจำนวนประชากรเท่านั้น

11. ชารอน สโตน

ความเฉลียวฉลาดของเธอฉายแววโดดเด่นจนทำให้เธอได้เข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เมื่ออายุเพียง 5 ขวบ ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังได้รับทุนเรียนต่อวิทยาลัยในขณะที่มีอายุได้เพียง 15 ปีเท่านั้น ระดับไอคิวของเธออยู่ที่ 154 ซึ่งทำให้เธออยู่ในกลุ่ม 0.1% แรกของประชากรโลก

12. สตีฟ มาร์ติน

นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ว่าวิทยาลัยอาจไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะสำหรับคนที่เป็นอัจฉริยะเสมอไป เขาเริ่มศึกษาวิชาปรัชญา แต่ก็รู้ตัวดีว่าชีวิตการเป็นครูนั้นมันช่างไม่เหมาะกับเขาเลย แต่อย่างไรก็ตามการที่เขาเรียนไม่จบก็ไม่ได้เป็นอุปสรรค์ต่อตัวเขาในการเข้าร่วมองค์กรเมนซาที่เป็นสโมสรสำหรับคนฉลาดที่มีไอคิวสูงกว่าค่าเฉลี่ย

13. ราชิด้า โจนส์

เธอบอกว่าเธอเติบโตมาอย่าง “เด็กเนิร์ด” และ “มีคอมพิวเตอร์ที่มีฟลอปปีดิสก์และโมเด็มเชื่อมต่อผ่านสายโทรศัพท์มาตั้งแต่ก่อนที่มันจะเป็นที่นิยม” โจนส์แสดงความสามารถทางดนตรีของเธอตั้งแต่ยังเด็กและสามารถเล่นเปียโนคลาสสิกได้ เธอได้รับการโหวตให้เป็น “บุคคลที่มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จมากที่สุด” จากเพื่อนร่วมชั้นที่โรงเรียน เธอศึกษาศาสนาและปรัชญาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและสำเร็จการศึกษาเมื่อมีอายุเพียงแค่ 21 ปี

14. โรวัน แอตคินสัน

มีรายงานว่าระดับไอคิวของเขาสูงถึง 178 ซึ่งตรงกันข้ามกับบทบาท มิสเตอร์บีน อันแสนโด่งดังของเขาอย่างสิ้นเชิง เขาเป็นนักเรียนที่เก่งกาจที่ได้คะแนนสูงสุดในโรงเรียน และก่อนที่จะผันตัวมาเป็นนักแสดง เขาเคยเรียนคณะวิศวกรรมที่มหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล จากนั้นจึงไปเรียนต่อระดับปริญญาโทสาขาวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด และแถมยังเริ่มเรียนต่อในระดับปริญญาเอกด้วย

โบนัส: อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

ความสำเร็จไม่ได้มาเพียงแค่ข้ามคืน แม้แต่กับอัจฉริยะอย่างไอน์สไตน์ที่มีไอคิวสูงถึง 160 ก็ตาม เมื่อเขาเรียนจบ เขาใช้เวลาอย่างยากลำบากถึง 2 ปีในการสมัครเป็นอาจารย์ และฟิสิกส์ก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของเขา สิ่งที่เขาหลงใหลมากที่สุดคือดนตรี การเล่นเปียโนและไวโอลินซึ่งช่วยให้สมองของเขาได้คิด และสำหรับเขาแล้ว ชีวิตคงขาดความหมายหากปราศจากการได้เล่นดนตรี

คุณคิดว่าสติปัญญาอันเฉลียวฉลาดช่วยให้คนเหล่านี้โดดเด่นในอาชีพการงานได้อย่างไร? ความสำเร็จของพวกเขาทำให้คุณประหลาดใจหรือไม่? และใครคือคนที่ฉลาดที่สุดในโลกสำหรับคุณ? เราอยากอ่านความคิดเห็นของคุณในคอมเมนต์นะ