ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

เทอร์รี เออร์วินเปิดเผยว่าทำไมเธอจึงเลือกที่จะครองตัวเป็นโสดหลังจากที่สตีฟ เออร์วินจากไป

ความรักของเทอร์รี (Terri) กับสตีฟ เออร์วิน (Steve Irwin) เป็นแบบอย่างของคนที่เกิดมาเป็นเนื้อคู่กันอย่างแท้จริง ทุกอย่างถูกลิขิตเอาไว้ตั้งแต่เริ่มต้น และพวกเขาก็ถูกกำหนดมาให้ครองคู่กัน ถึงตอนนี้ตัวของเขาจะไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว แต่ความรักและความเอาใจใส่ของเขายังคงอยู่กับเทอร์รี ผู้แบ่งปันสิ่งเหล่านี้ให้แก่ลูก ๆ และครอบครัวที่แสนงดงามของพวกเขาสืบต่อไป

จุดเริ่มต้นของพวกเขาในฐานะคนที่เกิดมาเป็นเนื้อคู่กัน

สตีฟ เออร์วินอุทิศชีวิตของตนเองให้แก่ธรรมชาติและการศึกษาสัตว์ทั้งหลาย เขามักใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการค้นคว้าวิจัยและกลายมาเป็นผู้ดูแลสัตว์ในอุทยานสัตว์ป่าของพ่อแม่เขาในออสเตรเลีย เทอร์รีได้พบกับสตีฟตอนที่เธออายุ 27 ปี ตอนนั้นเธอมาท่องเที่ยวในวันหยุดกับเพื่อน ๆ ที่เกรตแบร์ริเออร์รีฟ (Great Barrier Reef) ซึ่งเหมือนกับเรื่องราวอันสมบูรณ์แบบเรื่องหนึ่งที่จะค่อย ๆ เปิดเผยออกมาว่าคู่แท้ทั้งสองคนนี้มาพบกันได้อย่างไร

สตีฟกับเทอร์รีได้มาพบกันที่การจัดแสดงจระเข้ที่เขาเป็นคนจัดขึ้น ซึ่งตอนนั้นเธอทึ่งมาก หลังจากการแสดงเสร็จสิ้นเธอจึงเข้าไปหาสตีฟ และทั้งสองคนก็พูดคุยกันตลอดทั้งบ่ายนั้นเลยทีเดียว หลังจากการพบปะพูดคุยเชื่อมสัมพันธ์กันไป 8 เดือนต่อมาพวกเขาก็แต่งงานกัน เทอร์รีบรรยายว่าตอนนั้นสตีฟตัวเปียกเหงื่อสกปรกไปหมดจากการทำงานในสวนสัตว์ และเขาก็มาถามเธอว่าเธออยากจะแต่งงานกันไหม ซึ่งเทอร์รีก็ตอบว่าอยากสิ และเธอก็พูดว่า “มันให้ความรู้สึกเหมือนเราอยู่ด้วยกันเสมอ มันยอดเยี่ยมมากเลย !”

การถือกำเนิดของสมาชิกครอบครัวสี่คนอันงดงาม

ความรักของพวกเขาผลิบาน และมีลูกด้วยกัน 2 คน นั่นก็คือบินดี (Bindi) และโรเบิร์ต โดยคู่รักคู่นี้เลี้ยงดูให้ลูก ๆ รักในธรรมชาติเหมือนกับที่สตีฟถูกเลี้ยงดูมาตอนเด็ก ๆ โดยบินดีเกิดเมื่อปี 1998 และโรเบิร์ตเกิดปี 2003 ซึ่งเป็นที่ปลาบปลื้มของคุณพ่อคุณแม่มากที่ครอบครัวของพวกเขาสามารถแบ่งปันความรักและการเอาใจใส่ให้แก่สัตว์ป่าทั้งหลายได้ พวกเขาต่างตื่นเต้นกับความทรงจำและการผจญภัยต่าง ๆ ที่จะได้พบเจอในอนาคตเป็นอย่างยิ่ง

ช่วงเวลาสุดท้ายกับครอบครัวของเขา

เทอร์รียังจำได้ว่าสตีฟเคยพูดไว้ว่า “ผมจะไม่ถ่ายทำสารคดีอีกแล้ว ผมจะใช้เวลาอยู่แต่กับลูก ๆ” ด้วยความอยากจะมอบความรักและความเอาใจใส่ให้แก่ลูก ๆ ของพวกเขา แต่โชคร้ายที่ในปี 2006 สตีฟก็ต้องมาจบชีวิตลงในวัย 44 ปี

แม้กระทั่งตอนที่เขาตาย ก็ยังเป็นในขณะที่เขาได้ทำในสิ่งที่เขารักมากที่สุด โดยเทอร์รีเคยกล่าวว่า “ฉันยังจำภาพที่เขาอยู่ที่ลานบินและโบกมือบ๊ายบายได้อยู่เลย ฉันรู้สึกแย่แทนโรเบิร์ตมาก เพราะตอนนั้นเขายังเล็กมากเกินไป และก็คาดเข็มขัดอยู่ แต่คุณตำรวจอารมณ์ดีก็ไม่ได้เอาเข็มขัดออกแต่อย่างใดเพื่อให้เขาได้เห็นคุณพ่อและโบกมือให้ได้ ซึ่งนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันได้เห็นเขา”

การคาดเดาต่าง ๆ เรื่องการออกเดตสำหรับเทอร์รี

เมื่อสตีฟจากไป ก็มักมีแต่คนมาถามเธอว่าเธอจะแต่งงานใหม่อีกครั้งไหม หรือได้เจอใครบ้างรึยังเพราะเธอเป็นหม้ายตั้งแต่ยังสาว แถมมีข่าวลือว่าเธอออกเดตกับผู้ชายหลายคน เช่น พอล (Paul) กับ ฮัลค์ (Hulk), รัสเซล โครว์ (Russell Crowe) หรือริชาร์ด วิลกินส์ (Richard Wilkins) แต่เธอก็ตอบกลับไปว่าเธอยุ่งเกินกว่าจะไปคิดเรื่องนั้นได้ และยังปฏิเสธการคาดเดาต่าง ๆ นานาเมื่อพูดถึงเรื่องนี้

โดยเธอพูดไว้ว่า “ฉันยังคงมีรู้สึกกับสตีฟ ถ้าฉันไม่ได้แต่งงานกับสตีฟ ฉันก็คงไม่ได้แต่งงานไปเลย ฉันไม่เคยออกเดต ไม่แม้แต่จะมองหาด้วยซ้ำ ตอนนั้นฉันอายุ 27 ปี และเอาแต่คิดว่าชีวิตของฉันก็คงมีแต่เรื่องงานนั่นแหละ แต่แล้วฉันก็ได้พบกับสตีฟและตกหลุมรักเขา ความหมายของชีวิตก็คือความรักที่ไม่มีเงื่อนไขนี่แหละ ถ้าคุณสามารถมีสิ่งนั้นได้ ฉันคิดว่าคุณพอแล้วแหละ !”

ยังคงซื่อสัตย์และยึดติดอยู่กับเนื้อคู่ของตัวเองจนถึงที่สุด

เธอยังกล่าวอีกว่า “แบบว่า ถ้าฉันเอาแต่พูดคำนี้ บางทีอีก 15 ปีต่อจากนี้ผู้คนคงจะเริ่มเชื่อฉันได้เองในที่สุด แค่สตีฟก็เพียงพอแล้วสำหรับฉัน ก็แค่นั้นแหละ ฉันเคยมีความรักที่ยิ่งใหญ่ และนั่นก็เพียงพอแล้วที่จะคงอยู่ไปตลอดชั่วชีวิตนี้” แม้กระทั่งกาลเวลาล่วงเลยมานานหลายปีจวบจนทุกวันนี้ เธอก็ยังคงเป็นคุณแม่และภรรยาที่ซื่อสัตย์ของสตีฟอยู่เสมอ

ความรักที่ยังคงเดินหน้าต่อไปในแบบที่สตีฟเองก็คงจะซาบซึ้ง

บินดีกับโรเบิร์ตยังคงแสดงให้เห็นถึงความรักที่พวกเขามีต่อคุณพ่อที่เสียไปแล้ว โดยระลึกถึงท่านผ่านทางการแชร์รูปภาพต่าง ๆ ลงบนโลกอินเทอร์เน็ต โดยพวกเขามีแฮชแท็กที่ไม่เหมือนใครด้วยว่า #SteveIrwinDay ซึ่งเป็นอนุสรณ์ความทรงจำถึงสตีฟ รวมถึงเป็นการรวบรวมช่วงเวลาดี ๆ ที่เขาเคยมีกับสัตว์ทั้งหลาย ผู้คน และที่สำคัญที่สุดคือกับครอบครัวของเขา

เขาไม่เคยล้มเหลวในการเป็นพ่อคนและการเป็นสามีเลยตั้งแต่ที่ลูก ๆ ยังเด็ก ถึงแม้ว่าชีวิตของเขาจะพันผูกอยู่กับสัตว์ป่าทั้งหลาย แต่เวลาส่วนใหญ่ของเขาก็ยังคงมอบให้แก่ครอบครัว ซึ่งสิ่งนี้แสดงออกมาให้เห็นในมรดกที่เขาทิ้งไว้ข้างหลัง ครอบครัวของเขายังคงสานต่อความรักและความหลงใหลที่สตีฟมีต่อสัตว์ป่า โดยการยังออกไปสำรวจพื้นที่ป่าด้วยกันด้วยความรอบรู้ตลอดจนพกพาความตื่นเต้นไปด้วยดุจเดียวกันกับที่สตีฟเคยเป็น

คุณเชื่อในเรื่องคนที่เกิดมาเป็นเนื้อคู่กันไหม ? แบ่งปันคอมเมนต์ของคุณเพื่อบอกเล่าเรื่องราวช่วงเวลาดี ๆ ที่คุณกับคนพิเศษของคุณเคยมีร่วมกันหน่อยสิ

เครดิตภาพพรีวิว robertirwinphotography / Instagram, TerriIrwin / Twitter
แชร์บทความนี้