สาว 11 คนเผยเหตุผลที่พวกเธอได้ตัดสินใจที่จะเลิกเสริมสวยตลอดไป

ผู้หญิงทุกคนตัดสินใจที่จะเปลี่ยนบางอย่างในรูปร่างหน้าตาของเธอในไม่ช้าก็เร็ว โดยบางคนชอบการเสริมสวย แต่บางคนก็กลับหลีกเลี่ยงมัน แล้วก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเสมอไปที่จะเลิกแต่งหน้าและกำจัดขน เหมือนกับการตัดสินใจไว้ขนต่าง ๆ หรือขนคิ้ว เช่นกัน แต่ทว่าผลลัพธ์ก็มักจะเกินความคาดหมายของเราทั้งหมดอยู่บ่อย ๆ เลยล่ะ

ที่ชีวิตสดใส พวกเราได้พูดคุยกับสาว ๆ ทั้ง 11 คนที่ตัดสินใจเลิกทำตามขั้นตอนเสริมสวยต่าง ๆ ที่เป็นที่นิยม โดยพวกเธอก็ล้วนมีเหตุผลที่แตกต่างกันออกไปในเรื่องนี้ ซึ่งได้นำมาแบ่งปันกับเรา

สาว ๆ เลิกทำขั้นตอนกำจัดขนแบบต่าง ๆ

• ดารีน่า: ครั้งหนึ่งฉันตัดสินใจไปแว็กซ์บิกินี่ ฉันรู้ว่ามันจะต้องเจ็บ แต่ฉันก็ไม่ได้พร้อมสำหรับความจริงที่ว่าช่างแว็กซ์ขนจะเอาผิวหนังออกไปพร้อมกับขนของฉันด้วย ฉันไม่รู้ว่าเป็นแค่เฉพาะฉันหรือเปล่า แต่ฉันจะไม่ทำสิ่งนี้อีกต่อไป
• ซูซาน: ฉันได้ไปหาช่าง 2 คนเพื่อทำแว็กซ์น้ำตาลตรงบิกินี่ให้อยู่ได้นาน 6 เดือน ในตอนแรกฉันชอบผลลัพธ์ที่ได้นะ คือขนขึ้นช้ามาก ๆ แถมยังมีผิวเรียบเนียนไร้ที่ติไปนานสองสามวัน แต่ต่อมาก็เริ่มมีขนคุดและมีเส้นขนสองสามเส้นงอกออกจากรูขุมขนเพียงรูเดียว ผิวของฉันระคายเคืองมากจนรู้สึกเจ็บเมื่อใส่กางเกงใน ฉันไม่สามารถแม้แต่จะโกนขนปกติได้เลยล่ะ ฉันต้องใช้เครื่องโกนหนวดไฟฟ้าและให้ความชุ่มชื้นกับผิว แน่นอนว่าฉันล้มเลิกการทดลองนี้ในทันทีที่เริ่มมีปัญหา อย่างไรก็ตามขนของฉันเริ่มที่จะขึ้นน้อยลงเมื่อเวลาผ่านไป แต่ว่าก็ยังดูดกมากกว่าก่อนทำแว็กซ์

ผู้หญิงไม่ต้องการไปทำเล็บที่ร้านเสริมสวยอีกต่อไป

• เลซี่: ฉันเคยทำเล็บเจลเป็นเวลานาน 8 ปีติดต่อกัน แต่ในช่วงที่ให้นมลูก มันได้หยุดการทำเล็บของฉันเนื่องด้วยความไม่สมดุลของฮอร์โมน นอกจากนี้ฉันยังเกลียดการใช้เวลา 2 ชั่วโมงในร้านเสริมสวย มันน่าเบื่อมากเลยล่ะ แต่ว่าฉันก็ยังไม่กล้าที่เลิกทำซักที แต่แล้วร้านเสริมสวยก็ปิดไปช่วงหนึ่ง ฉันจึงต้องเอาเจลเก่าออก และตอนนี้ฉันก็ไม่ได้ทำมันแล้วและใช้ชีวิตอย่างสงบสุข
• โอลิเวีย: 2 ปีผ่านไปตั้งแต่ฉันเลิกทำเล็บเจล ฉันไม่เคยมีปัญหากับเล็บอีกเลย มันแข็งแรงและเรียบเนียนอยู่เสมอ เมื่อฉันเริ่มทำเล็บเจลครั้งแรก ฉันชอบผลลัพธ์ที่ได้เพราะมันดูสวย แถมยังติดทนนาน แต่หลังจากที่เอาเล็บเจลออก เล็บของฉันก็บางมาก หักง่าย และเจ็บ ฉันมีทางเลือกว่าจะทำเล็บเจลเพื่อปกปิดเล็บที่บอบบางของฉัน หรือว่าปล่อยให้เล็บของฉันได้พักฟื้นจากความเจ็บปวดและความเสียหาย จากนั้นค่อยทำร้ายพวกมันอีกครั้งด้วยผลิตภัณฑ์ที่น่ากลัวเหล่านี้ ฉันได้ตัดสินใจที่จะทำเล็บโดยที่ไม่ทาสี และถ้าฉันอยากทาสี ฉันก็จะเคลือบด้วยยาทาเล็บสีใสที่บ้าน
• แอนนา: ผิวของฉันบางมากและเส้นเลือดฝอยก็อยู่ใกล้กับผิว แล้วก็ไม่รู้ทำไมช่างทำเล็บจึงตัดเล็บลึกเกือบทุกครั้ง บางคนถึงกับสงสัยว่าทำไมฉันถึงรู้สึกเจ็บและพวกเขาก็ไม่ตอบสนองต่อคำขอให้ทำเล็บฉันอย่างอ่อนโยนมากขึ้น ฉันหาช่างทำเล็บดี ๆได้ยาก เพราะว่าฉันเดินทางบ่อย มีอยู่ครั้งหนึ่งฉันบังเอิญไปทำเล็บกับช่างมือใหม่ แล้วเธอได้ทำเล็บที่ยาวและสวยงามของฉันให้สั้นลงมาก นอกจากนี้เธอทำลายเล็บของฉันบางส่วนด้วยเครื่องขัดเล็บในตอนที่เธอพยายามเอาสีเล็บเจลออก ฉันร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดและตัดสินใจเลิกทำ แต่ก็ยังต้องจ่ายเงินค่าล้างเล็บเจล ! แล้วตั้งแต่นั้นมาฉันก็ทำเล็บเอง หรือไม่ก็ไปทำเล็บที่ร้านเสริมสวยโดยที่ไม่ต้องตัดหนังกำพร้าออก
• ฉันไม่ทาเล็บเพราะฉันมักจะกินอาหารด้วยมือโดยไม่ใช้ช้อนกับส้อม ถ้าฉันทำเล็บก็คงพังแน่ อีกทั้งฉันไม่สามารถสัมผัสเล็บหรือแม้แต่อากาศได้เมื่อเล็บของฉันถูกเคลือบไปด้วยยาทาเล็บ สำหรับฉันแล้ว เล็บที่ไม่ทาสีจะดูดีมีระดับมากกว่า แต่มันก็วิเศษมากนะที่เห็นคนอื่นทำ เพราะมันดูสนุกและมีความสร้างสรรค์ แล้วทุกวันนี้ก็มีเทคนิคและสไตล์การทำเล็บมือหรือเล็บเท้ามากมายสำหรับเล็บของคุณ ฉันชอบดูวิดีโอทำเล็บของพวกเขาเพราะมันคือศิลปะจริง ๆ เลยล่ะ © Anice Hassan / Quora
  

สาวผู้กล้าที่ไม่สนใจขั้นตอนเสริมสวยอันยอดนิยม

• ไดอาน่า: ฉันไม่ทำเล็บ คิ้ว ริมฝีปาก หรือขนตา และฉันมีเหตุผลดี ๆ สองสามข้อเรื่องนี้ ข้อแรกฉันเชื่อว่าอุตสาหกรรมความงามสร้างรายได้จากความรู้สึกไม่มั่นใจของผู้หญิง แล้วฉันก็ไม่ชอบสิ่งนั้น คนที่ได้รับประโยชน์จากสิ่งนี้ทำให้ผู้หญิงเชื่อว่าขนตาและเล็บตามธรรมชาติของพวกเธอไม่ดีพอและพวกมันควรจะดูสมบูรณ์แบบ เพราะไม่อย่างนั้นแล้วคุณจะถูกตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงที่ดูไม่เรียบร้อย แต่ฉันไม่คิดว่าจะมีใครมาสนใจขนตาของคุณหรอก คุณสามารถดูแลคิ้วกับเล็บได้เองที่บ้าน แต่นี่ก็เป็นเพียงความคิดเห็นของฉันนะ เพราะทุกคนควรทำในสิ่งที่พวกเขาอยากจะทำ ข้อสองฉันไม่ต้องการเสียเวลาและเงินของฉันไปกับร้านทำผม ฉันชอบที่จะจ่ายเงินให้กับสิ่งที่ฉันนั้นหลงใหล

สาว ๆ เหล่านี้เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อเครื่องสำอางแต่งหน้า

• เทย์เลอร์: 3-4 ปีที่แล้ว ฉันไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าการออกไปข้างนอกโดยที่ไม่มีรองพื้นบนใบหน้าจะเป็นยังไง แม้ว่าฉันจะไปยิมหรือซูเปอร์มาร์เก็ต อย่างน้อยฉันก็ยังคงแต่งหน้าแบบเบา ๆ แถมยังพกเครื่องสำอางชิ้นเล็กไปด้วยเพื่อใช้เติมหน้าเมื่อจำเป็น แต่อากาศร้อนมากในช่วงหน้าร้อน แล้วการแต่งหน้าไปยิมก็โง่สิ้นดี นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ฉันพยายามออกไปข้างนอกโดยที่ไม่แต่งหน้ากลบสิว จนในที่สุดฉันก็แปลกใจที่รู้ตัวว่าความแตกต่างระหว่างแต่งหน้ากับหน้าสดไม่มีนัยสำคัญอะไรเลย ตอนนี้ฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมฉันถึงเคยไปหมกมุ่นอยู่กับการทำให้ผิวของฉันดูไร้ที่ติ เพราะว่าผิวของฉันก็เป็นปกติดี ฉันยังคงแต่งหน้าในโอกาสพิเศษบางครั้ง แต่ในชีวิตประจำวัน ฉันใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่ให้ผิวดูแมท
• อนาสตาเซีย: ฉันไม่เคยสนุกกับการแต่งหน้าเลย ผิวของฉันรู้สึกอัดแน่นไปด้วยรองพื้น มาสคาร่าหลุดออกและเข้าตาอยู่ตลอดเวลา มันทำให้ฉันอยากร้องไห้ แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะในกรณีนี้ขนตาจะแข็ง ฉันมักจะรู้สึกถึงอายแชโดว์ที่ทาอยู่บนเปลือกตาและก็ปวดหัวกับมัน ฉันคิดว่า “ทำไมตัวฉันถึงเสียสละมากขนาดนี้กันนะ ?” ฉันก็เลยทิ้งเครื่องสำอางแต่งหน้าทั้งหมดไป ฉันไม่ได้แต่งหน้ามานานเกิน 4 ปีแล้ว ฉันรู้สึกดีมากเลยล่ะ ! ฉันเห็นด้วยนะว่าการแต่งหน้าดี ๆ ก็สวย แต่ความสวยตามธรรมชาติก็ไม่ได้สวยไปน้อยกว่าเลยสำหรับฉัน
• มาร์โก้: ฉันเริ่มใช้รองพื้นตอนเรียนชั้นเกรด 8 เพราะทุกคนรอบตัวบอกว่าผู้หญิงควรได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและดูมีเสน่ห์ โดยในปีแรกที่เรียน ฉันตื่นเช้าเพื่อแต่งหน้า มันยากจริง ๆ ฉันก็เลยเริ่มแต่งหน้าน้อยลงอยู่บ่อย ๆ แต่ครั้งหนึ่งฉันเคยถามตัวเองว่า “ทำไมการ “ดูแลเป็นอย่างดี” จึงหมายถึงการปกปิดรอยสิวด้วยรองพื้น ? ทุกคนมีสิวและพวกผู้ชายก็ไม่ได้สนใจพวกมันเลย นี่เป็นมาตรฐานด้านเดียวมาก ๆ แต่ฉันก็เริ่มดูแลรักษาผิวของฉัน ทำความสะอาดอย่างถูกวิธี และให้ความชุ่มชื้นกับมัน อีกทั้งฉันยังเปลี่ยนอาหารการกิน ฉันยังคงมีสิวขึ้นอยู่บ้าง แต่ก็ขึ้นน้อยลงและไม่ได้รบกวนฉันมากนัก ตอนนี้ฉันไม่ได้ใช้อะไรปกปิดผิว ไม่เสียเวลาในตอนเช้า และก็ไม่ต้องกลัวที่จะทำเสื้อผ้าเปื้อน
• ฉันไม่เคยชอบการแต่งหน้า ฉันไม่ได้แต่งหน้าตอนเป็นวัยรุ่นและตอนโตเป็นผู้ใหญ่ อีกทั้งไม่แต่งหน้าไปทำงานด้วย ฉันชอบโอกาสที่พิเศษ โดยฉันชอบแต่งตัวไปงานที่พิเศษ ๆ และนั่นเป็นครั้งเดียวที่ฉันจะใช้คอลเลคชั่นเครื่องสำอางที่ประกอบไปด้วยดินสอเขียนขอบตา มาสคาร่า และลิปสติก ฉันไปไกลถึงขั้นที่พูดได้ว่าฉันไม่ใส่เครื่องประดับ ฉันไม่เคยชอบเครื่องประดับ ฉันไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงเจาะหู ฉันยังเบื่อกับการเจาะริมฝีปากของฉันด้วย ฉันต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะชินกับแหวนแต่งงานของตัวเอง ฉันเพิ่งเริ่มสวมต่างหูเป็นประจำ เพียงเพราะมันมีขนาดเล็กและได้เป็นของขวัญมา ฉันไม่ได้เกลียดการแต่งหน้านะ ฉันแค่ไม่ได้ทำมัน © Ekaterine Iberi / Quora
• ฉันไม่ใช้เครื่องสำอางแต่งหน้า ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากใช้มัน แต่เพราะฉันไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง มีวิธีสอนแต่งหน้ามากมายในยูทูป (Youtube) แต่ฉันก็ขี้เกียจเกินไปสำหรับเรื่องนี้ พี่สาวของฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการแต่งหน้า แต่ฉันไม่เคยถามเธอเลย ฉันรู้สึกอึดอัดเพราะว่าเธอแก่กว่าฉัน 5 ปี และเธอก็ปฏิบัติกับฉันเหมือนน้องสาวอยู่เสมอ และสุดท้ายเครื่องสำอางมีราคาแพง ฉันหมายถึงฉันชอบอาหาร หนังสือ และของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำให้ฉันมีความสุขมากกว่าการแต่งหน้า บางคนอาจคิดว่าฉันเป็นคนขี้เกียจ แต่ในความเป็นจริงฉันรักใบหน้าของฉันในแบบที่ไร้เครื่องสำอางใด ๆ © Emma Neko / Quora

ผู้เขียนเรื่องนี้ได้เลิกแก้ไขรูปทรงคิ้วของตัวเอง

• เฮเลน: ฉันไม่อยากถอนขนคิ้วและฉันทำครั้งแรกเมื่อตอนอายุ 15 ปี คือเพื่อนเกลี้ยกล่อมฉันให้ทำ เพราะผู้หญิงทุกคนในชั้นเรียนทำตั้งแต่อายุ 10 ขวบ แต่ฉันได้ไว้ขนคิ้วกลับคืนมาและเลือกรูปทรงที่ดูดีกับฉันในท้ายที่สุด แล้วปีนี้ฉันตัดสินใจกลับไปใช้ทรงคิ้วที่เป็นธรรมชาติเพราะฉันคิดว่ามันสวย ดังนั้นฉันจึงเลิกใช้แหนบไปสองสามเดือน แฟนของฉันสนับสนุนฉัน เขาบอกว่าคิ้วของฉันคือเรื่องของฉัน และเขาจะยอมรับคิ้วรูปทรงใดก็ตามที่ฉันเลือก ตอนนี้ฉันผ่านไปครึ่งทางแล้ว แต่ฉันแน่วแน่มาก

คุณหมกมุ่นกับขั้นตอนเสริมสวยหรือเปล่า ? แล้วคุณจะเลิกทำพวกมันมั้ย ? แบ่งปันความคิดเห็นของคุณลงในคอมเมนต์ด้านล่างกันได้เลย