“ฉันอยากที่จะมีลูกสาวคนนี้มาก ๆ ถึงขนาดที่ว่าไม่มีอะไรอย่างอื่นที่สำคัญกับฉันได้มากเท่านี้อีกแล้ว” ซัลมา ฮาเย็คเล่าถึงสายใยแม่ลูกที่ไม่มีวันขาดสะบั้นของพวกเธอ

การเป็นแม่ไม่ใช่งานง่าย ๆ เลย เช่นเดียวกับการเป็นคนดังนั่นแหละ แต่สุดท้ายแล้วซัลมา ฮาเย็ค (Salma Hayek) ก็สามารถทำทั้งสองอย่างได้ดีเลิศด้วยกันทั้งคู่ ส่วนสำคัญในปรัชญาการดำเนินชีวิตในฐานะคุณแม่ของเธอก็คือการต้องเคารพความเป็นส่วนตัวของลูกสาว ซึ่งคุณแม่และลูกสาวได้พูดคุยบอกเล่าถึงความสัมพันธ์และความคล้ายคลึงกันของพวกเธอไว้ในการให้สัมภาษณ์ครั้งหนึ่ง

ชีวิตสดใสอยากจะให้คุณได้เห็นถึงรายละเอียดอันแสนสำคัญในสายสัมพันธ์ที่ไม่อาจตัดได้ขาดนี้

เราทุกคนต่างรู้จักนักธุรกิจ โปรดิวเซอร์และนักแสดงสาวชาวเม็กซิกัน ซัลมา ฮาเย็คเป็นอย่างดี แต่ความสำเร็จของเธอบางอย่างนั้นควรค่าแก่การหยิบยกขึ้นมาพิจารณาจริง ๆ

ยกตัวอย่างเช่น เธอเป็นหนึ่งใน 5 นักแสดงสาวชาวละตินอเมริกันที่เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขา “นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม” สิ่งนี้จัดว่าเป็นหนึ่งในการยอมรับครั้งสำคัญในวงการภาพยนตร์นานาชาติเลยทีเดียว และด้วยเหตุนี้เอง ซัลมาจึงกลายเป็นหนึ่งในนักแสดงชาวเม็กซิกันที่โด่งดังที่สุดในฮอลลีวูดคนหนึ่ง

ซุปตาร์สาวคนนี้ได้พบกับสามีคนปัจจุบันของเธอ ฟรองซัว-อองรี ปิโนต์ (François-Henri Pinault) ในงานแห่งหนึ่งเมื่อปี 2006 ช่วงนั้นเป็นช่วงเดือนเมษายน เธอได้รับเชิญเป็นแขกผู้มีเกียรติในงานเปิดตัวหอศิลป์กราสซิปาลาส (Grassi Palace) ที่เมืองเวนิสในประเทศอิตาลี คฤหาสน์แห่งนี้มีผู้เป็นเจ้าของคือครอบครัวของปิโนต์ ซึ่งพวกเขากำลังจะนำเสนอคอลเลคชันผลงานศิลปะของนักธุรกิจชาวฝรั่งเศสที่นั่น ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเพิ่งมาแต่งงานกันในปี 2009 แต่นักแสดงสาวได้ตั้งครรภ์ก่อนหน้านั้นสองปีในปี 2007

ในปี 2018 คู่รักคู่นี้ได้ปฏิญาณรักกันอีกครั้งที่ริมทะเล “ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในฤดูร้อนนี้คือตอนที่สามีของฉันจัดพิธีเซอร์ไพรส์พิธีหนึ่ง นั่นก็คือพิธีที่ให้เราได้ปฏิญาณรักในงานแต่งงานกันอีกครั้ง ฉันควรจะเลือกชุดเดรสชุดอื่นนะ แต่พวกเขาบอกฉันว่าเรากำลังจะไปสปากันนี่นา !” นักแสดงสาวเขียนไว้ในโพสต์อินสตาแกรมโดยมีรูปพิธีแต่งงานครั้งนี้ซึ่งมีลูกสาวของเธออยู่ด้วย

นอกจากอาชีพนักแสดงแล้ว ซัลมายังเป็นคุณแม่เต็มเวลาอีกด้วย ลูกสาวของเธอ วาเลนตินา (Valentina) เกิดวันที่ 21 กันยายน 2007 ตอนนี้เธอมีอายุได้ 14 ปีแล้วและออกมายืนยันว่าเธอมีความสัมพันธ์อันดีกับคุณแม่มาก ๆ โดยในสายใยอันแสนสำคัญนี้ สิ่งที่ทั้งสองมีร่วมกันก็คือความไว้เนื้อเชื่อใจและการแอบสมรู้ร่วมคิดแหกกฎอะไรบางอย่างร่วมกัน

ด้วยความที่ลูกสาวของเธอนั้นยังเด็กมาก นักแสดงสาวจึงชอบโพสต์รูปของเธอในโซเชียลมีเดียโดยคุณจะเห็นได้เลยว่าสองคนแม่ลูกนี้รักกันมากขนาดไหน นอกจากนี้ยังเห็นได้ชัดว่าซัลมาเคารพในความเป็นอิสระของลูกสาวเป็นอย่างมาก รวมถึงเคารพในพื้นที่ส่วนตัวของลูกสาวด้วย เพราะเธอใส่ใจในความสำคัญที่อยากจะให้ลูกสาวสามารถพัฒนาลักษณะนิสัยของตัวเองได้อย่างอิสระ เราจะเห็นพวกเธอควงคู่กันออกงานแฟชั่นต่าง ๆ รวมถึงงานอื่น ๆ มากมาย เช่นงานรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์เรื่องฮีโร่พลังเทพเจ้า (Eternals)

ในการให้สัมภาษณ์เมื่อไม่นานมานี้ คุณแม่และลูกสาวต่างโพสต์ท่าถ่ายรูปร่วมกันขึ้นปกให้แก่นิตยสารที่มีชื่อเสียงฉบับหนึ่ง นอกจากนี้ พวกเธอยังพูดถึงเรื่องราวบางอย่างที่เป็นหนึ่งในเรื่องที่สำคัญที่สุดในความสัมพันธ์แม่ลูกของพวกเธอ ยกตัวอย่างเช่น แม่ลูกคู่นี้มีรสนิยมด้านแฟชั่นและการแต่งหน้าเหมือน ๆ กัน “ในบ้าน เรามักจะทะเลาะกัน ตบตีแย่งชิงเสื้อผ้าบางชุดเสมอ เพราะลูกสาวฉันมักเอาเสื้อผ้าทุกอย่างของฉันไปจากตู้ แล้วทำให้ฉันหาอะไรไม่เจอเสมอเลย” ซัลมากล่าวไว้

วาเลนตินาเป็นเด็กสาวที่มีพรสวรรค์มาก เมื่ออายุได้สองขวบ เธอก็พูดได้สามภาษาแล้ว เธอพูดได้ทั้งภาษาฝรั่งเศส (จากคุณพ่อของเธอ) สเปน (จากคุณแม่ของเธอ) และภาษาอังกฤษ (เพราะเธอเกิดและโตที่อเมริกา) ในบทสัมภาษณ์เธอเคยกล่าวไว้ว่าพวกเธอแม่ลูกจะพูดคุยภาษาสเปนกัน ซึ่งทำให้สายใยครอบครัวเหนียวแน่นยิ่งขึ้นไปอีก

นอกจากนี้พวกเธอยังกล่าวว่าการสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเธอแม่ลูกมาก เมื่อซัลมาไปทำงานไม่อยู่บ้าน เธอมักจะติดต่อมาหาวาเลนตินาเพื่ออัปเดทข่าวคราวว่าลูกเป็นอย่างไรและในแต่ละวันผ่านไปอย่างไรเสมอ

“กรณีของฉันเป็นกรณีที่พิเศษมากเพราะฉันเป็นแม่คนเมื่ออายุมากแล้ว ฉันเพิ่งมีลูกเมื่อได้พบกับคู่ชีวิตและมีการงานที่มั่นคง แต่ฉันอยากที่จะมีลูกสาวคนนี้มาก ๆ ถึงขนาดที่ว่าไม่มีอะไรอย่างอื่นที่สำคัญกับฉันได้มากเท่านี้อีกแล้ว” นักแสดงสาวได้กล่าวไว้ระหว่างการให้สัมภาษณ์ นอกจากนี้เธอยังได้บรรยายชีวิตของวาเลนตินาในช่วงสองปีแรกว่าซัลมายอมยุติงานทุกอย่างของตัวเอง และค่อย ๆ หวนคืนกลับเข้าสู่วงการภาพยนตร์อย่างช้า ๆ ทว่ามั่นคง

วาเลนตินารู้แล้วว่าเธออยากจะทำอะไรในอนาคต “หนูอยากเป็นอะไรหลายอย่างเต็มไปหมดเลยค่ะ แต่มันเกือบจะเริ่มแจ่มชัดขึ้นเมื่ออายุได้ประมาณ 4 ขวบ หนูอยากเป็นนักแสดงและก็เป็นผู้กำกับ เพราะนั่นคือภาพในหัวที่เหมาะสมที่สุดแล้ว” เธอกล่าว

นอกจากนี้ สาวน้อยคนนี้ยังเป็นอาสาสมัครที่โรงทานในโรงเรียน ซึ่งเป็นที่ที่ทำให้เธอได้รู้จักพูดคุยกับคนที่มีพื้นเพชีวิตแบบต่าง ๆ กัน “หนูคิดว่าในกรณีของหนู หนูรู้สึกว่าเรื่องคนไร้บ้านเป็นเรื่องสำคัญค่ะ เพราะหนูมีเพื่อน ๆ หลายคนที่ไม่มีบ้าน” เด็กสาววัยรุ่นบอกระหว่างการให้สัมภาษณ์

สายใยระหว่างแม่ลูกคู่นี้นั้นไม่มีวันขาดสะบั้น ซึ่งสิ่งนี้ส่งผ่านมาให้เราเห็นได้ไม่เพียงจากการอ่านในบทสัมภาษณ์เท่านั้น แต่ในชีวิตในแต่ละวันของพวกเธอก็ด้วย แล้วสำหรับคุณล่ะ สิ่งสำคัญที่สุดในการรักษาความสัมพันธ์ดี ๆ ระหว่างคนสองคนเอาไว้ได้คืออะไร ?