ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

สามีอยากให้ลูกของเราย้ายออกจากบ้านหลังจากที่เขาเรียนจบแล้ว

ทั่วทุกมุมโลก คนเรามักจะย้ายออกจากบ้านของพ่อแม่ในระหว่างช่วงอายุ 19-27 ปีเพื่อที่จะได้เป็นอิสระ การย้ายออกจากบ้านที่แสนสะดวกสบายเป็นการตัดสินใจที่ยากซึ่งจะทำเป็นเรื่องเล่น ๆ ไม่ได้ แต่มันเป็นหนึ่งในสิ่งที่คนที่จะก้าวสู่วัยผู้ใหญ่และครอบครัวของพวกเขาจะต้องเจอ บางครั้งผู้ดูแลก็ต้องการคำแนะนำที่จะรู้ว่าจะต้องผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากเหล่านี้ไปได้ยังไง และการขอความช่วยเหลือก็เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับพวกเขา

แม่ที่รู้สึกเป็นกังวลมาก ๆ ได้ขอคำแนะนำจากโลกออนไลน์และเราที่ชีวิตสดใสก็ชอบคำแนะนำทุกอย่างที่ชาวเน็ตได้มอบให้เธอ ดังนั้นเราจึงอยากจะมีส่วนร่วมในบทสนทนาและพยายามช่วยให้เธอผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากเหล่านี้ไปให้ได้

มุมมองของชีวิตสดใส

เราที่ชีวิตสดใสได้รวบรวมการสนทนาถึงปัญหานี้และได้เลือกคำแนะนำที่ดีที่สุดที่เราเจอ นี่คือคำแนะนำที่เราค้นพบและคิดว่ามันน่าจะช่วยคนที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่น่าอึดอัดนี้อยู่ได้

  • พูดคุยอย่างเปิดอกกับสามีของคุณ การสื่อสารที่ดีกับทุกคนจะช่วยให้ความเข้าใจในสถานการณ์นั้นดีขึ้น สามีของคุณมาจากที่ไหน เขารู้สึกว่าลูกชายอายุ 18 ปีของคุณควรจะเป็นผู้ใหญ่ที่พึ่งพาตัวเองแล้วเหรอ ?
    การสำรวจบอกว่าอายุเฉลี่ยของคนที่ย้ายออกจากบ้านคือ 19 ปี ไม่ใช่ 18 ปี แต่มันก็ค่อนข้างใกล้เคียง ลองทำความเข้าใจมุมมองของเขาดู
  • คู่รักจะต้องร่วมกันตัดสินใจในเรื่องสำคัญ งานวิจัยบอกว่าเมื่อต้องมีการตัดสินใจ คู่รักจะต้องใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ร่วมของกันและกัน ลองทำให้คนรักของคุณเข้าใจว่าคุณเป็นทีมเดียวกัน และจากการตัดสินใจร่วมกันจะทำให้คุณบรรลุข้อตกลงที่ดีกับทุกคนได้
  • ตาข่ายนิรภัยถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลดความเจ็บปวดของตัวบุคคลได้ถ้าพวกเขาร่วงลงมา ในหลาย ๆ ครั้ง พ่อแม่ก็เป็นเหมือนกับตาข่ายนิรภัยของลูก ผู้ประกอบการบอกว่ามันมีโอกาสที่ดีมากขึ้นที่จะประสบความสำเร็จและเป็นอิสระถ้าเรามีคนที่คอยสนับสนุน ลองทำให้สามีของคุณเข้าใจว่าตัวเขามีความสำคัญแค่ไหนต่ออนาคตของลูกชายของคุณ
  • ลองร่างเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตให้สามีของคุณเห็น การตัดความช่วยเหลือลูกชายโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าหรือการไม่สนับสนุนทางการเงินใด ๆ เลยอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ของคุณกับลูกชายได้ คุณอาจจะลองอธิบายให้สามีของคุณฟังว่าถ้าเขาอยากจะมีส่วนร่วมกับอนาคตของลูกชาย เขาก็ต้องมีส่วนร่วมกับชีวิตปัจจุบันของลูกด้วย
  • ลองหาวิธีการอื่นดู การหาตรงกลางในสถานการณ์นี้ก็น่าจะเป็นไปได้มาก มีอีกหลายวิธีที่ให้ลูกชายช่วยเหลือครอบครัวได้ ในขณะที่เขาไม่ได้เรียนหนังสือ เขาอาจจะออกไปทำงานและช่วยจ่ายค่าใช้จ่ายในบ้านบางส่วนได้ หรือไม่เขาก็อาจจะทำอาหารเย็นและช่วยทำความสะอาดบ้านได้ ส่วนสำคัญคือการพูดคุยกันในฐานะครอบครัวถึงสิ่งที่คาดหวังจากทุกคน
  • สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ลองให้สามีของคุณนึกถึงเหตุผลที่เขาเลือกจะเป็นพ่อคนในตอนแรก บางทีถ้าคุณขอให้เขากลับไปเชื่อมโยงกับลูกชาย เขาอาจจะยอมรับก็ได้และความผูกพันของทั้งคู่ก็จะเติบโตอย่างเข้มแข็งมากขึ้น เราหวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดีและความสัมพันธ์ในครอบครัวของคุณก็จะดีขึ้น

คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ที่เราเจอจากชาวเน็ท

คุณคิดว่าคนเราควรจะย้ายออกจากบ้านของพ่อแม่ตอนอายุเท่าไหร่ ? คุณอายุเท่าไหร่ตอนที่ย้ายออกจากบ้าน ? บอกเราในช่องคอมเมนต์ถ้าคุณมีคำแนะนำอื่น ๆ ที่จะช่วยคุณแม่คนนี้ได้

เครดิตภาพพรีวิว Anna/Flickr, CC BY 2.0, Unknown user / Reddit
แชร์บทความนี้