ขนบธรรมเนียม 14 อย่างจากประเทศต่าง ๆ ที่ทำให้ทั้งโลกต้องประหลาดใจ
เราทุกคนต้องเคยมีประสบการณ์กับความช็อกต่างวัฒนธรรมสักครั้งในชีวิต อย่างเช่นเมื่อเดินทางไปอียิปต์ เราอาจสับสนที่พบว่าเจ้าสาวที่ถูกเพื่อนหยิกก่อนแต่งงานจะถือว่านำโชคดีมาให้ แต่อย่างไรขนบธรรมเนียมทุกแบบก็สอนอะไรบางอย่างที่มีค่าเกี่ยวกับประเทศและวัฒนธรรมนั้น ๆ แก่เราเสมอ
ชีวิตสดใสขอแนะนำขนบธรรมเนียม 14 อย่างที่คุณจะต้องประหลาดใจ ซึ่งยังคงมีอยู่ในทุกวันนี้ และทำให้เราต่างสับสนงงงวยกัน
1. อินเดียไม่มีกระดาษทิชชู่
นักเดินทางจำนวนมากจะต้องประหลาดใจที่พบว่าในอินเดียหากระดาษทิชชู่ในห้องน้ำได้ยากมาก ที่จริงแล้วน้ำในถังเล็ก ๆ ด้านข้างชักโครกเอาไว้ใช้เพื่อล้างมือหลังทำธุระ การใช้กระดาษทิชชู่เป็นความคิดที่ไม่ดี เพราะมันอาจไปอุดตันและสร้างความสิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็นได้
2. อินโดนีเซียไม่ใช้ห้องน้ำหลังการแต่งงาน
ในชุมชนเมืองติดง ประเทศอินโดนีเซีย คู่บ่าวสาวไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าห้องน้ำนาน 3 วันหลังการแต่งงาน ถ้าพวกเขาเข้า คนเชื่อกันว่าอาจมีโชคร้ายในชีวิตคู่ได้ คู่บ่าวสาวจะถูกสมาชิกในครอบครัวจับตามอง เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำลายขนบธรรมเนียม และระหว่างนั้นก็ต้องรับน้ำและอาหารเพียงเล็กน้อย
3. ชาวมาไซทักทายกันและกันด้วยการถ่มน้ำลาย
ขณะที่การถ่มน้ำลายถือว่าเป็นเรื่องหยาบคายในหลาย ๆ วัฒนธรรม ในเผ่ามาไซที่เคนย่ามันกลับเป็นวิธีการเฉพาะในการทักทายและแสดงความเคารพ สมาชิกของชนเผ่าจะถ่มน้ำลายใส่มือก่อนจับมือกัน และพวกเขาก็ทำอย่างนั้นกับเด็กแรกเกิดหรือเจ้าสาว เพื่ออวยพรให้พวกเขาโชคดีด้วย
4. ในเม็กซิโก ห้ามให้ดอกกุหลาบสีเหลืองเป็นของขวัญ
ดอกกุหลาบเป็นของขวัญที่ยอดเยี่ยมในการแสดงความรู้สึก ไม่ว่าที่ไหนบนโลก อย่างไรก็ตาม เวลาเลือกสี บางประเทศจะมีความหมายของสีเป็นพิเศษ ในเม็กซิโก ควรเลือกกุหลาบสีแดงไว้ก่อนดีกว่า ไม่เลือกกุหลาบสีเหลือง ซึ่งหมายถึงความตายในวัฒนธรรมของชาวเม็กซิโก
5. เยอรมนีทุบจานให้แตกก่อนการแต่งงาน
ไม่กี่สัปดาห์ก่อนการแต่งงานของชาวเยอรมัน จะเป็นเวลาของประเพณีที่รู้จักกันในชื่อ โพลเทอราเบนด์ (Polterabend) ซึ่งแขกของคู่บ่าวสาวจะนำภาชนะมาทุบให้แตกที่บ้านของคู่แต่งงาน หลังจากเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเก็บกวาดทำความสะอาดแล้ว เชื่อว่าสิ่งนี้จะนำโชคดีและกระตุ้นความสามัคคีในชีวิตคู่ที่จะมาถึงได้
6. เดนมาร์กจะปาผงอบเชยใส่คนโสด
เป็นประเพณีเก่าแก่จากศตวรรษที่ 16 ของชาวเดนมาร์กซึ่งยังคงปฏิบัติกันในวันนี้ ถ้าใครสักคนยังโสดจนถึงวันเกิดของพวกเขา เพื่อน ๆ จะอาบร่างของพวกเขาด้วยผงอบเชย ประเพณีนี้เกิดจากการที่พ่อค้าเครื่องเทศชาวเดนมาร์กต้องเดินทางไปทั่วทวีปบ่อยครั้ง จนไม่มีเวลาสำหรับการแต่งงานเลย
7. เวเนซุเอลาจะมาถึงสายตลอด
ไม่ว่าคุณจะไปร่วมงาน ไปประชุม หรือปาร์ตี้ในเวเนซุเอลา ผู้คนจะมาสายกว่าที่วางแผนไว้เป็นปกติ ชาวเวเนซุเอลารู้สึกดีกับจังหวะชีวิตที่ผ่อนคลาย ทั้งในเรื่องธุรกิจและในงานพิเศษใหญ่ ๆ ทางสังคม การมาถึงสายโดยทั่วไปหมายถึงการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่
8. ถูกมดกระสุนกัดในบราซิล
ในชนเผ่าเซเทเร่มาเว่ (Sateré-Mawé) ของบราซิล เมื่อเด็กชายเติบโตถึงวัยผู้ใหญ่ พวกเขาต้องเต้นตามประเพณีโดยสวมถุงมือที่ใส่มดกระสุนไว้ พิธีกรรมนี้คือความท้าทายอย่างยิ่ง เพราะมดกระสุนได้ชื่อว่าเป็นแมลงที่กัดเจ็บที่สุดในโลก
9. ที่วานูอาตูกระโดดบันจี้จัมพ์กันเพื่อให้เก็บเกี่ยวได้ดี
บนเกาะเพนเทอคอสต์ในวานูอาตู มีพิธีกรรมที่ดำเนินการโดยผู้ชาย ซึ่งกล่าวกันว่าเพื่อให้มั่นใจว่าจะเก็บเกี่ยวพืชผลได้ดี ด้วยการกระโดดลงมาจากหอไม้สูงโดยไม่มีอะไรเลย นอกจากเถาวัลย์ที่พันรอบข้อเท้า พวกเขาเชื่อกันว่าการดิ่งลงมาได้ดีจะพิสูจน์สุขภาพกายของคนนั้น ๆ และนำโชคดีมาให้ในฤดูกาลเก็บเกี่ยว
10. ที่ฝรั่งเศส คนโสดจะใส่หมวกหน้าตาตลก ๆ
ในฝรั่งเศส วันที่ 25 พฤศจิกายนเป็นวันเฉลิมฉลองนักบุญแคเธอรีน (Sainte Catherine) หญิงสาวเยาว์วัยที่ไม่ได้แต่งงาน ในวันนี้ผู้หญิงที่อายุ 25 ปีจะสวมหมวกสีเขียวและสีเหลือง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ถึงความเฉลียวฉลาดและมีศรัทธา ขณะที่สาว “แคเธอรีน” (Catherinettes) บางคนฉลองวันนี้เพื่อหวังว่าจะได้แต่งงานในเร็ววัน บางคนก็ภูมิใจที่ยังคงได้ใช้ชีวิตโสดต่อไป
11. ที่แอฟริกาใต้จะโยนเครื่องเรือนของพวกเขาออกมาทางหน้าต่าง
ในวันก่อนขึ้นปีใหม่ หลาย ๆ ประเทศจะเฉลิมฉลองด้วยดอกไม้ไฟ ขณะที่ในแอฟริกาใต้จะมีธรรมเนียมที่ต่างออกไป ซึ่งยังคงปฏิบัติกันนับตั้งแต่สิ้นสุดยุคแบ่งแยกการปกครองด้วยสีผิว นั่นคือเพื่อฉลองปีใหม่ ผู้คนจะโยนเครื่องเรือนของพวกเขาทางหน้าต่าง ลงมายังถนนด้านล่าง ประเพณีนี้ต้องมีตำรวจคอยจับตาดู เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
12. ที่ฟินแลนด์ประชุมทางธุรกิจในซาวน่า
ซาวน่าเป็นส่วนสำคัญมากในวัฒนธรรมชาวฟินแลนด์ ซึ่งไม่ใช่แค่เพราะเป็นสถานที่ให้กำเนิดบุตรตามประวัติศาสตร์ แต่ยังเป็นสถานที่ในการพูดคุยเจรจาเรื่องทางธุรกิจ หรือแม้แต่เรื่องทางการเมือง ความจริงแล้วก็เป็นธรรมเนียมทั่วไปในโลกธุรกิจ โดยให้ผู้ร่วมงานหรือคู่ค้าทางธุรกิจไปซาวน่าด้วยกัน เพื่อพูดคุยกันในสภาพที่ผ่อนคลายขึ้น
13. ที่จีนจะร้องไห้ก่อนการแต่งงาน
ขณะที่การแต่งงานในหลาย ๆ วัฒนธรรมเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ในประเพณีการแต่งงานของประเทศจีน เจ้าสาวจะร้องไห้ล่วงหน้าเป็นเดือนก่อนการแต่งงาน หลังจากนั้นไม่กี่วัน แม่ของเธอและสมาชิกในครอบครัวคนอื่น ๆ ก็จะมาร่วมด้วย เพื่อแสดงความยินดีในชีวิตแต่งงานในอนาคต
14. ที่ตะวันออกกลาง ห้ามใช้มือซ้ายของคุณ
ในกลุ่มประเทศแถบตะวันออกกลาง การทักทายใครสักคนหรือกินอาหาร หากใช้มือซ้ายจะนับว่าเสียมารยาทและไม่ถูกสุขอนามัย เพราะมือซ้ายใช้เพื่อทำความสะอาดหลังเข้าห้องน้ำ ซึ่งถูกมองว่าเป็นมือที่สกปรก และจะไม่ใช้ในการกินอาหารมื้อค่ำหรือทักทายเพื่อนเด็ดขาด
ขนบธรรมเนียมไหนที่ทำให้คุณประหลาดใจที่สุด ? ประเพณีไหนในประเทศของคุณที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์บ้าง ? แบ่งปันเรื่องราวของคุณในช่องคอมเมนต์หน่อยนะ!
หมายเหตุ: บทความนี้อัปเดตในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2021 เพื่อตรวจทานแหล่งข้อมูลและความแม่นยำของข้อเท็จจริงให้ถูกต้อง