“คุณไม่จำเป็นต้องมีหน้าท้องแบนราบเพื่อสวมเสื้อครอปทอป” ลิลี่ ไรน์ฮาร์ทพูดถึงภาพลักษณ์ของร่างกาย
งานเมทกาลา (Met Gala) ซึ่งเป็นงานประจำปีที่ผู้คนคาดหวังและสนใจมากที่สุดเพิ่งจะจบลง และอย่างที่ใคร ๆ ก็คาดเดาได้ว่ามีการพูดคุยกันมากมายเกี่ยวกับคนดังที่เดินพรมแดง บางคนอาจต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อฟิตร่างกายสำหรับอีเวนท์นี้และทำให้คนต้องว้าวด้วยชุดที่ไม่ซ้ำใครของพวกเขา นักแสดงสาว ลิลี่ ไรน์ฮาร์ท (Lili Reinhart) ก็ไม่ได้มองข้ามเรื่องนี้และแสดงความไม่พอใจต่อสถานการณ์นี้ต่อสาธารณชน
ชีวิตสดใสสนับสนุนการมองโลกในแง่ดีและการเห็นคุณค่าในตนเอง เพราะงั้นวันนี้เราจะแสดงให้คุณเห็นว่านักแสดงหญิงจากริเวอร์เดล (Riverdale) ยอมรับร่างกายของเธอได้ยังไงและสนับสนุนให้เราทำเช่นเดียวกัน
ลิลี่แสดงความคิดเห็นที่ชัดเจนของเธอในโซเชียลมีเดีย
ลิลี่ ไรน์ฮาร์ท ดาราสาวจากริเวอร์เดลสนับสนุนเรื่องความมั่นใจในร่างกายอย่างตรงไปตรงมา และท้าทายมาตรฐานความงามของฮอลลีวูดมาโดยตลอด เธอได้กล่าวหลายครั้งว่าเธอไม่ได้มีความเชื่อเหมือนกันในอุตสาหกรรมที่เธอทำงานอยู่ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ “ให้รางวัลและยกย่องผู้คนที่มีเอวเล็กกว่าที่ฉันเคยมี”
หลังจากงานเมทกาลา 2022 นักแสดงสาวก็พูดอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับการกระทำสุดโต่งที่คนดังบางคนใช้ในการสวมใส่ชุดของพวกเขา ลิลี่ซึ่งตระหนักดีถึงวิธีการทำงานของโลกคนดังและความสำคัญของรูปลักษณ์ได้ยืนกรานที่จะต่อต้านการลดน้ำหนักอย่างมากเพียงเพื่อให้ดูดีบนพรมแดง
ลิลี่เขียนไว้ในสตอรี่อินสตาแกรมของเธอว่าปกติแล้วเธอไม่ใช่คนขี้โมโหแต่บางครั้งวิธีที่อุตสาหกรรมนี้ใช้ก็ทำให้เธอรำคาญ
นักแสดงสาวพบว่ามันยากที่จะยอมรับตัวเอง
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นักแสดงสาวพูดถึงภาพลักษณ์ของเธอ ลิลี่ไม่ชอบรูปร่างของตัวเองและเมื่อมองกลับไป ด้วยเหตุนี้เมื่อไม่กี่เดือนก่อน เธอจึงเปิดเผยบนอินสตาแกรมว่า “เปราะบางและแบ่งปัน” ความสับสนภายในของเธอ โดยหวังจะเชื่อมโยงกับคนอื่น ๆ ในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน
“ฉันเผชิญกับความคิดที่หมกมุ่นอยู่กับรูปร่าง/น้ำหนักของฉันในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา” เธอเขียน “มันยากที่จะมองดูร่างกายของคุณด้วยความรักแทนที่จะวิจารณ์ [...] ฉันไม่คิดว่าการอยู่ในอุตสาหกรรมนี้ที่หมกมุ่นอยู่กับรูปร่างและน้ำหนักของผู้หญิงจะทำให้ฉันประสบกับปัญหาการยอมรับตัวเองและความมั่นใจในร่างกายของฉันเองได้ แต่มันก็ส่งผลกระทบต่อฉันจริง ๆ”
มาตรฐานความงามของฮอลลีวูดได้หล่อหลอมการรับรู้ในตนเองของลิลี่อย่างถาวร เธอต้องเผชิญและเอาชนะอุปสรรคมากมายกว่าจะยอมรับร่างกายของเธอในแบบที่เป็น แต่ตอนนี้เธอรู้แล้ว “ร่างกายของฉันสมควรได้รับความรักและความชื่นชมพอ ๆ กันไม่ว่าจะไซส์ไหนก็ตาม”
ในช่วงฤดูร้อนลิลี่ยังใช้ทวิตเตอร์ของเธอเพื่อเตือนแฟน ๆ ของเธอว่าไม่มีคำว่า ’หุ่นแบบฤดูร้อน’ นักแสดงหญิงกล่าวในโพสต์ของเธอว่า “เตือนตัวเองและทุกคนว่าคุณไม่จำเป็นต้องมีหน้าท้องที่แบนราบหรือกระชับเพื่อสวมเสื้อครอปทอปหรอก”
ลิลี่ต้องการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นรู้สึกดีกับตัวเอง
ในฐานะบุคคลสาธารณะ คนดังควรระมัดระวังเกี่ยวกับคำพูดของพวกเขา เนื่องจากผู้ชมตีความข้อความต่อสาธารณะผิดพลาดและคิดว่านั่นเป็นความจริง ลิลี่ใช้ตำแหน่งที่เป็นเอกสิทธิ์ของเธอในการปลุกจิตสำนึกเกี่ยวกับปัญหานี้และจากประสบการณ์ก่อนหน้านี้ของเธอเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แฟน ๆ ของเธอตระหนักถึงรูปร่างหน้าตาของพวกเขา
เธอยืนยันว่าผู้คนมากมายทั่วโลกประสบปัญหาเหล่านี้ทุกวัน พวกเขาอ่อนไหวต่อการวิพากษ์วิจารณ์รูปร่างหน้าตาอยู่เสมอ ลิลี่ต้องการกระตุ้นให้แฟน ๆ ของเธอ “เป็นปกติ เห็นอกเห็นใจ แสดงความเห็นอกเห็นใจและความเมตตา”
เราอาศัยอยู่ในสังคมที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง และลิลี่ก็เหมือนกับมนุษย์คนอื่น ๆ ที่มุ่งมั่นที่จะยึดมั่นในสิ่งเหล่านี้ ตามที่เธอกล่าว ความคาดหวังเหล่านี้เป็นเพียงแรงกดดันจากผู้อื่นเพื่อกำหนดอุดมคติที่ไม่สมจริงให้กับหญิงสาวเช่นเธอ ถึงอย่างนั้นเธอก็เสริมว่า มันขึ้นอยู่กับเราว่าเริ่มเปลี่ยนวิธีที่เรารับรู้ตนเองและความคิดเห็นของผู้อื่นหรือไม่
“ฉันเคยอ่านนิตยสารหลายเล่มเมื่อฉันยังเด็ก [... ] ฉันอยากเห็นสิ่งที่อยู่ข้างใต้และฉันต้องการเห็นข้อบกพร่อง ทุกคนต้องการเห็นข้อบกพร่องของคนอื่นเพราะเราอยากเห็นเพื่อที่จะมองเห็นความไม่มั่นคงของเราในพวกเขาได้”
ไรน์ฮาร์ทต้องการส่งเสริมให้ผู้หญิงคนอื่น ๆ ให้โอกาสตัวเองและปล่อยวางมาตรฐานที่หลอกลวงเพื่อชื่มชมยินดีกับความงามอันเป็นเอกลักษณ์ของกันและกัน นักแสดงสาววัย 25 ปีคิดว่าเราสวยอย่างเป็นธรรมชาติได้ด้วย “สิวหรือรอยแผลเป็น เซลลูไลท์หรือส่วนโค้ง”
“อย่าตั้งเป้าหมายที่เป็นไปไม่ได้ในการบรรลุมาตรฐานจอมปลอม การคิดว่าร่างกายของคุณหรือร่างกายของฉันจะดูไม่เหมือนคนอื่น มันไม่สมเหตุสมผลเลย นี่ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะเป็น เราทุกคนนั้นสวยแม้จะไม่สมบูรณ์แบบ”
คุณเคยรู้สึกไม่มั่นใจเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของคุณหรือเปล่า ? คุณเชื่อมั้ยว่ามาตรฐานความงามดังกล่าวมีอิทธิพลต่อการรับรู้ในตนเองของเรา ?