คุณลักษณะ 6 ประการที่เจ้าหญิงไดอาน่าไม่ชอบเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของเธอ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครสังเกตเห็น
เจ้าหญิงจากหนังสือและหนังของดิสนี่ย์ในสมัยก่อนนั้นทั้งน่ารัก ใจดี และสวยงาม แต่ในชีวิตจริง แม้แต่เจ้าหญิงก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ มงกุฎและสถานะที่สูงส่งของพวกเธอไม่ได้ปกป้องพวกเธอจากความคิดเกี่ยวกับรูปลักษณ์ที่ทำร้ายตัวเอง (เช่นเมื่อมีคนบอกว่าพวกเธออวบเกินไปหรือผอมเกินไป, สูงเกินไปหรือเตี้ยเกินไป) ความลำบากที่คล้ายกันนี้ก็กัดกร่อนเจ้าหญิงไดอาน่าแห่งอังกฤษ หนึ่งในผู้หญิงที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกผู้ซึ่งเป็นที่รักของคนทั้งโลกเช่นกัน
ชีวิตสดใสเจาะลึกประวัติของไดอาน่าและตอนนี้เรารู้แล้วว่า เจ้าหญิงก็เหมือนกับพวกเราทุกคน เมื่อพูดถึงความไม่มั่นใจในตัวเอง
หลังจากเจ้าหญิงไดอาน่าสิ้นพระชนม์ ผู้คนนับล้านก็ได้มารวมตัวกันในลอนดอน ตามเส้นทางของขบวนแห่พระศพ เชื่อกันว่าไดอาน่าเป็นสมาชิกของราชวงศ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในบริเตนใหญ่
แม้ว่าเจ้าหญิงจะเป็นต้นแบบของความมีสไตล์ แต่เธอก็ยังคงเป็นคนที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนในเวลาเดียวกัน ตัวอย่างเช่น เมื่ออิสราเอล โซฮาร์ (Isreal Zohar) ศิลปินผู้ซึ่งวาดรูปเหมือนของเธอในปี 1990 ไดอาน่าก็ได้ขอให้เขาแก้ไขภาพวาดที่เกี่ยวกับรูปลักษณ์ของเธออยู่เรื่อย ๆ โดยเฉพาะในเรื่องของจมูก
สื่อมวลชนพูดถึงเรื่องของจมูกที่ใหญ่ของไดอาน่าอย่างไม่หยุดหย่อน ไดอาน่าพยายามที่จะบดบังมันด้วยการทำทรงผมใหญ่ ๆ เช่นเดียวกับการอาศัยมุมกล้องในทุก ๆ รูปของเธอ เธอจะก้มศีรษะลงเล็กน้อย หันไปด้านข้างนิดหนึ่งและเลิกคิ้ว นี่กลายมาเป็นท่าโปรดของเธอ
นอกจากนี้ การก้มศีรษะลงเล็กน้อยยังช่วยให้ไดอาน่ารับมือกับความยากลำบากอย่างอื่นได้อีกด้วย เธอรู้สึกไม่ชอบความสูงของเธอ (172 ซม.) ความไม่มั่นใจในส่วนสูงของเธอมาจากการที่เธอและสามีของเธอสูงเท่ากัน
ถึงอย่างนั้นในภาพถ่ายทางการ เจ้าหญิงมักจะดูเตี้ยกว่าสามีของเธอเพราะช่างภาพของราชสำนักตั้งใจทำให้ไดอาน่าดูเตี้ยกว่า เธอถูกกำหนดให้ยืนอยู่ข้างหน้าสามีและถูกสั่งให้สวมรองเท้าไม่มีส้นซึ่งมันช่วยให้ชาร์ลส์ดูสูงและดูดีกว่าภรรยาของเขา
นอกจากความอึดอัดใจในความสูงของตัวเองแล้ว เจ้าหญิงยังประสบปัญหาเกี่ยวกับท่าทางการเดินของเธอด้วย ไดอาน่าเดินตัวงอและเอนไหล่ไปข้างหน้า แพทย์ของเธอกล่าวว่าอาการของเธอแย่ขึ้นเนื่องจากกระดูกสันหลังโค้ง
นอกจากนี้ ไดอาน่ามักจะก้มหัวลงเวลาที่เธอพูดคุยกับผู้คน เพื่อให้การสื่อสารนั้นสะดวกแก่ใครก็ตามที่คุยกับเธอ และเพื่อไม่ให้พวกเขารู้สึกว่ากำลังโดนเธอดูถูก
ยังคงมีสิ่งอื่นอีกที่ทำให้ไดอาน่ารู้สึกทรมาน เธอมองว่าตัวเองอ้วน นั่นเป็นเพราะเจ้าชายชาร์ลส์เคยหลุดพูดกับเจ้าสาวของเขาในขณะที่วางมือลงบนเอวของเธอว่า “โอ้ นี่คุณอ้วนไปหน่อยหรือเปล่า” และเธอก็เก็บคำพูดของเขามาคิดอย่างเจ็บปวด
นั่นเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมหญิงสาวอายุ 19 ปีจึงเริ่มลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วก่อนวันอภิเษกสมรส เมื่อช่างตัดเสื้อของราชวังเริ่มเย็บชุดแต่งงานให้ไดอาน่า เอวของเธอมีขนาด 30 นิ้ว แต่ก่อนที่จะถึงพิธีอภิเษกสมรส เอวของเจ้าหญิงลดลงเหลือเพียง 23 นิ้วเท่านั้น นักออกแบบแฟชั่นคนหนึ่งจำได้ว่าไดอาน่าผอมมาก คุณเห็นได้เลยว่าใบหน้าของเธอค่อนข้างตอบ
หนึ่งสัปดาห์หลังจากการอภิเษกสมรส ไดอาน่าเริ่มป่วยด้วยโรคบูลิเมียซึ่งกินเวลานาน 10 ปี ไดอาน่าเล่าว่ามีเหตุผลหลายอย่างของการเป็นโรคทางประสาทนี้ เรื่องแรกคือเธอมีปัญหากับสามีของเธอ พวกเขาควรที่จะอยู่ด้วยกันและมีรูปภาพความสัมพันธ์ที่ดีในที่สาธารณะ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีความสงบและความลงรอยกันระหว่างพวกเขา
อย่างที่สอง หน้าที่อย่างหนึ่งของเจ้าหญิงคือการพูดคุยกับผู้ป่วยหนัก ซึ่งกลายเป็นผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อจิตใจของเธอ ไดอาน่าไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากการที่เธอเป็นโรคบูลิเมีย เนื่องจากเธอรู้สึกละอายใจต่อความผิดปกติและเกลียดที่ตัวเองเป็นโรคนี้
ไดอาน่าผู้เลอโฉมยังเชื่อว่าตัวเธอมีรูปร่างเหมือนกับนักว่ายน้ำอีกด้วย เธอไม่ชอบที่ไหล่ของเธอกว้าง โชคดีที่การแต่งกายแบบไหล่กว้างเป็นที่นิยมในปี 80 ไดอาน่าจึงใช้เทรนด์นี้อย่างชาญฉลาด โดยเลือกชุดที่มีแผ่นรองไหล่และการแต่งกายที่เข้ากันในสมัยนั้น ด้วยวิธีนี้ไหล่ของไดอาน่าจึงไม่ได้ดูใหญ่และมันยังสร้างความประทับใจได้อีก ว่าแม้แต่เจ้าหญิงก็ยังทำตามแฟชั่นตามยุคสมัย
ตามที่คาโรแลน บราวน์ ครูสอนออกกำลังกายส่วนตัวของไดอาน่าบอก หลังจากคลอดลูกสองคน หน้าท้องของเจ้าหญิงต้องการการใส่ใจและการออกกำลังกายเป็นอย่างมาก เจ้าหญิงเล่นกีฬาอย่างแข็งขันซึ่งไม่ได้ช่วยแค่การพัฒนารูปร่างของพระองค์เท่านั้น แต่ยังช่วยเรื่องสภาวะทางอารมณ์ของพระองค์ด้วย
คาโรแลนจำได้อีกด้วยว่าไดอาน่าสนใจบทเรียนในการสร้างเสียง เพราะเธอคิดว่าเสียงของเธอดูไม่มั่นใจพอและเหมือนกับเสียงเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ
ในรูปนี้ ที่เธอสวมชุดกระโปรงสีดำถูกถ่ายในวันที่เจ้าชายชาร์ลส์ประกาศผ่านการสัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ว่าเขากำลังมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่น หลังจากนั้นไดอาน่าก็เริ่มพูดอย่างเปิดเผยทางโทรทัศน์เกี่ยวกับความทุกข์ยากในปีที่ผ่าน ๆ มาที่เธอได้เผชิญ ก่อนหน้านั้นไดอาน่าไม่เคยสารภาพต่อสาธารณชนมาก่อนว่าเธอมีปัญหาทางจิต
ชีวิตครอบครัวกับชาร์ลส์ก็ไปไม่รอด แต่มันจำเป็นต้องแสดงออกว่าเป็นชีวิตแต่งงานที่มีความสุข เป็นเวลาหลายปีที่ไดอาน่าไม่รู้สึกว่าได้รับการสนับสนุนจากราชวงศ์และมีความสัมพันธ์ที่ยากลำบากกับแม่ของตัวเอง เจ้าหญิงจึงมีอาการซึมเศร้า
แต่เธอก็พบความเข้มแข็งและค่อย ๆ เริ่มกำจัดความไม่มั่นใจและความตึงเครียดทางประสาทที่ทำร้ายเธอมาเป็นเวลานานหลายปี เธอต่อสู้กับโรคบูลิเมียและเริ่มออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอที่โรงยิม เธอไม่ต้องแสร้งเป็นภรรยาที่มีความสุขในที่สาธารณะอีกต่อไป
ความอายในรูปลักษณ์และการมีความมั่นใจต่ำสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แม้กระทั่งสมาชิกของราชวงศ์ สิ่งสำคัญคือการหาจุดแข็งให้มากพอที่จะต่อสู้กับมัน