ในฐานะที่เป็นสาววัย 58 ปีผู้มีรอยสัก และเคยถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า “แต่งตัวอย่างกับเป็นวัยรุ่น” ตอนนี้ เธอจะมาเล่าเรื่องของเธอให้เราได้ฟังกัน

ลอนนี่ ไพค์ (Lonni Pike) อายุได้ 58 ปีแล้ว แต่ก็เหมือนกับที่ไอจี (IG) ของเธอบอกไว้นั่นแหละว่า ชีวิตไม่ได้หยุดลงตอนที่อายุ 50 ปีหรอกนะ เธอใช้บัญชีโซเชียลมีเดียของตัวเองในการลงวิดีโอมากมายเพื่อให้กำลังใจผู้หญิงทั้งหลาย ให้ยอมรับสไตล์ของตัวเองไม่ว่าคนอื่นจะคาดหวังให้เราเป็นอย่างไรก็ตาม ซึ่งเราได้รับแรงบันดาลใจจากความมุ่งมั่นของลอนนี่มาก ที่คงความซื่อสัตย์ต่อตัวเองไม่ว่าเธอจะมีอายุเท่าไหร่ หรือไม่ว่าคนอื่นอยากจะพูดว่าอย่างไรก็ตาม เรื่องนี้สร้างแรงบันดาลใจจนเราต้องเขียนบทความถึงเธอขึ้นมาเลยทีเดียว นอกจากนี้ เรายังได้สัมภาษณ์ลอนนี่เพื่อหาข้อมูลรายละเอียดเบื้องหลังของรอยสักเหล่านั้น และสาเหตุว่าทำไมเธอถึงตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตในแบบที่ต่างจากคนอื่น ๆ

“ฉันไม่เคยกลัวที่จะแสดงให้โลกรู้ว่าฉันเป็นใคร”

ในขณะที่เราหลายคนอาจจะคิดว่าอายุเป็นตัวจำกัดในบางเรื่องในการดำเนินชีวิตประจำวันของเรา แต่ลอนนี่ ไพค์กลับเป็นหลักฐานที่ยังมีชีวิตอยู่ที่พิสูจน์ให้เห็นว่านั่นเป็นเพียงแค่ความเชื่ออย่างเหมารวมที่โบราณมาก แต่ช่างเป็นความเชื่อที่ผู้คนมากมายช่างยึดถือกันจริง ๆ ลอนนี่คืออินฟลูเอนเซอร์ในโลกโซเชียลมีเดียจากแคลิฟอร์เนีย ที่กระแสของเธอกลายเป็นไวรัลไปทั่วแพลตฟอร์มติ๊กต็อกหลังจากที่เธอท้าทายความเชื่อแบบเหมารวมที่ผู้คนเอามาวางกรอบให้ผู้หญิงในวัยห้าสิบทั้งหลาย เธอมีผู้ติดตามอยู่มากกว่า 115,000 คน ในเพจของเธอทางอินสตาแกรม (Instagram) นอกจากนี้ยังมีบล็อกที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก แถมยังโพสต์คลิปวิดิโอมากมายในติ๊กต็อกให้ผู้ติดตามกว่า 1 ล้านคนได้รับชม และได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง

มาถึงคำถามที่ว่าเธอจะบรรยายชีวิตของตัวเองว่าเป็นอย่างไรได้บ้าง ลอนนี่ตอบว่าชีวิตของเธอก็เหมือนความพิเศษหลังเลิกเรียนดี ๆ นี่เอง “ฉันเป็นคนที่มักอยู่นอกสายตามาโดยตลอด เป็นคนที่ใคร ๆ ก็มักมองข้าม (รวมถึงตัวฉันเอง) ซึ่งเห็นแล้วว่าพวกเขาคิดผิด”

เธอตัดสินใจที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ในที่สุด และก็ต้องประหลาดใจมากว่าชีวิตมันยอดเยี่ยมได้ขนาดนี้เชียวหรือ เธอยังเสริมด้วยว่า “มันเป็นเหมือนโอกาสครั้งที่สองของชีวิตที่ทำให้ฉันมีแรงจูงใจที่จะทำในสิ่งที่ฉันอยากทำ มันเป็นการจุดประกายไฟในตัวฉันให้ลุกโชนขึ้นมาให้ช่วยเหลือให้คนอื่น ๆ สามารถหาปุ่มเริ่มต้นใหม่ของตัวเองได้ สรุปง่าย ๆ เลยก็คือ ฉันจะอธิบายชีวิตของฉันด้วยคำว่ายอดเยี่ยมน่าทึ่งละกัน”

นอกจากนี้ เรายังได้ถามลอนนี่ว่าเธอช่วยเหลือคนอื่น ๆ ยังไงบ้าง ถึงทำให้พวกเขายอมรับในความสวยงามและความหลากหลายที่ตนเองเป็น ซึ่งคำใบ้ที่เธอมอบให้เรานั้นก็ง่ายมาก เธออธิบายให้เราฟังว่าเราทุกคนล้วนแตกต่างกันทั้งนั้น และเราก็ไม่ควรที่จะต้องดูเหมือนใครเลย นอกจากเป็นตัวเราเองเท่านั้น เรามักได้รับแนวคิดเดิม ๆ ถ่ายทอดฝังหัวมาอยู่เสมอว่าเราทุกคนจะต้องสมบูรณ์แบบอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งไม่มีใครสามารถทำได้หรอก

“ข้อความของฉันก็คือเราจำเป็นที่จะต้องเลิกพยายามเสียทีที่จะเป็นคนอื่น และชอบคนที่กำลังจ้องมองเรากลับมาจากในกระจกแทน ลองหยุดคิดให้ดี ๆ สิ ทำไมคุณจะต้องอยากทำตัวให้กลมกลืนกับคนอื่นและทำตัวให้ออกมาดูเหมือนคนอื่น ๆ ด้วยล่ะ ? จงส่องประกาย จงกล้าหาญ และจงเป็นตัวของตัวเอง เพราะในโลกนี้มีตัวคุณแค่คนเดียวเท่านั้นนะ !” ลอนนี่กล่าวเสริม

ก็อย่างที่เราได้พูดไปแล้วก่อนหน้านี้ อายุก็เป็นแค่เรื่องของสติปัญญาและประสบการณ์ เมื่อลอนนี่ถูกถามว่าหากมีอะไรที่เธอบอกกับตัวเองในตอนที่ยังอายุน้อย ๆ ได้ เธออยากจะพูดว่าอะไร ซึ่งเธอก็บอกว่าเธอจะบอกตัวเองในวัย 20 ปีว่า ไม่ว่าเรื่องอะไรที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเธอ (ไม่ว่าจะร้ายหรือจะดี) ทุกอย่างล้วนคุ้มค่าทั้งนั้น “ทุกบทเรียนชีวิตจะทำให้คุณเข้าใจในหลาย ๆ อย่างได้ดีขึ้นเองเมื่อคุณโตขึ้น บทเรียนเหล่านั้นจะกลายเป็นปัญญา และปัญญานี่แหละที่จะทำให้เธอเริ่ด เชิด ได้” เธอกล่าว

“ฉันหวังที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่น ๆ เป็นตัวของตัวเองได้ ฉันอยากจะแสดงให้คนอื่น ๆ ได้เห็นว่าคุณสามารถเป็นตัวของตัวเองได้โดยไม่ต้องเกรงกลัวแม้แต่น้อยว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร ได้มีอิสระที่จะปลดปล่อยสิ่งที่อยู่ภายในตัวของคุณออกมาให้โลกได้เห็น” ลอนนี่สารภาพ “ฉันไม่ตัดสินใครจากไลฟ์สไตล์ของพวกเขา และอยากจะส่งต่อคำพูดแห่งการยอมรับนี้ออกไปให้ทุกคน”

ลอนนี่กล่าวว่าเบื้องหลังรอยสักต่าง ๆ ของเธอมีเรื่องราวชีวิตมากมายซ่อนอยู่ เธอไปสักมาครั้งแรกเมื่อเธออายุครบ 30 ปี โชคร้ายที่ตอนนั้นเธออยู่ในชีวิตแต่งงานที่เลวร้าย และต้องแยกกันอยู่ชั่วระยะหนึ่ง เป็นช่วงนั้นเองที่เธอตัดสินใจที่จะสร้างลวดหนามพันรอบข้อเท้าเธอ เพราะตอนนั้นเธอรู้สึกว่าชีวิตเธอถูกพันธนาการและไม่มีทางออกเป็นอย่างยิ่ง “นั่นถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่จะปลดปล่อยตัวตนของฉันออกมา และได้เป็นในสิ่งที่ฉันอยากเป็น”

“ฉันคิดว่ามันสำคัญมากนะที่จะต้องรู้ว่ารอยสักทั้งหลายของฉันไม่ได้ทำให้ฉันเป็นฉันมากไปกว่าส่วนอื่นในตัวฉัน อย่างผมสีเทาหรือตาสีเขียวของฉัน...มันเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของภาพรวมทั้งหมดเท่านั้น” ลอนนี่กล่าว

เธอหวังว่าจะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้เป็นในสิ่งที่ตัวเองอยากจะเป็นได้ และไม่ต้องสนใจว่าใครต่อใครข้างนอกนั่นจะพูดว่าอะไร “ฉันอยากจะแสดงให้คนอื่น ๆ ได้เห็นว่าคุณสามารถเป็นตัวของตัวเองได้โดยไม่ต้องเกรงกลัวแม้แต่น้อยว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร ได้มีอิสระที่จะปลดปล่อยสิ่งที่อยู่ภายในตัวของคุณออกมาให้โลกได้เห็น” ลอนนี่อธิบาย

“รู้อะไรไหม ? เราต่างเป็นแม่ ต่างเป็นคุณย่าคุณยาย เราต่างเป็นนักเรียน เราต่างเป็นผู้หญิง เราต่างเป็นในสิ่งที่เราเป็น และเราแค่อยากจะบันทึกร่องรอยของตัวเองลงในช่วงเวลานี้เพื่อให้สามารถจดจำได้ว่าเราเป็นใคร” เธอเสริม

คุณเคยเผชิญหน้ากับคนที่ชอบมาสั่งให้คุณทำอะไรไม่ทำอะไรเพราะคุณอายุเท่านั้นเท่านี้บ้างไหม ? คุณตอบกลับไปยังไงบ้าง ? เล่าเรื่องของคุณในช่องคอมเมนต์ได้เลย เราอยากจะฟังมากว่าคุณมีอะไรมาเล่าสู่กันฟังบ้าง !