ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

ทำไมพ่อแม่ถึงผูกลูกโป่งไว้รอบแขนขาของลูกน้อย

ลูกโป่งสามารถเป็นได้มากกว่าของตกแต่งที่สวยงาม อย่างศัลยแพทย์ที่ใช้มันในกระบวนการทางการแพทย์โดยเฉพาะ หรือไม่ก็การใช้ลูกโป่งฮีเลียมในการขนส่งอุปกรณ์ตรวจวัดบรรยากาศไปยังดาวศุกร์ได้อีกด้วย แต่ข้อดีของลูกโป่งก็ยังไม่หมด เพราะแม้แต่ลูกน้อยวัยหัดเดินของคุณก็สามารถได้รับประโยชน์จากพวกมัน เมื่อใช้ภายใต้การดูแลอย่างระมัดระวัง

พวกเราที่ชีวิตสดใสเห็นว่าพ่อแม่บางคนผูกลูกโป่งไว้ที่แขนขาของลูกน้อย ดังนั้นเราจึงสงสัยและตัดสินใจค้นหาดูว่าทำไมพวกเขาถึงทำอย่างนั้น แล้วก็กลายเป็นว่ายังมีเกมลูกโป่งสุดเจ๋งที่เด็กโตก็สามารถเล่นสนุกได้ด้วยเช่นกัน

สิ่งสำคัญคือการทำกิจกรรมที่ช่วยให้ลูกน้อยของคุณได้พัฒนาทักษะต่าง ๆ

ในการทำงานแต่ละวัน เราต้องมีทักษะการเคลื่อนไหวที่ดี ซึ่งทักษะเหล่านี้เริ่มพัฒนาทันทีหลังจากที่ทารกเกิด เมื่อโตขึ้น พวกเขาก็จะค่อย ๆ เรียนรู้ที่จะทำมากขึ้น แล้วหากไม่บรรลุเป้าหมายสำคัญของการพัฒนาทักษะกล้ามเนื้อขั้นต้นและขั้นสูง ก็สามารถส่งผลเสียต่อชีวิตของพวกเขาได้

นั่นอาจหมายความว่ากล้ามเนื้อของพวกเขาอาจพัฒนาได้ไม่ดี หรือพวกเขาจะมีปัญหาในการโต้ตอบกับสิ่งของในชีวิตประจำวัน เช่น เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร หนังสือ และของเล่น แล้วก็สามารถส่งผลกระทบต่อวิธีที่พวกเขาโต้ตอบกับเด็กคนอื่น ๆ ซึ่งนำไปสู่การเห็นคุณค่าในตัวเองต่ำ

การให้ลูกน้อยเล่นลูกโป่งมีประโยชน์เยอะมาก

วิธีหนึ่งในการเล่นลูกโป่งคือการผูกลูกโป่งที่เติมลมฮีเลียมเอาไว้รอบแขนหรือขาของลูกน้อยแบบหลวม ๆ แล้วปล่อยให้พวกเขาเคลื่อนไหวร่างกาย นี่เป็นวิธีอันยอดเยี่ยมในการเสริมสร้างทักษะการเคลื่อนไหวขั้นต้นและกล้ามเนื้อตาเพื่อติดตามดูและมีสมาธิมากขึ้น เมื่อลูกน้อยขยับแขนขา พวกเขาจะได้ยินเสียงลูกโป่งเคลื่อนที่ ซึ่งสามารถช่วยให้พวกเขาเรียนรู้เกี่ยวกับเหตุและผลได้

กิจกรรมนี้ยังเสริมสร้างคอให้แข็งแรง เมื่อพวกเขาก้มเพื่อมองลงมาที่เท้า ความแข็งแรงของคอนี้จะมีความสำคัญในภายหลังในตอนพวกเขาเรียนรู้ที่จะพลิกคว่ำพลิกหงาย โดยควรทำกิจกรรมนี้เมื่อลูกน้อยมีอายุระหว่าง 1 ถึง 5 เดือน ก่อนที่พวกเขาจะรู้วิธีพลิกคว่ำพลิกหงายและในตอนที่ยังไม่สนใจที่จะกินทุกอย่าง

สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ คุณควรอยู่กับลูกน้อยเสมอเมื่อพวกเขาเล่นลูกโป่ง เพราะมันสามารถทำให้เกิดอันตรายจากการหายใจไม่ออกได้

สำหรับเด็กโตมีสิ่งสนุก ๆ ที่พวกเขาสามารถทำกับลูกโป่งได้เช่นกัน ซึ่งสามารถทำให้การทำงานประสานกันระหว่างมือกับตา ทักษะการใช้มือ นิ้ว และข้อมือ และทักษะการเคลื่อนไหวโดยรวมดีขึ้นได้ อย่างเช่นคุณสามารถขอให้ลูกน้อยตีลูกโป่งแบบที่ไม่ได้เติมลมฮีเลียมไปมาด้วยมือ นิ้ว หรือศีรษะ หรือไม่ก็ให้ลูกน้อยเตะลูกโป่งด้วยขาก็ได้ อีกทั้งพวกเขายังสามารถเล่นกับลูกโป่งแบบตีลูกเทนนิสได้

คุณสามารถสร้างเกมลูกโป่งได้ด้วยตัวคุณเอง โดยใช้ทั้งลูกโป่งที่เติมลมฮีเลียมและแบบธรรมดาที่มีสีต่างกัน โดยวิธีนี้ลูกของคุณสามารถฝึกการจำสี เรียนรู้เกี่ยวกับโลกอย่างเรื่องแรงโน้มถ่วงว่ามันทำงานยังไง และเรียนรู้การจัดหมวดหมู่สิ่งของ อีกทั้งพวกเขายังจะได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ ในขณะที่ทำแบบนั้น อย่างเช่นคำว่า “แรงโน้มถ่วง” และ “ฮีเลียม” ซึ่งจะเป็นเรื่องใหม่สำหรับพวกเขาอย่างแน่นอน

นอกจากนั้นการเล่นลูกโป่งต้องการให้เด็ก ๆ ได้กระฉับกระเฉงมากกว่าตอนที่พวกเขาเล่นของเล่นอยู่บนพื้น หรือตอนที่พวกเขานั่งวาดรูปอยู่ที่โต๊ะ ซึ่งหมายความว่าการเล่นลูกโป่งยังดีต่อสุขภาพร่างกายของพวกเขาอีกด้วย

มีกิจกรรมสนุก ๆ มากมายที่ลูกน้อยของคุณสามารถทำได้ เพื่อพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหวของพวกเขา

กิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหวขั้นต้น:

  • ฝึกเดินเหมือนสัตว์ต่าง ๆ
  • กระโดดข้ามเชือกผูกรองเท้าบนพื้น
  • ทำให้ร่างกายของคุณเป็นรูปตัวอักษร
  • ทำด่านต่าง ๆ ในร่ม
  • สร้างท่าเต้นและสอนให้คนอื่น ๆ

กิจกรรมสำหรับทักษะการใช้มือ นิ้ว และข้อมือ:

  • ลองทำโอริกามิ (การพับกระดาษแบบญี่ปุ่น)
  • ทำสร้อยข้อมือด้วยลูกปัด
  • เล่นต่อเลโก้
  • ทำภาพปะติด

คุณเคยทำกิจกรรมเหล่านี้กับลูกโป่งบ้างมั้ย ? คุณอยากจะลองทำหรือเปล่า ? แล้วมีเกมที่คล้ายคลึงกันนี้ที่คุณอยากจะแนะนำบ้างมั้ยนะ ?

แชร์บทความนี้