เอ็ดดี้ เมอร์ฟีพบรักกับเพจ บุตเชอร์ในวัย 51 ปี และพวกเขาก็สามารถเข้าใจการมีครอบครัวร่วมกันได้อย่างถ่องแท้

ตั้งแต่ทศวรรษที่ 1980s เป็นต้นมา เราก็ได้รับเกียรติให้สัมผัสกับความสามารถของเอ็ดดี้ เมอร์ฟี (Eddie Murphy) ในรายการสแตนด์อัพคอมเมดี้ ละครแก๊กตลก ๆ และภาพยนตร์ที่ไม่เคยล้าสมัย ซึ่งมันทำให้เราหัวเราะออกมาได้เสมอ ตลอดเลย แต่เราไม่รู้เลยว่าเมอร์ฟีเองนั้นยอดเยี่ยมในชีวิตจริงด้วยเหมือนกัน ปัจจุบันเขาเลี้ยงลูก 10 คนอยู่กับคนรักของเขา เพจ บุตเชอร์ (Paige Butcher) เส้นทางนี้ไม่ได้ง่ายเลย แต่ความรักและการทุ่มเทที่พวกเขามีให้กันและกันก็เป็นอะไรที่คุ้มค่าแล้ว

พวกเราที่ชีวิตสดใสสนุกกับเรื่องราวความรักและครอบครัวผสม พวกเราจึงได้ตัดสินใจเล่าเรื่องราวของครอบครัวเมอร์ฟีสักเล็กน้อย เลื่อนลงไปเรื่อย ๆ แล้วเรียนรู้เรื่องของพวกเขาต่อได้เลย

ชีวิตรักของเอ็ดดี้ เมอร์ฟีค่อนข้างจะซับซ้อน

ตลอดหลายปี ชีวิตรักของเอ็ดดี้ เมอร์ฟีค่อนข้างจะเหมือนรถไฟเหาะ มีขึ้นมีลงอยู่ตลอด ในช่วงสิ้นปีทศวรรษ 1980s เมอร์ฟีได้กลายเป็นพ่อของลูกชายสองคน เอริค (Eric) กับคริสเตียน (Christian) จากแฟนสาวคนก่อนหน้า พอลเล็ต แมคนีลี (Paulette McNeely) และทามาร่า ฮู้ด (Tamara Hood)

เขาแต่งงานในปี 1993 กับนิโคล มิตเชล (Nichole Mitchell) หลังจากพบเธอในปี 1988 และพวกเขาก็มีลูกด้วยกัน 5 คน ได้แก่ เบรีย (Bria) เชน (Shayne) โซลา (Zola) และ เบลล่า (Bella) แต่พวกเขาก็ประกาศกว่าแยกกันในปี 2006 โดยไม่ได้มีความขัดแย้งอะไรกัน

ในปีเดียวกัน ตลกท่านนี้ก็ได้เริ่มเดทกับอดีตสมาชิกวงสไปซ์เกิร์ล (Spice Girl) นาม เมลานี บราวน์ (Melanie Brown) ซึ่งเขามีลูกสาวด้วยหนึ่งคนชื่อแองเจิล (Angel) เมอร์ฟีไม่มั่นใจเรื่องการตั้งครรภ์ แต่การทดสอบผู้เป็นพ่อยืนยันว่าเขาคือพ่อเด็กจริง ๆ

สุดท้าย ในปี 2008 เมอร์ฟีคบหากับโปรดิวเซอร์และนักแสดงโทรทัศน์ เทรซี เอ็ดมอนด์ (Tracy Edmonds) ทั้งสอง “แต่งงานกันทางสัญลักษณ์” โดยไม่มีการให้คำสาบานทางกฎหมายในงานเลี้ยงส่วนตัวที่เกาะโบราโบรา และพวกเขาก็ประกาศว่าแยกทางกันหลักจากนั้นสองสัปดาห์ให้หลัง

เมอร์ฟี กับบุตเชอร์เริ่มคบหากันในปี 2012

เพจ บุตเชอร์เป็นนักแสดงและนางแบบชาวออสเตรเลียที่ไต่เต้างานในวงการมาตั้งแต่ยังเด็ก ตอนเริ่มต้นของอาชีพนักแสดงของเธอ เธอได้รับบทนางแบบประกอบในเรื่อง บิ๊กมาม่า เอฟบีไอพี่เลี้ยงต่อมหลุด 2 (Big Momma’s House 2) ในปี 2006 ซึ่งเธอได้เจอกับ เอ็ดดี้ เมอร์ฟี คนรักในอนาคตของเธอ ตอนนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย แต่สิ่งต่าง ๆ สำหรับเธอก็เปลี่ยนไปตลอดกาล

เมอร์ฟีกับสาวงามผมบลอนด์ของเขาเริ่มคบหากันในปี 2012 และเมื่อพวกเขาเป็นแฟนกัน เธอก็ลบบัญชีโซเชียลมีเดียของเธอทั้งหมด เธออธิบายว่าการตัดสินใจของเธอในปี 2013 เป็นการประกาศว่า “ฉันอยู่ในความสัมพันธ์กับคนดัง ฉันก็เลยคิดว่าข้างนอกนี่มันมากพอสำหรับฉันแล้ว ฉันให้ผู้คนเข้ามาในชีวิตมากเกินไปแล้ว ฉันอยากจะให้มันเป็นส่วนตัวมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในตอนนี้”

เขาขอเธอแต่งงานในเดือนกันยายน ปี 2018

ทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยมตั้งแต่นั้นมา เธอเป็นคนสบาย ๆ และไม่สนใจที่จะทำให้อะไรเป็นทางการ เพราะเธอโอเคกับการมีความสุขเฉย ๆ เท่านั้น เมอร์ฟีพาเธอไปเจอเพื่อน เธอเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่จะทำให้เพื่อนผู้ชายอิจฉากันถ้วนหน้า...

เขาถามคำถามกับเธอหลังจากคบหากันได้ 6 ปีและกำลังมีลูกสาวกับลูกชาย คู่รักคู่นี้เป็นที่รู้จักดีเรื่องการเก็บเรื่องต่าง ๆ ไว้เป็นส่วนตัว แต่สิ่งหนึ่งที่แน่ใจได้เลยก็คือการขอแต่งงานจะต้องน่าประทับใจเท่า ๆ กับความรักและการเคารพกันของพวกเขาแน่นอน

พวกเขาเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม

เมอร์ฟีกับคู่หมั้นของเขามีหลายอย่างที่เหมือนกัน และงานการกุศลก็เป็นหนึ่งในนั้น ขณะที่เมอร์ฟีได้มีส่วนร่วมกับการกุศลและโครงการต่าง ๆ หลากหลาย อย่างเช่นการบริจาคเงินให้กับกองทุนสุขภาพของผู้ป่วยโรคเอดส์ ศูนย์มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ (Martin Luther King, Jr.) และกองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้หยุดงานของรางวัลของสมาคมนักแสดงภาพยนตร์และโทรทัศน์ บุตเชอร์เองก็ชอบให้เวลาและเงินกับองค์กรการกุศลเช่นเดียวกัน

คนสวยชาวออสเตรเลียท่านนี้มุ่งมั่นกับการสร้างบ้านกับโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติ (Habitat for Humanity) มาก เธอเริ่มเส้นทางการกุศลของเธอจากการเข้าร่วมโครงการกีฬาสำหรับเด็กที่มีความไม่ปกติทางร่างกายและจิต จากนั้นก็เป็นบ้านพักคนชรา รวมถึงงานอาสาที่ศูนย์พักพิงคนไร้บ้านด้วย เธอเป็นผู้ให้ตัวจริง อย่างที่เธอเคยพูดครั้งหนึ่งว่า “ฉันอยากทำการกุศลอยู่ตลอดค่ะ ฉันเป็นคนใส่ใจคนมาก ๆ ฉันชอบดูแลคนอื่น”

พวกเขาเข้าใจศิลปะของการมีครอบครัวร่วมกันอย่างถ่องแท้

เมื่อคู่รักนี้เริ่มคบหากัน เมอร์ฟีก็เป็นพ่อของลูก 8 คนจากความสัมพันธ์ครั้งก่อน ๆ ไปแล้ว หลังจากให้กำเนิดลูกสาวของพวกเขาในปี 2016 และลูกชายในปี 2019 เมอร์ฟีก็ได้เป็นคุณพ่อลูก 10 พอดี และลูก ๆ ของเขาก็มีอายุตั้งแต่ 2 ขวบไปจนถึง 31 ปี เลยทีเดียว

เมอร์ฟีเขาภูมิใจในลูก ๆ และครอบครัวของเขามาก และเขาก็ได้แบ่งปันความเห็นว่า “ลูก ๆ ผมคือส่วนที่สว่างสไวที่สุดในชีวิตของผม [...] โลกของผมหมุนรอบพวกเขา” และเขายังกล่าวอีกว่า “ผมโชคดีมากเรื่องลูก ๆ ไม่มีใครทำตัวไม่ดีเลย ทุกคนเป็นคนดีใช้ได้กันทั้งหมด”

ในอีกทางหนึ่ง บุตเชอร์ก็สามารถที่จะทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้แม้ว่าจะมีทั้งภรรยาเก่า แฟนเก่า และลูก ๆ ของพวกเธอก็ตาม เธอพิสูจน์ว่าเธอเป็นแม่และแม่เลี้ยงที่ให้ความรักกับทุกคนได้ และเธอกับอนาคตสามีก็ได้เข้าใจศิลปะของการมีครอบครัวร่วมกันอย่างถ่องแท้แล้วจริง ๆ

ในความเห็นของคุณ อะไรที่ทำให้ครอบครัวเมอร์ฟีเป็นครอบครัวผสมที่มีความสุข ? และถ้าเป็นคุณ คุณจะให้ครอบครัวของคุณอยู่ใกล้ ๆ กันไหม ? เราอยากรู้ความเห็นของคุณในคอมเมนต์จัง !