จากการสังเกตชีวิตของนิโคลัส เคจพิสูจน์แล้วว่าทำไมการเป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวจึงไม่ใช่สิ่งที่จำกัดความสามารถของคุณ
นิโคลัส เคจ (Nicholas Cage) เป็นนักแสดงที่สร้างความรู้สึกผสมผสานหลาย ๆ อย่างให้กับผู้ชม สำหรับหลายคนแล้วเขาเป็นหนึ่งในคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในยุคของเขา ในขณะที่สำหรับบางคนแล้วเขาเป็นคนที่มีแนวโน้มว่าจะทำอะไรที่เลยเถิด ไม่ว่าคุณจะชอบสิ่งที่เขาทำหรือไม่ก็ตาม เราก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเขาเป็นบุคคลที่มีชีวิตที่ประหลาดมากพอ ๆ กับตัวละครที่เขาแสดง
ชีวิตสดใสได้พิจารณาดูว่าการเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวได้เปลี่ยนแปลงนิโคลัส เคจและส่งผลกระทบต่อชีวิตของเขาอย่างไรบ้าง
เวสตัน คอปโปลา เคจ (Weston Coppola Cage) เกิดปี 1990 จากการแต่งงานระหว่างนักแสดงชายชื่อดังและคริสติน่า ฟัลตัน (Christina Fulton) เขาใช้นามสกุลเดิมของพ่อมาโดยตลอด ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่านิโคลัสตัดสินใจเปลี่ยนนามสกุลจากคอปโปลามาเป็นเคจ เพราะความกดดันจากโลกในวงการภาพยนตร์ (เขาเป็นหลานชายของฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา (Francis Ford Coppola) ผู้กำกับชื่อดังจากภาพยนตร์เรื่อง The Godfather) โดยเขาได้รับแรงบันดาลใจจากลูค เคจ (Luke Cage) ซึ่งเป็นฮีโร่มาร์เวลอันโด่งดัง
ความเร่าร้อนระหว่างเคจและฟัลตันเกิดขึ้นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ แม้ว่าจะมีลูกด้วยกันแล้วแต่พวกเขาก็เลิกกันหลังจากเจอกันได้ 3 ปี ถึงแม้ว่านักแสดงชายจะเลี้ยงลูกด้วยตัวคนเดียวมาเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุดในอาชีพของเขา เขากล่าวว่ามันเป็นประสบการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตัวเขาไปอย่างสิ้นเชิง “ผมเป็นพ่อมา 19 ปีและนึกขึ้นได้ว่าการเป็นพ่อได้เปลี่ยนแปลงตัวผม หลังจากที่มีลูกผมก็เปลี่ยนไปในอีกทิศทางหนึ่ง” เขาบอกในการให้สัมภาษณ์
นักแสดงผู้นี้มีโอกาสได้สะท้อนถึงประสบการณ์นี้ที่มีความหมายกับเขา เมื่อตอนที่เขาแสดงในภาพยนตร์เรื่องรหัสวินาศโลก ซึ่งเขารับบทเป็นศาสตราจารย์ผู้ที่ต้องปฎิบัติภารกิจเพื่อชะตากรรมของมนุษยชาติ ในขณะที่ต้องดูแลลูกชายของเขาเพียงลำพังไปด้วย สำหรับเคจแล้ว บทบาทนี้เหมือนกับเป็นการปลดปล่อยอารมณ์ในทุก ๆ ด้านออกมา เนื่องจากมันทำให้เขาย้อนกลับไปเมื่อตอนที่ได้เจอสิ่งเดียวกันเมื่อตอนที่มีลูกคนแรก “บางประโยคในฉากของเรา (กับลูกชายของเขาในหนัง) มาจากความทรงจำโดยตรงของช่วงเวลาของผมกับเวสตัน ผมมองหาวิธีการที่จะแสดงความรู้สึกเหล่านี้ออกมามาเป็นเวลานานแล้ว” เขาพูดในบทสัมภาษณ์
บทบาทในการเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวในฮอลลีวูดค่อนข้างถูกมองด้วยมุมมองที่เหมารวม เนื่องจากพวกเขามักจะติดต่ออยู่กับแม่เสมอ เมื่อพูดถึงหัวข้อนี้ เคจค่อนข้างพูดจาแบบขวานผ่าซากถึงความหมายของบทบาทของเขาในภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวว่า “ผมรู้ว่ามันมีเรื่องของอคติทางเพศซึ่งขึ้นอยู่กับว่าคุณคุยอยู่กับทนายความ, นักจิตวิทยา หรือนักบำบัดครอบครัวคนไหนอยู่ มันเหมือนกับว่าจะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นถ้าพ่ออยากจะเจอหน้าลูกชาย มันไม่เป็นความจริง แค่เพราะคุณเป็นผู้ชายไม่ได้หมายความว่าคุณจะเลี้ยงลูกของคุณไม่ได้ ผมเชื่อว่าครอบครัวควรจะอยู่กันพร้อมหน้า แต่ถ้าคุณเป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวก็ขอให้อย่ายอมแพ้ ไม่ว่าพวกเขาจะว่ายังไงก็ตาม”
ส่วนเวสตันเลือกที่จะเดินตามรอยเท้าของพ่อ และสนใจในโลกของศิลปะทั้งด้านการแสดงและดนตรี เขาก่อตั้งวงเฮฟวี่เมทัลที่มีชื่อว่า Eyes of Noctum และเคยแสดงในภาพยนตร์อย่างเรื่อง 211 โคตรตำรวจอันตราย และคนธรรมดานรกเรียกพี่ ในวัย 31 ปี เขามีลูก 4 คนจากการแต่งงาน 3 ครั้ง เขายังคงพัฒนาชีวิตทางด้านศิลปะซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าได้อิทธิพลอันยิ่งใหญ่มาจากพ่อของเขาซึ่งเป็นสุดยอดศิลปิน
คุณคิดว่าประสบการณ์ของการเป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวถูกนำเสนอได้ดีในภาพยนตร์หรือไม่ ?