แดนนี เทรโฮชายแกร่งแห่งฮอลลีวูดผู้มีจิตใจที่งดงามมากในชีวิตจริง
บทเรียนที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่ชีวิตสอนเราได้คืออย่าตัดสินหนังสือจากปก ซึ่งหมายความว่ารูปลักษณ์ภายนอกอาจหลอกลวงได้และบางครั้งคนที่ดูแข็งแกร่งมากก็อ่อนโยน มีเมตตาและใจดีได้ นักแสดงแดนนี เทรโฮ (Danny Trejo) น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด
ชีวิตสดใสต้องการแบ่งปันเรื่องราวของแดนนี เทรโฮและการเดินทางของเขาในการช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
แดนนี เทรโฮเป็นนักแสดงเชื้อสายเม็กซิกันซึ่งเคยปรากฏตัวในภาพยนตร์มากกว่า 400 เรื่อง เขามักจะเล่นเป็นคนแกร่งหรือแม้แต่อาชญากร ภาพยนตร์หรือซีรีส์ที่มีชื่อเสียงที่สุดบางเรื่องที่เขาเคยเล่น ได้แก่ ปฏิบัติการแหกนรกยึดฟ้า (Con Air), ระห่ำ กระฉูด (Machete), ดับเครื่องชน คนดีแตก (Breaking Bad), เดสเพอราโด ไอ้ปืนโตทะลักเดือด (Desperado), เพชฌฆาตกระสุนโลกันตร์ (Once Upon a Time in Mexico และมินิสปาย (Mini Spies) เขาเพิ่งปรากฏตัวในคัมภีร์แห่งโบบา เฟตต์ (The Book of Boba Fett) ของดิสนีย์ด้วย
เขาเกิดในลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนียในปี 1944 ในครอบครัวที่มีปัญหา อาจกล่าวได้ว่าวัยเด็กของเขานั้นยากลำบาก เขาถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้คนที่นำเขาไปสู่เส้นทางที่เลวร้าย ด้วยเหตุนี้เขาจึงเข้าออกคุกเป็นเวลา 11 ปี น่าแปลกที่ประสบการณ์นั้นช่วยให้เขาได้รับบทบาทในภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา
ระหว่างที่เขาอยู่ในคุก เขาเคยชกมวยและเก่งมากจนได้แชมป์หลายรายการในการแข่งขันกีฬาเรือนจำ ในช่วงเวลาที่เขาอยู่หลังลูกกรง เขาก็ได้รับประกาศนียบัตรระดับมัธยมปลายเช่นกัน
ในปี 1968 การต่อสู้ปะทุขึ้นระหว่างนักโทษหลายคน เทรโฮถูกส่งไปขังเดี่ยวและที่นั่นเขาตัดสินใจว่า ถ้าเขาได้รับการปล่อยตัว เขาจะไม่ทำผิดอีก ในปีต่อมา เขาได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำและทำงานที่ซื่อสัตย์หลายอย่างด้านการก่อสร้างและการจัดสวน เขายังเป็นที่ปรึกษาให้กับผู้คนที่ตัดสินใจผิดพลาดในชีวิตอีกด้วย
ขณะทำงานเพื่อช่วยเหลือผู้คนให้มีชีวิตที่ดีขึ้น เขาได้รับโทรศัพท์จากผู้ป่วยที่ต้องการความช่วยเหลือ เทรโฮจึงตามหาเขาและได้พบเขาในกองถ่ายภาพยนตร์เรื่องหนึ่งซึ่งเกี่ยวกับนักโทษสองคนซึ่งบังเอิญที่ผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเพื่อนของเขาจากตอนที่ติดคุก ผู้ซึ่งรู้ว่าเขาชกมวยเก่งและโน้มน้าวผู้กำกับให้มอบบทตัวประกอบในภาพยนตร์เรื่องนี้ให้เขา
นี่เป็นครั้งแรกในหลาย ๆ ครั้งและถึงแม้จะมีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ แดนนี เทรโฮก็ไม่ละทิ้งงานของเขาในฐานะที่ปรึกษา เพราะมันให้และยังคงทำให้เขามีความสุขมาก แน่นอนว่าชีวิตของเขาได้พลิกผันครั้งใหญ่และตั้งแต่นั้นมา เขาก็ได้ทุ่มเทพยายามมอบบางสิ่งกลับคืนให้กับชุมชน
และในขณะที่อยู่ในฮอลลีวูด เขาเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ชายที่แข็งแกร่งที่สุด แดนนี่ เทรโฮตัวจริงเป็นคนใจพระและมันก็น่าแปลกใจที่ผู้คนไม่รู้เกี่ยวกับสิ่งที่น่าทึ่งที่เขาทำนอกกองถ่าย
ตัวอย่างเช่น ในปี 2016 เขาเปิดร้านอาหารทาโก้ มันไปได้ด้วยดีจนตอนนี้เขามีร้านทาโก้ 7 ร้านและร้านโดนัท 1 ร้าน ส่วนที่ดีที่สุดคือแนวคิดเบื้องหลังธุรกิจเหล่านี้ในคำพูดของแดนนี่คือ “ที่ร้านอาหารของเรา เราให้โอกาสคน เด็ก ๆ ที่ประสบปัญหา ผู้คนต้องการงานและโอกาส ก็เท่านั้นแหละ”
ในร้านอาหารของเขา เขาได้จ้างคนที่ขาดแคลนและยังพยายามสนับสนุนชุมชนในทุกวิถีทางที่เขาทำได้ ภารกิจของเขาคือให้ทุกคนได้เพลิดเพลินกับอาหารมื้ออร่อย ตั้งแต่คนที่ไม่กินเนื้อสัตว์ไปจนถึงคนออทิสติกและแม้แต่คนที่ไร้บ้าน เขากล่าวว่า “เราส่งอาหารจำนวนมากให้คนเร่ร่อน ไม่มีอะไรถูกทิ้งไว้ข้ามคืนและของที่เหลือจะถูกส่งไปยังที่พักพิงคนไร้บ้าน ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จร่วมกัน”
ที่ร้านโดนัทของเขา เขายังตัดสินใจขายผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากกลูเตนเนื่องจากบางคนเชื่อว่ากลูเตนส่งผลกระทบต่อคนออทิสติกได้และเมื่อร้านทั้งหมดปิด ร้านของเขาก็ยังคงทำงานเพื่อบริจาคอาหารให้กับ 800 ครอบครัวในช่วงเวลาที่ยากลำบากด้วย
แดนนี เทรโฮเล่นทุกบทที่เขาได้รับในภาพยนตร์ ตั้งแต่บทตัวประกอบไปจนถึงบทนำ เขายังได้ผจญภัยในโลกของวิดีโอเกมและทำสิ่งอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วน เหตุผลที่ประวัติงานของเขามีมากมายและหลากหลายก็คือเขามักจะตอบตกลงเล่นหนังที่คนหนุ่มสาวที่เพิ่งเริ่มงานในอุตสาหกรรมนี้โดยไม่เรียกร้องค่าตัวแพง ๆ จากพวกเขา
“ผมเคยทำโปรเจกต์ที่เป็นภาพยนตร์ของนักเรียนหรือจากผู้อำนวยการสร้างหรือผู้กำกับที่ทำงานครั้งแรกมามากมาย ตัวแทนของผมโกรธผมมาก แต่ผมก็รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนสำคัญในอาชีพของใครบางคนเมื่อพวกเขาเริ่มต้น ผม ’ชอบพูดว่า ’แค่จ่ายค่าน้ำมันให้ผม 100 ดอลลาร์ ซื้ออาหารกลางวันให้ อะไรแบบนั้นก็ได้’ ผมตั้งใจแสดงเสมอไม่ว่าจะทำหรือภาพยนตร์ของไมเคิล แมนน์ (Michael Mann)”
นิสัยอีกอย่างของแดนนี เทรโฮคือแม้ว่าเขาจะดูเหมือนผู้ชายที่รับมือกับฉากแอคชั่นได้ แต่เขาก็เลือกที่จะไม่เล่นเองและเหตุผลก็คือการทำแบบนั้นเป็นงานของคนอื่นและเขาไม่อยากแย่งงานหรือแย่งเวลาที่นักแสดงสตั๊นท์มือโปรได้ลงทุนเล่นในภาพยนตร์
เขาพูดถึงสตั๊นท์ดับเบิ้ลของเขาโดยกล่าวว่า “สตั๊นท์กระโดดข้ามกำแพง นั่นคืออาชีพของเขา ทุกครั้งที่งานปะปนกัน ผมก็ไม่อยากให้งานของคน 80 คนต้องมาเสี่ยงเพื่อที่จะแค่บอกว่าผมทำได้ ผมไม่อยากพูดแบบนั้นหรอก นอร์ม โมรา (Norm Mora) เป็นสตั๊นท์แมนของผม นั่นคืออาชีพของเขา”
แม้ว่าแดนนี เทรโฮจะเป็นผู้ชายที่มีงานยุ่งแต่เขาก็ยังใช้เวลากับหมาที่เขาได้ช่วยไว้และรณรงค์ให้คนรับหมาไปเลี้ยง “หมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเสมอมา” เขากล่าว
และถ้าทั้งหมดนี้ยังไม่พอที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าชายแกร่งฮอลลีวูดคนนี้มีจิตใจงดงามล่ะก็ เขาก็ได้กลายเป็นฮีโร่ในชีวิตจริง ในปี 2019 เขาพบเห็นอุบัติเหตุทางรถยนต์ รถคันหนึ่งพลิกคว่ำ ทั้งเขาและหญิงสาวคนหนึ่งรีบวิ่งไปช่วย พวกเขาเห็นว่ามีทารกอยู่ข้างใน
เนื่องจากเทรโฮทำงานกับเด็ก ๆ จึงรู้วิธีทำให้เด็กสงบลงและพาเขาออกจากรถร่วมกับหญิงสาวได้ เขารออยู่กับเด็กจนยายของเด็กหายดีและได้รับการดูแล
กล่าวโดยย่อคือชีวิตของแดนนี เทรโฮดูเหมือนเนื้อเรื่องภาพยนตร์และในนั้น เขาไม่ใช่ผู้ร้ายแต่เป็นซูเปอร์ฮีโร่
คุณหรือคนรู้จักเคยทำอะไรที่พิสูจน์ว่าคนเรานั้นมีจิตใจดีหรือเปล่า ?