ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

เคท วินสเล็ทเป็นแม่ของลูก 3 คนจากการแต่งงานสามครั้งและนี่คือวิธีการที่เธอดูแลครอบครัวให้กลมเกลียวกัน

เคท วินสเล็ท (Kate Winslet) อายุ 46 ปีเป็นแม่ของลูก 3 คนจากสามี 3 คน ว่ากันว่าเธอจัดการได้อย่างสมบูรณ์แบบ เธอร่วมดูแลมีอา (Mia) ลูกสาวของเธอกับจิม เทรียเพิลตัน (Jim Threapleton) สามีคนแรกและโจ (Joe) ลูกชายของเธอกับแซม เมนเดส (Sam Mendes) และสุดท้ายเธอก็มีลูกชายชื่อว่าแบร์ เบลซ (Bear Blaze) กับเอ็ดเวิร์ท เอเบล สมิธ (Edward Abel Smith) สามีคนล่าสุดของเธอ (รู้จักกันในชื่อว่าเน็ต ร็อคแอนด์โรล (Ned Rocknroll) ตอนนี้มีอาอายุ 21 ปีแล้ว ดังนั้นการเดินทางของเคทในการเลี้ยงลูกก็เข้าสู่ 21 ปีแล้วเช่นกัน และเธอบอกว่าเธอจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไรมัน

ชีวิตสดใสชอบผู้หญิงที่เข้มแข็งและเคท วินสเล็ทก็ทรงพลังพอ ๆ กัน นี่คือวิธีการที่เธอรักษาครอบครัวที่ผสมผสานแต่สวยงามเอาไว้ด้วยกันและทำให้มันถูกต้อง

1. เคทมีทัศนคติแบบทำได้และจะทำ

ลูกคนแรกของวินสเล็ทคือมีอา ฮันนี่ซึ่งเป็นลูกสาว มีอาไม่ได้เพียงแค่อายุ 1 ขวบตอนที่การแต่งงานของเธอและจิม เทรียเพิลตันจบลงเท่านั้น แต่ในภายหลังเธอได้แต่งงานกับแซม เมนเดส ผู้กำกับและมีลูกชายด้วยกันหนึ่งคนชื่อโจ อัลฟี่ 9 ปีต่อมา วินสเล็ทก็กลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอีกครั้ง แต่เธอก็ไม่เคยทำให้มันฉุดเธอลง เพราะการเป็นแม่สำหรับเธอแล้วคือการมีทัศนคติที่ต้องทำได้

แทบจะไม่ถึงเดือนหลังจากที่คลอดแบร์ เบลซ ลูกชายคนที่สามกับเอ็ดเวิร์ท เอเบล สมิธ สามีของเธอ วินสเล็ทก็กลับไปถ่ายหนังอีกครั้ง เธอบอกกับสื่อถึงความหมายของการเป็นแม่สำหรับเธอว่ามันเป็นสถานการณ์ที่ทำได้และต้องทำ วินสเล็ทกล่าว “มันมีบางอย่างที่เสริมพลังจริง ๆ ‘เอาสิ ฉันทำสิ่งนี้ได้! ฉันทำทุกอย่างได้!’ นั่นคือสิ่งที่วิเศษในการเป็นแม่ คุณทำได้เพราะคุณต้องทำและคุณก็แค่ทำมัน”

2. ขับเคลื่อนผ่านช่องว่างระหว่างอายุ

ตอนนี้มีอาอายุ 21 ปีและเป็นผู้ใหญ่มากแล้ว ทำให้เธอได้เข้าสู่วงการภาพยนตร์ ภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอกับเคทในปี 2014 มีชื่อว่าสวนนี้มีมนต์รัก โจ ลูกชายคนโตของเธออายุ 18 ปี และตอนนี้แบร์ เบลซ ลูกคนเล็กของเธออายุ 8 ปี มันค่อนข้างเป็นช่องว่างระหว่างอายุที่ต้องรับมือและวินสเล็ทก็ยอมรับว่ามันเป็นเรื่องท้าทาย เพราะสิ่งที่ลูก ๆ ต้องการจากเธอนั้นแตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นทางอารมณ์หรือเรื่องอื่น ๆ

เธอกล่าวว่า “ในอีกทางหนึ่งมันเป็นเรื่องที่ซับซ้อนมากเพราะนั่นหมายความว่าพวกเขาเรียนคนละโรงเรียน เวลารับส่งคนละเวลา กิจกรรมหลังเลิกเรียนแตกต่างกันและอื่น ๆ และเรื่องทางอารมณ์ด้วย พวกเขามีสิ่งที่ต้องการจากฉันที่แตกต่างกัน”

3. การอยู่ห่างจากโซเชียลมีเดียเป็นกฎ

เคทได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ที่จะไม่เล่นโซเชียลมีเดีย และเธอก็เป็นแบบอย่างซึ่งเป็นสาเหตุที่ลูก ๆ ของเธอก็ไม่เล่นเช่นกัน

เธอบอกว่าโลกวันนี้ค่อนข้างน่ากลัวที่ทุกคนติดต่อกับคนแปลกหน้าได้ เธอยังพูดอีกด้วยว่า “เราอยู่ในโลกที่เราต้องระวังเรื่องทั้งหมดนี้ ช่างน่าเสียดายจริง ๆ และมันเป็นการเลี้ยงดูคนรุ่นใหม่โดยวิธีที่ค่อนข้างน่ากลัว ดังนั้นมันจึงไม่ใช่มิตรภาพธรรมดาอีกต่อไป เพราะเวลาอีกครึ่งหนึ่งดูเหมือนกับว่าพวกเขากำลังสร้างความสัมพันธ์กับคนที่เขาไม่เคยพบมาก่อน”

4. การมีคนรักที่ยอดเยี่ยมช่วยได้มาก

เคทเชื่อว่าการมีคนรักที่ดีและเป็นพ่อที่ดีเป็นสิ่งสำคัญมาก และเธอก็หลงใหลเอ็ดเวิร์ท เอเบล สมิธ สามีคนปัจจุบันของเธอที่ได้เปลี่ยนชื่อของเขาเป็นเน็ตร็อคแอนด์โรล แต่ก็เปลี่ยนกลับคืนเมื่อเขากลายเป็นพ่อ

เคทชื่นชมเอ็ดเวิร์ทมากและบอกว่าเขาเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นกับเธอและทั้งครอบครัว ตอนที่เธอคลอดแบร์ เบลซ ลูกคนเล็ก เธอก็ถ่ายหนังอยู่ด้วย แต่การมีสามีคอยดูแลลูก ๆ ที่บ้าน ทำให้เคทรู้สึกสงบอย่างมาก ซึ่งมันควรจะเป็นแบบนี้สำหรับแม่ที่ทำงานทุกคน

5. เคท วินสเล็ทเป็นแม่ที่ลงมือทำ

วินสเล็ทชอบเป็นแม่ที่ลงมือทำและไม่จ้างคนงานเยอะ เธอชอบวิถีในวัยเด็กของเธอที่เป็นไปอย่างเรียบง่ายเธอเชื่อในการทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อครอบครัวของตัวเธอเอง นักแสดงสาวเจ้าของรางวัลออสการ์กล่าวว่า “ฉันอยากให้ลูก ๆ มองกลับมาและจำซุปไก่และอาหารกลางวันแบบกล่องที่ฉันทำได้ และฉันไปรับส่งลูกที่โรงเรียนเอง” เธอเชื่อว่าลูก ๆ ของเธอคงจะ “ไม่ชอบ” ถ้าเธอมีคนงานที่ทำสิ่งเหล่านี้แทนเธอ

เคทรู้สึกว่าสิ่งเล็ก ๆ ที่เธอจดจำได้จากวัยเด็กเหล่านี้พิสูจน์ว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เธอจึงรู้สึกว่าเธอจำเป็นต้องทำสิ่งเดียวกันให้ลูก ๆ ของเธอเพื่อให้พวกเขารู้สึกปกติ เธอบอกว่า “ฉันไม่อยากให้พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาแตกต่างเพราะงานของฉัน”

6. เธอพยายามทำทุกอย่างให้เรียบร้อยและสนุกไปด้วย

เคท วินสเล็ทเป็นแม่ที่ทำได้และทำหลายอย่างด้วย แน่นอนว่าการมีลูก 3 คนมีอะไรให้ทำมากมาย แต่เคทยังคงพูดต่อไปอย่างร่าเริงว่า “พูดตามตรงนะ ฉันแค่พยายามทำทุกอย่างด้วยความสดใสและมีรอยยิ้มในหัวใจ และถึงแม้ว่าฉันจะเหนื่อยล้า ฉันก็แค่พยายามทำมันต่อไป ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องทัศนคติที่ต้องทำได้ และการเรียนรู้ที่จะทำงานหลายอย่างพร้อมกัน ความสามารถในการอยู่กับปัจจุบันและสงบสติอารมณ์ได้อย่างแท้จริง”

เธอไม่ค่อยสนใจเรื่องน้ำหนักของเธออีกต่อไป ลองคิดดูว่าเธอผ่านการตั้งครรภ์มาแล้ว 3 ครั้ง สื่ออาจจะพูดถึงมันอยู่ตลอด แต่เธอรู้สึกว่าชีวิตนั้นสั้นเกินไปที่จะเก็บเรื่องไร้สาระแบบนี้มาคิด สำหรับเธอแล้วการเลี้ยงลูกคือเรื่องสนุก ดังนั้นการเพลิดเพลินกับในแต่ละวันที่มาถึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

7. การส่งต่อความมั่นใจในร่างกายให้กับลูกสาวของเธอ

เคท วินสเล็ทรู้สึกว่าเธอมาไกลจากตอนที่เธอเข้าสู่วงการฮอลลีวูด ตอนนี้เธออายุ 46 ปีแล้ว แล้วก็รู้สึกมั่นใจมากกว่าเดิม และมีความสุขกับลูก ๆ ทั้งสามคนของเธอมากกว่าเดิม และเธอก็ไม่ได้มีปัญหากับการที่ร่างกายของเธอเปลี่ยนแปลงเพราะเธอกลายเป็นแม่ เธอได้บอกในการสัมภาษณ์ว่า “ร่างกายของฉันจะไม่มีวันกลับไปเหมือนแต่ก่อนและฉันก็ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนั้นหลังจากมีลูก 3 คนแล้ว”

วินสเล็ทไม่ได้มั่นใจกับร่างกายของตัวเองตลอดเวลา เธอบอกว่าสมัยเรียนเธอโดนล้อเรื่องน้ำหนัก เธอยังจำได้ว่าเธอไม่เคยมีแบบอย่างที่ดีเมื่อตอนที่เธอยังเป็นเด็ก ดังนั้นเธอจึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะปลูกฝังความมั่นใจทางร่างกายให้กับมีอา ฮันนี่ เทรียเพิลตัน ลูกสาวของเธอ แม่และลูกสาวยืนด้วยกันหน้ากระจกและชื่นชมความโค้งมนของร่างกายพวกเธอ ดูเหมือนว่ามันจะช่วยได้ ตอนนี้มีอาเป็นนักแสดงในภาพยนตร์เรื่องชาร์โดว์และเธอดูเหมือนเคทตอนสาว ๆ มาก

8. เคท วินสเล็ทไม่สนใจว่าคนจะคิดยังไงกับเธอ

วิธีที่เคทจัดการกับเรื่องซุบซิบและคำพูดที่พูดถึงเธอก็คือการไม่สนใจ เธอไม่กังวลกับสิ่งที่ทุกคนพูดถึงเธอเกี่ยวกับการที่เธอเป็นแม่ของลูก 3 คนจากสามี 3 คน

และเธอก็ยังให้สัมภาษณ์ด้วยว่า ไม่มีใครมีสิทธิ์ที่จะตัดสินคนอื่นเพียงเพราะพวกเขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับสถานการณ์หรือความจริงที่เกิดขึ้น นักแสดงสาวจากไททานิคกล่าว “ฉันรู้สึกงงจริง ๆ ที่คุณปฏิบัติต่อบุคคลเช่นนั้นในที่สาธารณะได้ มันไม่มีมารยาทมาก ๆ ฉันต้องขอโทษต่อสื่อมวลชนของประเทศที่ฉันตกหลุมรักแล้วก็ตั้งท้อง ฉันขอโทษจริง ๆ ถ้าคุณเห็นว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่มีความรับผิดชอบ”

เคล็ดลับเล็ก ๆ ของเคทข้อไหนบ้างที่คุณพยักหน้าเห็นด้วยในฐานะพ่อแม่ สไตล์การเป็นแม่ของเธอได้เพิ่มความสดใสให้กับเช้าของคุณหรือเปล่า

ตอนนี้ชีวิตสดใสมีปริศนาของจริงแล้ว เราโพสต์ปริศนาใหม่ ๆ ทุกวัน ไปดูสิ

เครดิตภาพพรีวิว AFP/EAST NEWS, Tim Ockenden/PA Images/Getty Images
แชร์บทความนี้