ในวัย 56 ปี ในที่สุดซินดี้ ครอว์ฟอร์ดก็ยอมรับในวัยของตัวเอง และอยากให้ทุกคนเลิกเรียกเธอว่าเป็นสาวคงกระพันได้แล้ว
ซินดี้ ครอว์ฟอร์ด (Cindy Crawford) คือบุคคลตัวอย่างของวงการสุดยอดนางแบบเลยก็ว่าได้ แต่โชคร้ายนักที่คนมากมายมักจะยึดถือในมาตรฐานความงามที่ไม่ตั้งอยู่ในความเป็นจริงและนำไปเป็นกรอบให้แก่นางแบบทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนางแบบเหล่านั้นเริ่มแก่ตัวขึ้น ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว ครอว์ฟอร์ดไม่ยอมรับความคาดหวังที่ผู้คนมีต่อตัวเธอ และมีคำพูดแง่คิดมากมายที่อยากจะบอกกล่าวแก่ทุกคนที่กลัวว่าความโรยราจะมาถึง
ครอว์ฟอร์ดคือคำนิยามของสุดยอดนางแบบในยุคปี 90
เมื่อเราคิดถึงเหล่าสุดยอดนางแบบในยุคปี 90 หนึ่งในชื่อที่แล่นเข้ามาในหัวของเรานั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะต้องมีชื่อของซินดี้ ครอว์ฟอร์ดอยู่ในนั้นแน่ ชื่อเสียงของเธอเริ่มขจรขจายตั้งแต่ปี 1990 เมื่อเธอปรากฏโฉมบนหน้าปกนิตยสารบริติชโว้ก (British Vogue) เคียงบ่าเคียงไหล่กับสุดยอดนางแบบอย่างนาโอมิ แคมป์เบลล์ (Naomi Campbell), ลินดา อีวานเกลิสตา (Linda Evangelista) และคริสตี้ เทอร์ลิง (Christy Turlington) โดยนับตั้งแต่นั้นมา ครอว์ฟอร์ดก็มักจะได้เดินแบบและโพสต์ท่าถ่ายรูปให้แก่แบรนด์แฟชั่นชื่อดังตลอดจนนิตยสารใหญ่ ๆ แห่งทศวรรษนั้นมามากมาย
ในปี 2000 ซึ่งเป็นช่วงเวลา 10 ปีพอดีนับตั้งแต่ที่อาชีพการงานของเธอพุ่งขึ้นถึงขีดสุด ครอว์ฟอร์ดก็ได้หยุดพักการเป็นนางแบบอย่างเต็มเวลาในวัย 34 ปี ตั้งแต่นั้นมา อดีตสุดยอดนางแบบสาวคนนี้ก็ได้เขียนหนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่งชื่อว่า “บีคัมมิ่ง (Becoming)” และทำงานเป็นพรีเซนเตอร์ในระดับสโปคส์เพอร์ซัน (spokesperson) ให้แก่หลายแบรนด์ และเธอเองก็ยังออกสินค้าเฟอร์นิเจอร์ของตัวเองอีกด้วย ถึงจะเป็นเช่นนั้น แม้ว่าเธอจะแขวนส้นสูงหันหลังให้แก่วงการนางแบบไปกว่า 2 ทศวรรษแล้วก็ตาม แต่ครอว์ฟอร์ดก็ยังคงต้องต่อสู้กับความคาดหวังที่ไม่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงที่ผู้คนมักจะยัดเยียดให้แก่ผู้อื่นอยู่เสมอ
สำหรับเธอแล้ว แรกเริ่มที่วัยร่วงโรยขึ้นก็เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นกัน
เมื่อครอว์ฟอร์ดเริ่มเข้าใกล้อายุ 50 เธอเริ่มที่จะสังเกตเห็นว่าตัวเองเริ่มโรยราขึ้นในจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ ต่าง ๆ “ผิวหนังของคุณ เส้นผมของคุณ ร่างกายของคุณ ฉันดูแลตัวเองดีนะแต่ฉันก็รู้ว่าฉันเป็นผู้หญิงวัย 51 ปีแล้ว”
และเมื่อเป็นเช่นนั้น ซินดี้ก็รู้ตัวว่าสิ่งที่เธอกังวลทั้งหมดล้วนแล้วแต่มาจากความคาดหวังของผู้อื่นที่มีต่อตัวเธอทั้งสิ้น “ฉันอยากจะทำงานทำหน้าที่ของฉันให้ดี และก็อยากจะทำให้ได้เต็มที่ที่สุด แต่ฉันก็รู้ดีเช่นกันว่าสิ่งที่ฉันสามารถให้ได้ในตอนนี้ย่อมแตกต่างจากสิ่งที่ฉันสามารถให้ได้เมื่อตอนที่ฉันอายุ 25”
อดีตสุดยอดนางแบบเองก็มีช่วงเวลาอันยากลำบากกับผู้คนบนโลกออนไลน์ที่มีปฏิกิริยากับการที่รูปร่างหน้าตาของเธอเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน โดยเธอกล่าวไว้ว่า “ฉันไม่ต้องการให้ใครก็ตามในอินสตาแกรมมาบอกฉันว่าฉันดูไม่เหมือนกับที่ฉันเคยเป็นในตอนที่ฉันอายุ 20 ฉันรู้เรื่องนั้นดีอยู่แล้วเถอะ” แต่หลังจากความอึดอัดใจเหล่านั้น ก็ตามมาซึ่งการยอมรับได้ในที่สุด ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เราทุกคนสามารถเรียนรู้จากเธอได้
ครอว์ฟอร์ดยอมรับในความโรยราของตัวเอง และปฏิเสธที่จะมองย้อนกลับไป
หลังจากผ่านไปสักระยะหนึ่ง ครอว์ฟอร์ดก็ยอมรับได้ในที่สุดว่าเราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้ และการโฟกัสในสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันต่างหากที่สำคัญกว่ามาก เหมือนกับที่เธอเคยกล่าวไว้ว่า “ไม่ว่าฉันจะทำยังไง ฉันก็ไม่มีทางที่จะกลับไปดูเหมือนตอนที่ฉันอายุ 20 หรือ 30 ได้อีกแล้ว ฉันแค่อยากจะยังดูดีสำหรับคน 50 ปีนี่แหละ สำหรับผู้หญิงแล้วมักจะมีความกดดันให้เราต้องทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ซึ่งนั่นก็คือห้ามแก่ขึ้น แต่สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือต้องทำยังไงให้ยังดูดีในช่วงอายุของคุณไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงอายุเท่าไหร่ต่างหาก”
ในตอนนี้ เธอยังปฏิเสธความคิดที่จะเป็นสาวคงกระพันและอยากให้ทุกคนเลิกที่จะบีบบังคับเธอให้ต้องเป็นไปตามแนวคิดนั้นเสียที ครอว์ฟอร์ดกล่าวว่า “ที่พูดกันว่าฉันเป็นเป็นสาวคงกระพันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาคนเราแก่ตัวขึ้นทุกอย่างมันก็ยากพอแล้ว ไม่ต้องไปสนใจหรอกว่าเรากำลังอยู่ในวัฒนธรรมที่หมกมุ่นอยู่แต่การที่จะต้องดูเด็กอยู่เสมออะไรนั่น”
และที่สุดแล้ว อายุของครอว์ฟอร์ดก็กลายเป็นความภาคภูมิใจอย่างหนึ่งของเธอ เพราะมันสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จทั้งหมดที่เคยผ่านมาของเธอ “ฉันไม่ใช่สาวอายุ 25 อีกต่อไปแล้ว ทำไมจะต้องพยายามทำให้ตัวเองดูเหมือนอายุ 25 ด้วย ? ทำไมฉันถึงต้องอยากให้คนอื่นเข้าใจผิดคิดว่าฉันอายุ 25 ? ในเมื่อฉันเคยผ่านการมีลูกมาแล้ว ฉันผันผ่านประสบการณ์ชีวิตทั้งหมดมาแล้ว”
คุณเห็นด้วยกับซินดี้ ครอว์ฟอร์ดไหม ? คุณรู้สึกยังไงบ้างเมื่อต้องมีอายุมากขึ้น ?