ศิลปินสร้างรอยสักอันเปล่งประกายที่สามารถเป็นอัญมณีอยู่บนร่างกายของผู้คนได้

เมื่อเราตัดสินใจที่จะสัก เรามองว่าหมึกบนร่างกายของเราเป็นศิลปะหรือคุณลักษณะที่ทันสมัยรูปแบบหนึ่ง อย่างไรก็ตามในปัจจุบันการสักมีความหมายในทางปฏิบัติมากกว่า เพราะการสักสามารถช่วยให้ผู้คนรับมือกับความโศกเศร้าและความสูญเสียได้ อีกทั้งยังเป็นการให้เกียรติคนที่พวกเขารักที่อยู่ในความทรงจำ โดยจิตแพทย์อ้างว่าพวกเขาสามารถเข้าใจบุคลิกภาพของผู้ป่วยได้ดีขึ้นในตอนที่พูดคุยเรื่องรอยสักของพวกเขา

ที่ชีวิตสดใส พวกเราได้ค้นพบช่างสักที่ได้เปลี่ยนน้ำหมึกเหล่านี้ให้กลายเป็นเครื่องประดับร่างกาย แล้วเนื่องด้วยฝีมือที่เชี่ยวชาญของเธอ จึงทำให้รอยสักนั้นดูหรูหราและเจิดจรัสมาก ๆ จนพวกเราอดไม่ได้ที่จะร้องว้าวออกมา และก็อยากพาคุณไปชมผลงานของเธอด้วยกัน

ดูเหมือนว่าสไตล์ของศิลปินจะอยู่ในยีนของเธอ

อันย่า ทีซีน่า (Anya Tsyna) เกิดและเติบโตในรัสเซีย แม้ว่าเธอจะไม่แน่ใจว่าตัวเธอมีเชื้อสายสลาฟ (Slavic) หรือไม่ก็ตาม แต่เธอก็ได้เปิดเผยในการให้สัมภาษณ์กับแทททูโด้ (Tattoodo) ว่าตัวเธอนั้นสืบทอดยีนมาจากชาวตาตาร์ (Tatar) และชาวมองโกล (Mongol) และสารภาพว่าสิ่งเหล่านี้มีผลกระทบต่อรูปแบบการสักของเธอเป็นอย่างมาก

วัยเด็กของเธอช่างวุ่นวายและแปลกประหลาด เนื่องจากเธอต้องต่อสู้กับความวิตกกังวลตั้งแต่ยังเด็ก และหลังจากที่เธอไปพบนักบำบัด เธอก็ได้เรียนรู้วิธีใช้ความสามารถทางศิลปะของเธอมาช่วยในการบำบัด

อันย่าต้องการให้งานศิลปะของเธอเจิดจ้าอยู่เสมอ

ในการให้สัมภาษณ์กับแทททูโด้ (Tattoodo) ศิลปินสาวได้สารภาพว่าเธอเห็นอัจฉริยะมากมายที่กลายเป็นคนที่ทำร้ายคนอื่น ซึ่งความกังวลหลัก ๆ ของเธอก็คือแม้ว่าคุณจะเป็นคนมีพรสวรรค์มากแค่ไหน คุณก็ไม่สามารถทำสิ่งเลวร้ายกับคนอื่นได้ และพฤติกรรมของคุณถูกอธิบายด้วยความสามารถของคุณ อีกทั้งปรัชญาที่สำคัญของอันย่าก็คือการเปลี่ยนจุดอ่อนของเธอให้เป็นงานศิลปะอันหรูหรา

ศิลปินได้รับแรงบันดาลใจจากหลายแห่ง

ด้วยบุคลิกที่สร้างสรรค์และหลากหลายของเธอ อันย่าจึงเข้าถึงแฟชั่นทุกรูปแบบเป็นอย่างมาก ในขณะที่เธอถูกถามเกี่ยวกับที่มาของสไตล์รอยสักรูปเครื่องประดับอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ เธอก็ไม่ลังเลเลยที่จะกล่าวถึงโว้ก (Vogue) ว่าเป็นหนึ่งในแหล่งที่มาของแรงบันดาลใจมากมายของเธอ

แท้จริงแล้วทุกรอยสักที่เธอทำนั้นเป็นส่วนผสมของภาพวาดดินสอแบบวิชาการ วิสัยทัศน์ของเธอเกี่ยวกับเทพนิยายรัสเซีย ลวดลายที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเอเชียกลาง และแม้แต่ละครสัตว์โบราณจากทรานซิลเวเนีย

รอยสักแต่ละอันมีความหมายที่ทรงพลังและคุณค่าในตัวเอง

ศิลปินสาวเสนอแบบให้ลูกค้าแต่ละคนเป็นรายบุคคลไป บางครั้งภาพร่างของเธออาจเป็นรูปอัญมณีแค่เม็ดเดียว และสำหรับลูกค้าบางคนของเธอ มันก็เป็นเพียงเครื่องประดับที่สวยงามชิ้นนึงบนร่างกายของพวกเขา

แต่สำหรับคนอื่น ๆ อาจเป็นความทรงจำเกี่ยวกับคุณยายของพวกเขา และพวกเขาก็อยากจะอุทิศรอยสักรูปอัญมณีให้กับเธอ บางคนเห็นเพชรเม็ดงามในความฝันและตอนนี้ก็อยากได้รอยสักแบบนั้นเป๊ะ ๆ ซึ่งฟังดูแล้วอาจรู้สึกราวกับเป็นพรหมลิขิตสำหรับพวกเขาเลยทีเดียว และนี่ก็คือสิ่งที่อันย่าได้อธิบายเอาไว้ในบทสัมภาษณ์ของเธอ

ศิลปินมีข้อความพิเศษให้กับทุกคน

เมื่อถูกถามถึงคำแนะนำที่เธอจะแนะนำไม่ว่าใครก็ตาม อันย่าได้บอกว่าการขอความช่วยเหลือจากคนที่ใช่นับว่าเป็นเรื่องดีเสมอ สำหรับอันย่าแล้ว ดีม่า (Dima) สามีของเธอได้เห็นว่าตัวเธอนั้นรู้สึกทนทุกข์มากแค่ไหนกับงานของเธอ และเขาได้สนับสนุนให้เธอเปลี่ยนชีวิตของเธอไปโดยสิ้นเชิงและให้เริ่มต้นอาชีพช่างสัก

ศิลปินสาวเชื่อจริง ๆ ว่าความรักและการสนับสนุนจากคนสำคัญนั้นให้ผลอย่างน่ามหัศจรรย์ อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็นอัญมณีที่แท้จริงที่พิสูจน์ให้เห็นว่ามันมีค่ามากกว่าสิ่งใด ๆ ที่คนเราสามารถมีได้

สไตล์การสักแบบใดที่คุณชื่นชอบมากที่สุด ? แล้วคุณอยากลองมีรอยสักเป็นของตัวเองบ้างหรือเปล่า ?