ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

พ่อแม่ของฉันตาบอดฉันเลยอยากจะจัดงานแต่งงานแบบปิดไฟ แต่พ่อแม่แฟนฉันไม่ชอบความคิดนี้

เมื่อเราจำเป็นต้องจัดงาน มันก็อาจจะรู้สึกเหมือนเป็นงานใหญ่ที่ต้องทำให้สำเร็จ การร่างรายชื่อแขก เลือกอาหารที่ใช่ หรือแม้กระทั่งการเลือกเพลงที่เหมาะกับงานต่างก็เป็นงานสำคัญที่อาจทำให้เกิดความเครียดได้ ยิ่งเมื่อจัดงานแต่งงาน คุณยิ่งต้องทบความเครียดเข้าไป 10 เท่าเลย เพราะมันยังเป็นหนึ่งในวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคุณด้วย

ว่าที่ภรรยาท่านหนึ่งส่งจดหมายหาชีวิตสดใสเพื่อขอความช่วยเหลือจากเรา เพราะเธอไม่รู้ว่าเธอควรจะฟังหัวใจตัวเองหรือฟังครอบครัวของคู่หมั้นกันแน่ เราอยากจะสนับสนุนเจ้าสาวคนนี้ผ่านกระบวนการความคิดของเธอและให้คำแนะนำที่อาจช่วยให้เธอตัดสินใจได้สักเล็กน้อย

ขอบคุณนะสำหรับจดหมาย เอ็มม่า (Emma) ! พวกเรายินดีมาก ๆ ที่คุณติดต่อเรามา ทีมชีวิตสดใสของเราได้รวมตัวกันเพื่อถกกันว่าปัญหานี้จะแก้กันอย่างไรดีจึงจะดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ และนี่ก็คือคำแนะนำที่น่าจะช่วยคุณได้มากที่สุดที่เรารวบรวมมาให้คุณ

  • มันเป็นท่าทีที่งดงามมากที่คุณอยากจะโอบรับความพิการของพ่อแม่คุณในวันแต่งงาน มันแสดงให้เห็นว่าคุณแคร์พวกเขามากแค่ไหน แต่จำไว้ว่าวันพิเศษนี้เป็นวันของคุณและคนรักของคุณ ในฐานะคู่รัก คุณควรจะเป็นคนที่ตัดสินใจว่ามันควรจะดูเป็นอย่างไร แต่การรับฟังคำแนะนำของคนอื่นก็เป็นประโยชน์ได้เหมือนกันสำหรับในเรื่องของงานเลี้ยง
  • ลองคิดถึงการใช้งานสถานที่ที่อาจเกิดขึ้นได้ดู บางทีตอนคุณชอบความคิดหนึ่งมาก ๆ เราไม่ฉุกคิดว่ามันจะมีผลต่อคนอื่นอย่างไรหรอก ในบางประเทศ ผู้ใหญ่ 1 ใน 4 อยู่กับความพิการ และการต้องมีผู้คนสะดุดสิ่งต่าง ๆ ไปทั่วงานก็ไม่น่าจะเป็นแผนที่ดีที่ที่สุดหรับคนหูหนวก คนแก่ คนใช้เก้าอี้วีลแชร์ เด็ก ๆ หรือแม้แต่พ่อแม่ของคุณเอง คุณเองก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้อีกด้วย
  • พยายามเปิดอกคุยกับพ่อแม่ของว่าที่สามีคุณดู บางทีถ้าพวกเขาเห็นว่าคุณแคร์และให้เกียรติพ่อแม่ของคุณในงานแต่งงานจริง ๆ พวกเขาก็คงจะพยายามช่วยโดยการแนะนำวิธีที่มีความหมายวิธีอื่น ๆ ที่อาจทำได้ให้คุณก็ได้ พวกเขาให้แนวคิดริเริ่มดี ๆ กับคุณได้มากมายและความสัมพันธ์กับพวกเขาก็อาจจะแข็งแรงขึ้นด้วย
  • คุณอาจจะพบกันครึ่งทางก็ได้ หาวิธีอื่นในการให้เกียรติและเฉลิมฉลองพ่อแม่ของคุณ อาจจะเป็นวิธีที่ทำให้พวกท่านและแขกคนอื่น ๆ มีส่วนร่วมได้ ยกตัวอย่างเช่น การมีช่วงเวลาที่จะปิดไฟ หรืออาจจะขอให้แขกทุกคนแต่งตัวตลก ๆ มางานโดยที่ไม่ต้องปิดไฟก็ได้ ฯลฯ
  • ถ้าคุณตัดสินใจที่จะดับไฟในงานแต่งงานจริง ๆ ให้คุณระวังล่วงหน้าก่อน คุณคงจะไม่อยากให้มีอุบัติเหตุใด ๆ เกิดขึ้นในวันสำคัญของคุณแน่ การมีมืออาชีพและบริการทางการแพทย์อยู่ด้วยอาจจะลดโอกาสให้สิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ให้น้อยลงได้ เราหวังว่าคุณจะได้มีงานแต่งงานในฝันและทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดีสำหรับคุณและว่าที่สามีนะ

คุณคิดว่าการกระทำแบบไหนเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ? คุณคิดว่ามีพื้นที่ตรงกลางสำหรับสถานการณ์นี้หรือไม่ ? ถ้าคุณมีคำแนะนำให้กับเอ็มม่า โปรดแบ่งปันเอาไว้ในคอมเมนต์ได้เลย มันอาจจะช่วยให้คนอื่น ๆ ได้เอาชนะสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันนี้ได้

เครดิตภาพพรีวิว Unsplash.com
แชร์บทความนี้