ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

8 ลูกหลงของบรรดาพ่อแม่วัยเก๋าจะมาเปิดเผยว่าความรู้สึกของการเป็นลูกหลงนี่มันเป็นยังไงกันนะ

สำหรับพ่อแม่แล้ว เรามักเป็นเด็กตลอดไป พวกเขามักจะต้องคอยดูแลห่วงใยจ้ำจี้จ้ำไชอยู่เสมอ และเชื่อเถอะว่าไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย คนเป็นแม่มักจะต้องแน่ใจว่าลูกของท่านได้กินดีอยู่ดี มีเสื้อผ้าอุ่น ๆ ใส่ แม้อากาศข้างนอกจะ 21 องศาเซลเซียส แต่ยิ่งพ่อแม่อายุมากขึ้นเท่าไหร่ เรายิ่งต้องเป็นฝ่ายดูแลพวกท่านมากขึ้นเท่านั้น เพราะพวกท่านไม่ได้จะมีพละกำลังมากเท่าเดิมอีกแล้ว แล้วจะเป็นยังไงบ้างล่ะสำหรับเด็ก ๆ ที่มีพ่อแม่ที่อยู่ในวัย “ผู้ใหญ่มาก ๆ” อยู่แล้วตั้งแต่ครั้งที่พวกเขาเกิดมา?

ชีวิตสดใสได้อ่านเรื่องราวอันแสนจริงใจที่บอกเล่าถึงช่วงเวลาที่ทั้งสุขและเศร้าของชีวิตเด็ก ๆ ที่เกิดมาในช่วงที่พ่อแม่แก่แล้ว และอยากจะมาเปิดเผยเรื่องราวเหล่านี้ให้ทุกคนได้รับรู้ เราหวังว่าหลังจากอ่านบทความนี้แล้วคุณจะอยากโทรศัพท์ไปหาคุณพ่อคุณแม่และบอกพวกท่านนะว่าคุณรักพวกท่านมากแค่ไหน

  • ตอนฉันเกิด แม่ฉันอายุ 36 ส่วนพ่อ 48 มันทำให้ฉันรู้สึกอายมาก ตอนฉันเด็ก ๆ ฉันมักหงุดหงิดที่คนอื่นชอบเข้าใจผิดว่าพวกเขาเป็นปู่กับย่า แต่พอตอนนี้พวกเขาอายุ 60 กับ 72 เมื่อไหร่ที่พวกเขาได้เจอเพื่อน ๆ เพื่อนพวกเขาจะช็อกมากว่าพ่อกับแม่ของฉันถูกแช่แข็งมาตลอด 20 ปีหรือยังไง เพราะพ่อของฉันยังคงมีผมสีดำ ส่วนแม่ของฉันก็ยังคงเอวบางร่างน้อย ซึ่งพ่อกับแม่มักจะยิ้มตอบกลับเพื่อน ๆ ไปอย่างลึกลับเสมอ แต่ฉันรู้ว่าเพราะพวกเขามีจิตวิญญาณที่เป็นวัยรุ่นไง ร่างกายก็เลยสะท้อนออกมาแบบนั้น © “Overheard” / Ideer
  • ตอนที่ฉันเกิดมาแม่ฉันอายุ 41 ส่วนพ่อฉันอีกไม่กี่สัปดาห์ก็จะอายุ 45 พ่อกับแม่ทุ่มเทและใช้ความรู้ทุกอย่างในการเลี้ยงดูฉันขึ้นมา ซึ่งเป็นอะไรที่ฉันไม่คิดว่าคนที่อายุน้อยกว่านั้นจะทำได้ อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีข้อเสียบางอย่างเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น พ่อของฉันต้องกินยาเพื่อควบคุมความดันโลหิตก็เลยทำให้เขาต้องนอนกลางวันเยอะมาก และตอนที่เขากำลังงีบหลับ ฉันก็มักไม่มีอะไรทำนอกจากหาอะไรเล่นเอง ฉันเลยมีช่วงเวลาที่รู้สึกเบื่อบ่อยมาก © Julie Edelstein / Quora
  • แม่ฉันคลอดฉันออกมาตอนที่ท่านอายุ 40 ปี ส่วนพ่อฉันอายุ 61 ปี พ่อกับแม่มักจะอดทนกับฉันเยอะมาก ๆ ซึ่งเป็นข้อดีที่ฉันต้องยกเครดิตให้กับวัยของพวกท่านเลย พวกท่านมักมีเรื่องราวมากมายมาแบ่งปัน และมีมุมมองที่ไม่เหมือนใครที่ส่งผลต่อมุมมองของฉันต่อโลกใบนี้อย่างใหญ่หลวง มันทำให้ฉันเข้าหาผู้ใหญ่ได้ดีกว่าคนอื่น ๆ ในตอนที่ฉันเด็ก ๆ ตอนนี้ฉันอายุ 23 ปีแล้ว และฉันคิดว่าช่วงเวลาที่ฉันใช้กับพวกเขานั้นมีค่ามากเหลือเกิน ถึงแม้ว่าบางครั้ง ฉันก็เหมือนกับเด็กวัยรุ่นคนอื่น ๆ ที่พ่อแม่ก็อาจทำให้เรารู้สึกหงุดหงิดใจบ้าง แต่ตอนนี้ความโกรธหรือความคับข้องใจใด ๆ กลับถูกต้องย้ำด้วยความสำนึกรู้ว่าการที่ได้พบกันครั้งใด ๆ หรือบทสนทนาครั้งไหน ๆ ของเราอาจเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ก็ได้ © Elizabeth Hitchcock / Quora
  • ตอนที่ฉันเกิดมา แม่ของฉันอายุ 45 ส่วนพ่ออายุ 43 ปี ช่องว่างระหว่างวัยของเรานั้นแทบเกินจะทนเลย พวกเขาไม่เข้าใจอะไรหลาย ๆ อย่างจนเราต้องโต้เถียงกันและมีเรื่องเข้าใจผิดกันอยู่เสมอ ฉันยังคงรู้สึกหงุดหงิดหรือผิดหวังมากเมื่อแม่ไม่สามารถเข้าใจฉันได้บ้างเลย ส่วนพ่อก็มักจะหวังที่จะได้เห็นฉันเรียนจบ มีงานทำและได้แต่งงานอยู่เสมอ น่าเสียดายที่พ่อจากไปก่อนที่จะอายุ 62 ปี ฉันแค่หวังว่าแม่จะยังอยู่กับฉันเมื่อเรื่องที่พ่อหวังไว้เกิดขึ้นในชีวิตฉันจริง ๆ © Prithpal Kaur / Quora
  • ตอนที่ฉันเกิดมาพ่อฉันก็อายุ 45 ปีแล้ว มันรู้สึกประหลาดมากเวลาที่เราเป็นวัยรุ่นและมีพ่อแม่ที่แก่มากแล้ว เพราะพวกเขามักจะเจ้าระเบียบและมีความรับผิดชอบมากกว่าคนอื่น ๆ พวกเขาจะต้องแน่ใจว่าฉันจะไปถึงโรงเรียนตรงต่อเวลา และมารับฉันเร็วกว่าเด็กคนอื่น ๆ อยู่เสมอ นอกจากนี้พอได้ยินเรื่องราวว่าพ่อตอนเด็ก ๆ เติบโตมายังไงและพอมาเปรียบเทียบกับชีวิตวัยเด็กของเราแล้วทำให้ฉันอดช็อกในความต่างทางวัฒนธรรมเหล่านั้นไม่ได้ เขามักจะประหลาดใจกับความหัวไวของพวกเราในเรื่องเทคโนโลยีมาก © Rainyboots / Reddit
  • ตอนที่ฉันเกิด แม่ของฉันอายุ 39 ส่วนพ่ออายุ 61 ปีแล้ว การโตมากับพ่อแม่ที่สูงวัยแล้วเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากเลยนะ เพราะด้วยวัยของพวกเขา พ่อแม่ของฉันจะรู้ดีเลยว่าสิ่งไหนสำคัญที่สุด พวกเขาจะให้ความสำคัญกับการเรียนของฉันโดยไม่โทษฉันเลยหากฉันทำอะไรผิดพลาดไปบ้าง © Sarenna McKellar / Quora
  • ฉันมีน้องชายวัย 2 ขวบ ซึ่งเขาเป็นลูกหลง ตอนนี้พ่อของฉันอายุได้ 50 ปี ส่วนแม่ของฉันก็ 42 ปีและฉันก็อายุ 18 ปี พอนึกย้อนไปถึงตอนเด็ก ๆ ฉันก็รู้ได้ว่าคงไม่มีอะไรดีไปได้กว่านั้นอีกแล้ว แต่ฉันก็นึกโกรธอยู่บ้างเหมือนกันที่ต้องคอยสอนน้องชาย ช่วยให้เขาเติบโต เลี้ยงดูเขาและต้องคอยทำให้เขาดูว่ามารยาทที่ดีเป็นอย่างไร ซึ่งหลังจากนั้นแม่ก็จะแค่เปิดการ์ตูนบ้า ๆ บอ ๆ ให้เขาดู ซึ่งเขายิ่งดูก็จะยิ่งโง่เง่ามากขึ้นไปอีก เพราะทำแบบนั้นมันง่ายดีไง ! เพราะเขาจะได้ไม่วิ่งไปทั่ว กระโดดโลดเต้นหรือทำตัวน่ารำคาญใด ๆ เรื่องจริงของการเป็นลูกหลงของพ่อแม่ก็คือ พ่อแม่คนหนึ่งจะรู้สึกขี้เกียจ ส่วนอีกคนก็จะเอาแต่พูดว่าพวกเขาแก่แล้วนะ © “Overheard” / Ideer
  • ฉันเกิดในปี 1999 ในขณะที่พ่อฉันเกิดในปี 1947 หนึ่งในข้อดีที่สุดของวัยขนาดเขาคือเขาสามารถเข้าใจแทบทุกเรื่องได้อย่างง่ายดายเพราะเขาเคยผ่านมาหมดแล้ว ไม่ว่าฉันจะพูดเรื่องอะไร เขาก็เข้าใจได้ทุกเรื่อง ซึ่งฉันชอบข้อนี้มากเลย ไม่ว่าฉันจะเล่าเรื่องอะไร คำตอบที่ได้ก็จะประมาณว่า “ย้อนกลับไปเมื่อปี 74...” หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น ฉันได้รู้อะไรจากเขาเยอะมาก ๆ พ่อเคยเป็นทั้งนักบิน วิศวกร ศิลปิน นักต่อโมเดล ผู้จัดการ ช่างไม้ และที่สำคัญมากที่สุดสำหรับฉันคือการเป็นพ่อของฉัน อายุของพ่อฉันเป็นโอกาสที่ทำให้ฉันได้เรียนรู้อะไรเยอะมากจริง ๆ © Nathan Lewman / Quora

ในความคิดคุณแล้ว ช่วงอายุเท่าไหร่จึงจะเหมาะสมที่สุดสำหรับการมีลูกสักคน?

เครดิตภาพพรีวิว "Overheard" / Ideer
ชีวิตสดใส/ครอบครัว & เด็ก/8 ลูกหลงของบรรดาพ่อแม่วัยเก๋าจะมาเปิดเผยว่าความรู้สึกของการเป็นลูกหลงนี่มันเป็นยังไงกันนะ
แชร์บทความนี้