14 เคล็ดลับในการตกแต่งบ้านที่ดูทันสมัย แต่จริง ๆ แล้วกลับเก่าสุด ๆ ไปเลย
ในโลกปัจจุบัน กระแสนิยมเปลี่ยนไปเร็วมาก เนื่องจากโซเชียล บล็อก นิตยสาร และโทรทัศน์ได้ทำให้สินค้าใหม่ ๆ กลายเป็นที่นิยมภายในวันเดียว จากนั้นก็หมดความน่าสนใจหลังจากผ่านไปสองสามเดือน โดยสิ่งนี้เกิดขึ้นกับหลายสิ่งหลายอย่างที่รวมไปถึงเทรนด์ในการออกแบบตกแต่งภายในด้วย ดังนั้นเพื่อที่จะรังสรรค์การตกแต่งภายในที่ดูสะดวกสบายและมีความดั้งเดิมที่คุณจะเพลิดเพลินไปกับมันแม้หลังจากที่ผ่านไปสองสามปี คุณก็ควรพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการใช้ทริคที่มากเกินไปเหล่านี้
ที่ชีวิตสดใส พวกเราได้พบเข้ากับความคิดที่ซ้ำซากจำเจบางอย่างที่ไม่สามารถทำอะไรได้ นอกเสียจากทำให้รู้สึกขัดตาก็เท่านั้น
การแต่งบ้านทั้งหลังในสไตล์เดียวกัน
เมื่อคุณพยายามตกแต่งอพาร์ตเมนต์ทั้งหมดของคุณด้วยการใช้ธีมเพียงธีมเดียวอย่างเข้มงวด เช่น สไตล์สแกนดิเนเวีย โบฮีเมียน หรือแนวมินิมอล คุณจะต้องเผชิญกับความยากลำบากหลายประการอย่างแน่นอน เพราะไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยที่จะเลือกเฟอร์นิเจอร์และของประดับตกแต่งโดยอิงจากกรอบที่ตายตัว อีกทั้งคุณจะทำยังไงกับของตกแต่งที่น่ารัก ๆ เหล่านี้กับการตกแต่งภายในที่ไม่เข้ากับสไตล์ที่คุณเลือก ? คุณจะโยนมันทิ้งหรือซ่อนพวกมันไว้ ?
การตัดสินใจเลือกสไตล์ใด ๆ ก็ตามจะตกยุคในไม่ช้าก็เร็ว หรือไม่เช่นนั้นแล้วคุณก็เบื่อมัน แล้วคุณก็จะต้องรีโนเวทบ้านของคุณใหม่อีกครั้ง การตกแต่งภายในเหล่านั้นดูดีในนิตยสารก็จริง แต่พวกมันกลับดูไม่สบายที่จะอยู่อาศัย สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่าคุณควรโยนธีมที่คุณชอบทิ้งไป ขอแค่คุณต้องจำไว้ว่าทุกอย่างอยู่ในความพอประมาณเป็นดี
ปฏิบัติตามกฎ 3 ตำแหน่งอยู่เสมอ
มีไอเดียที่ซ้ำซากมาก ๆ ที่บอกว่าหากคุณใช้สียอดนิยมในห้อง ก็ควรจะให้มันปรากฏอยู่ในตำแหน่ง 3 จุดที่ต่างกันออกไป ซึ่งมันเป็นคำแนะนำที่ค่อนข้างน่าขำเลยล่ะ ! เพราะการเน้นสีจะดีก็ต่อเมื่อพวกมันมีเอกลักษณ์ ไม่อย่างนั้นแล้วคุณจะเริ่มเวียนหัวเมื่อมองไปที่เบาะ พรม หรือภาพวาดที่มีสีเข้ากันไปทั้งหมด
สีจะเข้ามาครองห้องเมื่อมีมากเกินไป อย่างโซฟาสีน้ำเงินสดใสจะดูดีในยามที่มันเป็นสิ่งของชิ้นเดียวที่มีสีนี้ แล้วคุณก็ไม่จำเป็นต้องเลือกของตกแต่งชิ้นอื่น ๆ ให้เข้ากับเฉดสีนี้
การเลือกสีพาสเทลให้เข้ากับผนังของคุณ
มีความเชื่อทั่ว ๆ ไปว่าสีเข้มทำให้ห้องดูเล็กลง แต่นั่นก็ไม่ถูกต้องซะทีเดียว เพราะว่าสีเข้มสามารถเพิ่มความลึกให้กับพื้นที่ได้หากใช้อย่างถูกวิธี โดยคุณควรตกแต่งผนังห้องด้วยของตกแต่งที่มีสีสว่าง เพราะไม่เช่นนั้นแล้วผนังสีเข้มโล่ง ๆ จะไม่ทำให้ห้องของคุณดูใหญ่ขึ้น
คิดว่าจำเป็นต้องใช้ม่าน
มันคืออุปกรณ์ที่ดีในการปกป้องบ้านของคุณจากสายตาของคนแปลกหน้าด้านนอก แต่ถ้าคุณมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามอยู่นอกหน้าต่างและคนอื่น ๆ ก็ไม่สามารถมองเข้ามาข้างในห้องได้ คุณก็สามารถกำจัดอุปกรณ์เสริมนี้ทิ้งไปได้อย่างง่ายดาย แล้ววิธีนี้จะทำให้ห้องของคุณดูกว้างขวางและเต็มไปด้วยแสงสว่าง
คุณสามารถเปลี่ยนจากผ้าม่านไปเป็นมู่ลี่ไม้ได้ซึ่งพวกมันจะไม่ตกยุคในเร็ว ๆ นี้ อีกทั้งยังไม่เหมือนกับผ้าม่าน คือคุณไม่จำเป็นต้องซักหรือรีดพวกมัน
จับคู่วอลเปเปอร์
วอลล์เปเปอร์ที่มีลวดลายสีเข้มตรงด้านล่างและด้านบนมีสีที่อ่อน ๆ ได้ตกยุคไปนานแล้ว แต่วอลล์เปเปอร์ที่จับคู่ได้เหมาะสม บวกกับการผสมผสานระหว่างลวดลายและสีต่าง ๆ สามารถสร้างบรรยากาศที่สดใสและมีเอกลักษณ์ได้ โดยสิ่งที่สำคัญก็คือการหาสมดุลระหว่างองค์ประกอบต่าง ๆ
การซื้อชุดเฟอร์นิเจอร์
ในอีกด้านหนึ่งของชุดเฟอร์นิเจอร์คือวิธีแก้ปัญหาที่ง่ายและรวดเร็วสำหรับการตกแต่งห้อง แต่ในทางกลับกันมันกลับดูน่าเบื่อและบางครั้งก็มีราคาค่อนข้างแพง คุณสามารถจัดชุดเฟอร์นิเจอร์ในแบบของคุณเองได้ โดยเลือกองค์ประกอบที่มีสไตล์ต่างกัน
หากคุณมีชุดเฟอร์นิเจอร์ในบ้านอยู่แล้วและก็ทำให้คุณเบื่อทุกครั้งที่มองเห็นพวกมัน ขออย่าได้ทิ้งมัน แต่ให้ลองแยกชิ้นส่วนและย้ายไปยังห้องต่าง ๆ เท่านี้ห้องของคุณก็จะดูดีมากยิ่งขึ้น
การจับคู่เฟอร์นิเจอร์
โต๊ะข้างเตียง แจกันบนลิ้นชัก หรือเก้าอี้แบบเดียวกัน ทั้งหมดนี้ทำให้ห้องดูน่าเบื่อได้ แต่ว่าจะดูมีแรงบันดาลใจและน่าสนใจมากขึ้นเมื่อชิ้นส่วนต่าง ๆ เป็นส่วนเสริมที่ประสานเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ อย่างเช่นคุณสามารถจับคู่เก้าอี้หรือม้านั่งให้เข้ากับโต๊ะข้างเตียงได้
ความได้สัดส่วนกันของการตกแต่งดูดีในภาพถ่าย แต่ทว่าในชีวิตจริงมันกลับดูน่าเบื่อ คุณสามารถเชื่อมองค์ประกอบที่ไม่เข้ากันได้ด้วยการใช้พวกผ้าหรือของตกแต่งชิ้นเล็กอย่างเช่นดอกไม้ได้
การใช้เฉดสีที่สว่างกว่ากับเพดานของคุณ
เพดานสีขาวเป็นไอเดียที่ซ้ำซากจำเจ โดยพื้นที่ตรงส่วนนี้ถูกเรียกว่า “กำแพงที่ห้า” อย่างมีเหตุผล เนื่องด้วยวอลเปเปอร์หรือสีเพดานที่น่าเบื่อก็สามารถกลายเป็นการตกแต่งที่ดูสดใสได้ โดยการใช้โทนสีสว่างของห้องจะทำให้พื้นที่ดูใหญ่ขึ้น
จับคู่ทุกอย่างเท่าที่คุณทำได้
เมื่อเฟอร์นิเจอร์ ภาพวาด ภาพถ่าย และอุปกรณ์ตกแต่งอื่น ๆ ถูกคัดเลือกมาโดยเฉพาะเพื่อให้เข้าคู่กัน ไม่ใช่เพราะว่ามันเป็นที่ชื่นชอบ แต่ยังทำให้รู้สึกน่าเบื่อ โดยคุณสามารถเจอตัวอย่างองค์ประกอบห้องที่เข้ากันอย่างลงตัวในอินเทอร์เน็ตหรือในหนังและนิตยสารมากมาย การตกแต่งภายในแบบนี้ดูเหมือนจะง่ายที่สุดก็จริง แต่ก็ดูน่าเบื่อที่สุดในเวลาเดียวกัน
แทนที่จะซื้อของตกแต่งห้องจากร้านเดียวกัน ให้ตระเวนไปรอบ ๆ และมองหาสิ่งของในที่ต่าง ๆ กันจะคุ้มค่ากว่า เพราะไม่เพียงแต่เจอราคาที่ถูกกว่าเท่านั้น แต่ยังดูน่าสนใจกว่าด้วย และเมื่อคุณตกแต่งห้องอพาร์ตเมนท์ด้วยวิธีนี้ ห้องก็จะดูอบอุ่นและดูแปลกตา
คำคมและป้ายบนผนัง
ไม่ควรตกแต่งบ้านด้วยโปสเตอร์สีสันสดใสที่มีคำพูดหรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ คุณสามารถพบเห็นภาพกราฟิกดังกล่าวได้ตามบาร์หรือโรงแรม และภาพกราฟิกก็นิยมใช้กันเกร่อ ยิ่งไปกว่านั้นพวกคำพูดเหล่านี้หลาย ๆ ประโยคเป็นคำพูดที่ล้าสมัย และคุณก็จะต้องมองเห็นมันทุกวัน ดังนั้นการหาซื้อภาพวาดหรือภาพถ่ายสวย ๆ มาตกแต่งจึงนับว่าเป็นไอเดียที่ดีกว่า
ใช้เฉพาะสีโทนกลาง ๆ
สีโทนกลาง ๆ เช่น เบจ น้ำตาล เทา และขาว ได้รับความนิยมมานานหลายปี แต่ดูเหมือนว่าสีเหล่านี้ค่อย ๆ กลายเป็นไอเดียที่ซ้ำซากจำเจอย่างแน่นอน เพราะการใช้เฉพาะสีเหล่านี้ในการตกแต่งภายในของคุณจะทำให้คุณรู้สึกเบื่อ ดังนั้นในการทำให้บ้านของคุณดูสว่างขึ้น ให้เพิ่มองค์ประกอบในโทนสีน้ำเงินเข้ม สีเขียว หรือสีชมพู โดยสิ่งนี้ไม่เพียงใช้กับของตกแต่งบ้านเท่านั้น แต่ยังใช้กับเฟอร์นิเจอร์ได้อีกด้วย
สติ๊กเกอร์ติดผนัง
คุณสามารถหามันเจอได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ห้องพักโรงแรม หรือที่บ้าน ซึ่งองค์ประกอบนี้ดูดีในห้องของเด็ก ๆ แต่ไม่ดีพอสำหรับห้องนั่งเล่นอย่างแน่นอน แม้ว่าจะมีสติ๊กเกอร์ให้เลือกมากมาย แต่พวกมันก็กำลังตกยุคไปอย่างรวดเร็ว
ส่วนวอลเปเปอร์เลียนแบบไม้ ลวดลายนี้ดูดีสำหรับการตกแต่งภายใน แต่ก็นิยมใช้กันเกร่อ
ใช้ของตกแต่งที่ฮิตมาก ๆ
น่าเสียดายที่การออกแบบที่ไม่ธรรมดาบางอย่างกลายเป็นกระแสนิยมได้อย่างรวดเร็วจนคุณเริ่มเห็นมันเกือบทุกหนทุกแห่ง แต่ทว่าองค์ประกอบที่ดูดีก็กลายเป็นไอเดียซ้ำซากที่ดูน่าเบื่อ โดยสิ่งนี้เกิดขึ้นกับกระจกรูปดวงอาทิตย์ หลอดไฟสไตล์เอดิสัน (Edison) หมอนอิง และหัวเตียงแบบหุ้มเบาะ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องโยนของเหล่านี้ทิ้งไปเสียหมดหากพวกมันดูล้าสมัย เพราะเทรนด์การออกแบบมักจะวนกลับมาอีก เพียงแค่ซื้อของสไตล์ดั้งเดิมที่เข้ากับรสนิยมของคุณ โดยไม่ใช่ซื้อตามกระแสนิยมก็พอ
ทำตามกฎในการตกแต่งห้อง
การปฏิบัติตามกฎที่เข้มงวดก็เป็นความคิดที่ซ้ำซากจำเจเช่นกัน เราตกแต่งบ้านตามรสนิยมและความรู้สึกสบายใจของตัวเอง ไม่ใช่เพื่อถ่ายภาพลงนิตยสาร ดังนั้นบ้านในอุดมคติอาจดูเป็นที่ยกย่องก็จริง แต่ก็ไม่ค่อยดูอบอุ่นและน่าอยู่อาศัยเท่าใดนัก
คุณจะกำจัดการตกแต่งภายในแบบใดออกไปบ้าง ? บอกความคิดเห็นของคุณลงในคอมเมนต์ด้านล่างกันได้เลย