10 สิ่งแปลกประหลาดเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ของคนเยอรมันที่จะทำให้ผู้มาเยือนถึงกับตะลึง
การมาเยือนประเทศเยอรมนีในฐานะนักท่องเที่ยวและสังเกตเห็นความแปลกบางอย่างนับว่าเป็นเรื่องนึง (เช่น พวกเขาไม่สวมชุดว่ายน้ำในบ่ออาบน้ำสาธารณะและห้องล็อกเกอร์ที่นั่นก็ไม่แบ่งแยกชายหญิง) แต่มันคืออีกเรื่องนึงเมื่อคุณอาศัยอยู่ในประเทศนี้มาซักระยะนึงแล้ว และได้เรียนรู้ลักษณะเฉพาะของคนเยอรมันในชีวิตประจำวันของพวกเขา
ที่ชีวิตสดใส พวกเราได้เข้าไปส่องดูบล็อกของบรรดาคนที่เคยย้ายไปอยู่เยอรมัน ซึ่งปรากฎว่าพวกเขานั้นมีความแปลกประหลาดอยู่บ้างนิดหน่อยเลยล่ะ
1. ชักโครกในอพาร์ตเมนต์ที่เยอรมันหลายแห่งสร้างติดอยู่ในผนัง
ห้องน้ำในเยอรมันน้อยแห่งมากที่มีโถชักโครกแบบธรรมดา เพราะที่เยอรมันถือเป็นเรื่องปกติที่จะติดตั้งโถชักโครกแบบมีถังเก็บน้ำซ่อนอยู่ด้านใน และตัวของชักโครกเองก็ติดตั้งเข้ากับผนังโดยตรง ทำให้มีพื้นที่ว่างเยอะมากอยู่ใต้นั้น อย่างแรกเลยก็คือช่วยประหยัดพื้นที่ ส่วนอย่างที่สองคือทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น
โดยปกติแล้วจะมีปุ่มกดน้ำ 2 ปุ่ม คือปุ่มใหญ่และเล็ก ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ทำขึ้นเพื่อประหยัดน้ำ
2. พวกเขามักจะมีหน้าต่างอยู่ในห้องน้ำ
อพาร์ตเมนต์และบ้านเรือนในเยอรมันส่วนใหญ่ไม่มีเครื่องปรับอากาศหรือแม้แต่ตัวระบายอากาศ ถึงแม้อาคารสมัยใหม่มักจะมีตัวระบายอากาศแล้วก็ตาม แต่ชาวเยอรมันก็ระบายอากาศอพาร์ตเมนต์ของพวกเขาด้วยการเปิดหน้าต่าง
ห้องน้ำก็ไม่มีระบบระบายอากาศ ดังนั้นจึงมีหน้าต่างเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อราขึ้นในห้องน้ำ
3. ประตูบ้านหลายหลังสามารถล็อคจากด้านในด้วยการใช้กุญแจเท่านั้น
ประตูหลักในบ้านของคนเยอรมันเป็นการสำรวจอันแท้จริงสำหรับผู้ที่เพิ่งมาอยู่ เพราะหากคุณออกไปข้างนอกแล้วกระแทกประตูปิด คุณจะไม่สามารถเปิดกลับเข้าไปใหม่ได้หากไม่มีกุญแจ เพราะปกติแล้วจะไม่มีที่จับตรงด้านหลังของประตูให้หมุนได้
เมื่อคุณเข้าไปในบ้าน คุณสามารถล็อคและเปิดประตูจากด้านในด้วยกุญแจเท่านั้น เพราะไม่มีสลักที่คุณสามารถหมุนได้
4. ตู้เย็นขนาดมาตรฐานที่เยอรมันมีขนาดเล็กกว่าตู้เย็นของเรามาก
ตู้เย็นขนาดเล็กของคนเยอรมันพร้อมช่องแช่แข็งเล็ก ๆ เป็นสิ่งที่น่าตกใจสำหรับนักท่องเที่ยวจริง ๆ เลยก็ว่าได้
คนเยอรมันชอบที่จะสร้างตู้เย็นรวมไว้ในชุดห้องครัวของพวกเขา หรือที่เรียกว่า “ชุดบิวท์อิน” โดยปกติพวกมันจะปลอมตัวเป็นตู้เก็บของธรรมดา ๆ ดังนั้นเมื่อผู้อยู่อาศัยในประเทศอื่นมาที่เยอรมัน สิ่งแรกที่พวกเขาคิดคือที่นี่ไม่มีตู้เย็นเลย
5. พวกเขาใช้เตียงนอน 2 หลังแทนการใช้เตียงขนาดคิงไซส์
ชาวต่างชาติที่ย้ายไปอยู่เยอรมันรู้สึกขุ่นเคืองกับระบบเตียงนอนของท้องถิ่นในตอนแรก แต่แล้วพวกเขาก็ตกหลุมรักมัน ประเด็นก็คือมีเตียงนอน 2 หลังวางเคียงข้างกันแทนที่จะเป็นเตียงขนาดคิงไซส์ แต่ทว่าสิ่งนี้ช่วยให้แต่ละคู่รักนอนหลับได้ตามแบบที่ตัวเองต้องการ อีกทั้งคนเยอรมันยังใช้ผ้าห่มผืนเล็ก 2 ผืนแทนผ้าห่มผืนใหญ่
คนเยอรมันนอนบนหมอนสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่แทนที่จะเป็นหมอนสี่เหลี่ยมทั่ว ๆ ไป โดยหมอนพวกนี้ถูกกล่าวขานว่านิ่มจนเกินไป เพราะทันทีที่คุณวางหัวลงบนหมอน หมอนก็จะลู่ตกลงมาในทันที แล้วนี่ก็เป็นธรรมเนียมมานานหลายปี
6. เมื่อคนเยอรมันย้ายไปอพาร์ตเมนต์แห่งอื่น พวกเขาขนชุดเครื่องครัวไปด้วย
อาจฟังดูแปลกก็จริง แต่อพาร์ตเมนต์และบ้านส่วนใหญ่ที่เยอรมันปล่อยให้เช่าโดยไม่มีห้องครัว ซึ่งคุณจะพบแต่ผนังว่างเปล่าในห้องครัวเท่านั้น แล้วด้วยเหตุนี้เอง เมื่อผู้คนย้ายออกไป พวกเขาจะขนข้าวของเครื่องใช้และเฟอร์นิเจอร์ในครัวทั้งหมดไปที่บ้านใหม่ด้วย
สาเหตุหนึ่งมาจากทัศนคติที่มีต่อค่าเช่าที่แตกต่างกันโดยพื้นฐาน โดยที่เยอรมันอพาร์ตเมนต์และบ้านเช่าถูกเช่าอยู่เป็นเวลานานหลายปี และบางครั้งก็อาจนานถึงหลายสิบปี นั่นจึงเป็นเหตุผลที่การซื้อชุดเครื่องครัวและเครื่องใช้ที่จำเป็นทั้งหมดโดยเจ้าของบ้านจึงไม่ได้กำไร ในขณะที่ผู้เช่ากลับเต็มใจที่จะลงทุนในการปรับปรุงบ้านโดยคิดว่าพวกมันเกือบเป็นทรัพย์สินของตนเอง
7. ด้านนอกหน้าต่างแทบทุกบานมีมู่ลี่
มู่ลี่กลางแจ้งของคนเยอรมันมักทำจากโลหะ อาจเป็นแบบอัตโนมัติหรือแบบแมนนวล (หากต้องการเปิดและปิด คุณจะต้องดึงสายเอง) มู่ลี่ไม่ได้อยู่ภายในอพาร์ตเมนต์อย่างที่เราคุ้นเคยกัน แต่พวกมันอยู่ข้างนอก ซึ่งตามหลักแล้วจะติดตั้งเข้ากับผนังด้านนอกของบ้านโดยตรง
8. กล่องจดหมายและอินเตอร์คอมภายในบ้านของที่นี่ดูต่างออกไป
ในบ้านของคนเยอรมันข้อมูลส่วนตัวของผู้เช่าสามารถเห็นได้ในกล่องจดหมาย ในขณะที่อินเตอร์คอมก็มีแผ่นป้ายที่มีชื่อของคนที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ระบุไว้
9. คนเยอรมันไม่เก็บไข่และนมไว้ในตู้เย็น
ไข่ในเยอรมันจะไม่ผ่านกรรมวิธีทางเคมีก่อนส่งไปขายตามร้านค้า ดังนั้นพวกมันจึงยังคงสภาพเปลือกตามธรรมชาติเอาไว้ ในแง่นึงคือพวกมันอาจจะยังสกปรกอยู่ แต่ในทางกลับกัน เนื่องจากไข่ไม่มีสารเคมี จึงสามารถเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องได้ อย่างไรก็ตามไข่เหล่านี้จะมีอายุการเก็บรักษาที่สั้นลง คือเพียง 1-2 สัปดาห์เท่านั้น
สำหรับนมนั้นเกือบทั้งหมดเป็นนมยูเอชที (นมถูกทำให้ร้อนที่อุณหภูมิสูงกว่าการพาสเจอร์ไรส์ ซึ่งรับประกันได้ว่าไม่มีแบคทีเรียหลงเหลืออยู่ภายใน) สิ่งนี้ช่วยให้สามารถเก็บนมได้โดยไม่ต้องใช้ตู้เย็นและมีอายุนานขึ้น (ประมาณ 3 เดือน)
นอกจากนี้ขนาดของตู้เย็นของคนเยอรมันทั่วไปก็ไม่ปล่อยให้ใครสามารถเก็บอาหารเอาไว้ข้างในได้มากนัก
10. ชีวิตในอพาร์ตเมนต์และบ้านที่เยอรมันหยุดในวันอาทิตย์
ในเยอรมันร้านค้าเกือบทั้งหมดปิดทำการในวันอาทิตย์ (มีข้อยกเว้นที่หาได้ยาก) และผู้คนพยายามทำเสียงดังให้น้อยที่สุด ดังนั้นหากคุณเปิดเพลงดังหรือใช้เครื่องตัดหญ้า เพื่อนบ้านข้างบ้านผู้โกรธเคืองจากเสียงดังก็สามารถฟ้องร้องคุณได้
โดยทั่วไปแล้วผู้คนต้องเก็บเสียงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมตลอดทั้งวัน แต่สถานที่บางแห่งอาจมี “ชั่วโมงที่เงียบ” ซึ่งต้องการให้ผู้คนเงียบตลอดทั้งคืน แล้วในหลาย ๆ แห่ง “เวลาที่เงียบ” คือระหว่างสองทุ่มถึงเจ็ดโมงเช้า (20:00 — 07.00 น.) วันจันทร์-วันเสาร์ และตลอดทั้งวันในวันอาทิตย์กับวันหยุดนักขัตฤกษ์ อีกทั้งบางพื้นที่อย่างเช่นฮัมบูร์ก ก็มีชั่วโมงตอนกลางวันที่เงียบอยู่ระหว่าง 13.00-15.00 น. เช่นกัน
คุณเคยไปเยอรมันกันบ้างมั้ย ? แล้วคุณชอบไลฟ์สไตล์ของพวกเขาหรือเปล่า ? บอกความคิดเห็นของคุณลงในคอมเมนต์ด้านล่างกันได้เลย