“ทุกคนควรแสดงความยินดีในวันเกิดของพวกเขา” เรื่องราวความใจดีของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้เปลี่ยนวันธรรมดา ๆ ไปเลยล่ะ
คนเป็นพ่อแม่ย่อมรู้ดีว่างานหนักทั้งหมดในการเลี้ยงลูกไม่เพียงแต่ให้ผลดีเท่านั้น แต่ยังทิ้งเรื่องราวตลก ๆ เอาไว้มากมายให้คุณได้ชื่นชม มีหลายครั้งที่เด็กน้อยเรียนรู้และพัฒนาความรู้สึกในชีวิตของตัวเอง โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาได้ทำมัน แล้วนั่นก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณแม่รายนี้ในวันธรรมดา ๆ ซึ่งลูกสาวของเธอได้มอบบทเรียนอันน่าพึงพอใจเกี่ยวกับความเห็นอกเห็นใจและความมีน้ำใจให้กับทุกคนเลยเชียวล่ะ
ลูกสาววัย 7 ขวบของฉัน (ในตอนนั้น) ชอบช่วยงานบ้านทุกอย่าง เธอชอบผึ่งจานให้แห้ง รดน้ำต้นไม้ จัดเรียงจดหมาย หรือแม้กระทั่งรับโทรศัพท์
ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่ฉันต้องพาเธอไปทำงานกับฉัน หรือออกไปทำธุระที่น่าเบื่อ ฉันจะพยายามหางานเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เธอทำ เพื่อให้เธอไม่ว่างและให้รู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งมีค่า
ตัวอย่างเช่น ถ้าเราอยู่ที่ห้าง ฉันอาจแนะนำให้เธอ “ช่วยพนักงาน” ด้วยการหมุนกระป๋องทั้งหมด โดยให้ฉลากหันออกถูกด้าน และสิ่งที่ช่วยได้มากก็คือช่วยให้ฉันทำงานเสร็จได้เร็วขึ้นมาก
ดังนั้นมีอยู่วันหนึ่งเมื่อฉันไปรับเธอมาจากโรงเรียน ฉันต้องรีบไปที่ห้างขายเครื่องใช้ในบ้านและหยิบของบางอย่างเพื่อนำไปซ่อมอย่างเร่งด่วน
เธอเริ่มไม่อยู่นิ่ง ฉันจึงพาเธอไปอยู่ที่แผนกประปาและบอกว่าเธอสามารถช่วยเหลือร้านได้ด้วยการเดินดูท่อในแถวขนาดใหญ่ของพวกเขา และนำท่อที่ไม่ตรงกันกลับไปคืนในจุดวางที่เหมาะสม
พ่อของเธอเป็นช่างประปา เธอจึงรู้ว่าอันไหนควรไปอยู่ตรงไหน ฉันจึงไปทำธุระที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลให้เสร็จ ฉันยุ่งอยู่นาน 10 นาที และแอบมองดูเธอเป็นระยะ ๆ เพื่อดูว่าเธออยู่ได้หรือไม่
เธอเดินออกจากโซนท่อหลังจากนั้นไปนิดหน่อย แต่กำลังตรวจสอบสินค้าอื่น ๆ และก็ดูเหมือนสนุกกับมันมากพอ
ดังนั้นฉันจึงใช้เวลาเพิ่มอีกสองสามนาที และในทันใดนั้นฉันได้ยินว่า “ขอผู้ช่วยตรงช่องทางเดิน 14 หน่อยค่ะ เราต้องการผู้ช่วยตรงช่องทางเดิน 14 ค่ะ” ด้วยเสียงเด็กที่ร่าเริงวัย 7 ขวบ
ฉันรีบกลับไปที่แผนกประปาและไม่พบเธอ จากนั้นฉันก็ได้ยินเสียงเด็กพูดว่า “ดูเหมือนว่าเราจะมีวันเกิดในห้างนะ ! สุขสันต์วันเกิดค่ะ คุณลูกค้านิโคลัส มานิโควสกี้ (Nicholas Manikowski)” ในน้ำเสียงที่กระตือรือร้นอย่างแน่วแน่ของเธอ โดยเธอได้พูดถึงสิ่งที่น่าตื่นเต้นสำหรับเธออย่างเช่นวันเกิด ซึ่งนับว่าเป็นการประกาศที่กระตือรือร้นที่สุดเท่าที่ห้างใหญ่แห่งนี้อาจเคยได้ยินมาเลยล่ะ
มันทำให้เกิดเสียงปรบมือและเสียงโห่ร้องจากลูกค้า ซึ่งทำให้ยากต่อการระบุตำแหน่งของโซน แต่ฉันแทบจะไม่สามารถเลือกได้ว่าเสียงตามสายมาจากตรงไหน
เมื่อฉันไปถึงที่นั่น ลูกสาวของฉันจดจ่ออยู่กับการพูดคุยกับคู่หนุ่มสาวอายุน้อย (ไม่ใช่อายุน้อยแบบเด็กอายุเจ็ดขวบ แต่อายุราว ๆ 25 ปี) และแสดงท่าทางอย่างมีชีวิตชีวาอยู่ที่ชุดอ่างล้างจาน
ฉันคิดว่าบางทีเธออาจถามทางจากพวกเขาว่าฉันน่าจะไปซื้อของตรงไหนหรืออะไรซักอย่าง แต่ฉันกลับได้ยินว่า “ใช่แล้วค่ะ คุณคงอยากตัวต่อขยายแบบโครเมียม คุณจะไม่ทำให้จานต้องเปียกอีกเลย และมันก็เป็นจุดศูนย์กลาง” ในห้อง ร้านนี้ยังมีตัวต่อทองแดงและ —“
ฉันแตะไหล่เธอ ไม่แน่ใจว่าทำไมเธอถึงคุยกับลูกค้าเหล่านี้เกี่ยวกับตัวต่อก๊อกน้ำ ฉันคิดว่าเธอจะโล่งใจเมื่อเห็นฉันเจอเธอ แต่เธอกลับแกล้งทำเป็นว่า “ขอโทษนะคะแม่ หนูมากับลูกค้าค่ะ” และหันกลับไปที่การสนทนาของเธอ
ดังนั้นฉันจึงยกมือขึ้น แล้วก็ถอยไปอยู่ด้านหลังเพื่อรอดูว่าทุกอย่างจะเป็นอย่างไร เพราะฉันรู้เกี่ยวกับลูกสาวของตัวเองว่าเมื่อเธอตัดสินใจทำอะไรบางอย่างแล้ว มันย่อมเกิดขึ้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ดังนั้นเธอจึงพูดคุยกับคนเหล่านี้ต่อไปโดยไม่สะทกสะท้านกับอายุของเธอ พูดคุยเกี่ยวกับอ่างล้างจาน ตอบคำถามพวกเขาและให้คำแนะนำ
ตอนแรกฉันรู้สึกงุนงงกับความลื่นไหลในการตอบคำถามของเธอที่ดูเหมือนถูกต้องเหล่านี้ และสงสัยว่าเธอได้นั่งดูช่องรายการปรับปรุงต่อเติมบ้านในตอนกลางคืนหรืออะไรทำนองนั้นหรือเปล่า แต่ไม่นานฉันก็จำประโยคนั้นได้
เธอได้ดูงานขายของพ่อของเธอ (มีข้อมูลของเธอเองปะปนอยู่ด้วย)
เขาให้คำแนะนำผู้คนเกี่ยวกับอุปกรณ์ติดตั้งอยู่ตลอดเวลา และบริษัทของเขาได้รับผลตอบแทนหากเขาสามารถโน้มน้าวให้ลูกค้าซื้อของจากซัพพลายเออร์ของพวกเขา ยิ่งมีการซื้อเพิ่มมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น ดังนั้นเธอจึงพูดขายของเกินจริง แล้วคู่รักคู่นั้นก็เดินจากไปพร้อมกับตอบตกลงซื้ออ่างล้างจานใหม่ทั้งชุด !
หากฉันไม่ต้องรีบออกไปรับลูกอีกคนจากศูนย์เลี้ยงเด็ก ฉันคงจะถูกตราหน้าจากห้างเพื่อรับค่าคอมมิชชั่น
เมื่อลูกสาวของฉันพูดสรุปกับลูกค้าของเธอ ฉันถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้น เธออธิบายในขณะที่เธอกำลังคัดแยกท่อ แล้วผู้คนก็เข้ามาขอคำแนะนำจากเธอ โดยเธอพูดว่า “หนูว่าหนูดูฉลาดนะ”
ฉันใช้เวลาครู่หนึ่งเพื่อค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะมีคนจำนวนมากที่มีอายุมากพอที่จะทำงานในสถานที่แห่งนี้จริง ๆ คุกเข่าลง เลือกดูท่อ และพวกเขาก็ไม่ได้ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนงาน ส่วนฉันก็ไม่เคยอย่างแน่นอน
คิดไม่ออกจนถึงตอนที่ไปจ่ายเงินที่ทำให้คิดได้ คือในวันพิเศษวันนี้ ชั้นเรียนของเธอไปทัศนศึกษาหรือมีการนำเสนองานหรืออะไรบางอย่าง เด็ก ๆ ทุกคนจึงต้องติดป้ายชื่ออย่างเป็นทางการที่ครูทำให้ แล้วเธอก็ภูมิใจในตัวเองเป็นพิเศษและแปะมันไว้ที่กลางเสื้อของเธอ ซึ่งทำให้มันดูแยกไม่ออกจากเสื้อที่พนักงานสวมอยู่ แค่มีสีแดงกับสีขาวธรรมดา ๆ เขียนว่า “สวัสดี ฉันชื่อ (เว้นว่าง)”
ผู้คนมีความคิดเป็นไปอย่างอัตโนมัติแบบนี้ แล้วพวกเขาก็ไม่ได้ประมวลผลอายุของเธอ หรือไม่ก็พวกเขาประทับใจในความรู้ที่ไม่เคยมีมาก่อนของเธอในเรื่องสินค้าด้านประปาที่พวกเขาจัดไว้
เธอยืนยันว่าเธอรู้ดีว่าควรแนะนำอะไรจากการที่เธอไปทำงานกับพ่อของเธอ ฉันถามว่าเธอไปอยู่กับระบบเสียงตามสายได้อย่างไร เธอได้อธิบายว่ามีพนักงานอีกคนหนึ่งเห็นเธอช่วยลูกค้าในร้านและรู้ว่าตัวเธอสามารถช่วยเหลือได้ พวกเขาจึงขอให้เธอประกาศเหมือนกับที่ฉันขอให้เธอช่วยคัดแยกท่อเหล่านั้น และเธอก็ยินดีช่วย
ฉันถามว่าเธอรู้วิธีใช้งานระบบเสียงตามสายได้อย่างไร แล้วเพื่อตอบความรำคาญใจของฉันเอง เธอก็ได้อธิบายว่าพี่สาวของเธอจะโฉบไปที่ระบบเสียงตามสายทุกครั้งที่เธอและเพื่อน ๆ มาที่ห้างสรรพสินค้า (เธอมักจะดูแลเด็ก ๆ และทำธุระให้ฉันอยู่บ่อย ๆ ) นั่นจึงเป็นจุดข้อมูลดี ๆ ที่มี
และเธอพูดเสริมอีกว่าคนที่เธอได้ช่วยตัดสินใจเรื่องอุปกรณ์ติดตั้ง เขาได้พูดถึงวิธีปรับปรุงบ้านของเขาเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดครบรอบ 50 ปีให้กับตัวเอง แล้วเธอก็ชอบในตอนที่ลานโบว์ลิ่งประกาศวันเกิดอยู่เสมอ ดังนั้นเธอจึงอยากจะลองฝึกความสามารถในการประกาศดูบ้าง และ “นั่นไม่ใช่ความคิดที่ดีหรอกเหรอ ?”
ดังนั้นแน่นอนที่สุดว่าเธอไม่ได้ทำงานที่นั่น แต่เธอก็ให้ความช่วยเหลือเหมือนกับพนักงาน และฉันรับประกันว่าเธอสนุกเป็นสองเท่าเลยล่ะ
คุณคิดว่าเหตุใดเด็ก ๆ จึงแก้ปัญหาที่ดูเหมือนซับซ้อนด้วยวิธีการที่สง่างามและเรียบง่ายเช่นนี้ ? แล้วคุณจำเรื่องราวอะไรที่ตลก ๆ หรือน่าประทับใจเกี่ยวกับลูก ๆ ของคุณได้บ้าง ?