11 ท่าทางที่บอกได้ว่าบุคคลนั้นกำลังรู้สึกไม่มั่นใจได้ในทันที
ผู้คนไม่ชอบแสดงความอ่อนแอของตัวเอง เพราะงั้นในช่วงเวลาที่ยากลำบาก เราจึงพยายามที่จะซ่อนความรู้สึกไม่ปลอดภัยของตัวเอง และแสดงให้คนอื่นเห็นว่าเราสามารถควบคุมสถานการณ์นั้นได้และเราสบายดี แต่ถึงอย่างนั้น แค่คำพูดเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอในการบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว ภาษากายสามารถเผยอารมณ์ที่แท้จริงและความรู้สึกของบุคคลได้
พวกเราที่ชีวิตสดใสได้รวบรวมรูปแบบของท่าทางที่จะมีประโยชน์สำหรับคนที่ต้องการเรียนรู้วิธีในการอ่านคนที่พวกเขากำลังพูดคุยด้วยเหมือนกับหนังสือที่เปิดอยู่ และหยุดทำตัวเขินอาย
1. หลังค่อม
ท่าทางที่ไม่ดีไม่เพียงแค่ทำร้ายสุขภาพของเราเท่านั้น แต่มันยังบอกคนอื่น ๆ ถึงลักษณะของบุคคลได้มาก คนที่รู้สึกไม่ปลอดภัยพยายามเป็นอย่างมากที่จะไม่เป็นที่สังเกตเห็น เพราะงั้นพวกเขามักจะเริ่มทำหลังค่อมเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอไฮโอพบว่าคนที่นั่งหลังตรงให้คะแนนตัวเองในด้านจุดแข็งและความสามารถที่ดีกว่า ในขณะที่คนที่หลังค่อมมีความอ่อนไหวต่ออารมณ์ในด้านลบมากกว่า และมีความนับถือตัวเองที่ต่ำ
2. กอดอกหรือไขว่ห้าง
การกอดอกคือเกราะกำบังที่คนใช้เพื่อกันตัวเองจากโลกภายนอก เป็นการป้องกันอวัยวะที่สำคัญของตัวเองอย่างปอดและหัวใจของพวกเขาโดยไม่รู้ตัว ในท่าทางแบบนี้ เราจะทำให้ตัวเองรู้สึกสบายใจด้วยการบรรเทาความเครียดผ่านการกอดตัวเอง และเราสามารถแสดงถึงการป้องกันที่เตรียมพร้อมของขอบเขตส่วนตัวของเรา ในหลาย ๆ กรณี ท่าทางแบบปิดบ่งบอกได้ว่าบุคคลกำลังรู้สึกไม่สบายใจอยู่
การไขว่ห้างเป็นวิธีการแสดงออกถึงความรู้สึกไม่ปลอดภัยที่ละเอียดอ่อนกว่า เพราะว่าผู้คนมักจะมีแนวโน้มที่จะไม่สนใจร่างกายส่วนล่างของคนที่พวกเขากำลังพูดคุยด้วย อย่างไรก็ตาม ท่าทางของร่างกายแบบนี้บอกได้ว่าบุคคลกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่อึดอัดใจ
3. การแกว่งขา
ยิ่งส่วนไหนของร่างกายอยู่ห่างจากสมองมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งควบคุมมันได้น้อยลงเท่านั้น ผู้คนควบคุมการแสดงออกทางสีหน้าของพวกเขาได้ดี และเราปรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์ได้ด้วยซ้ำไป แต่เราไม่ค่อยใส่ใจในการเคลื่อนไหวของขาเลย ถึงอย่างนั้น การแกว่งขาเป็นความพยายามของจิตใจมนุษย์ที่จะชดเชยความเครียดอย่างหนัก
4. ทำตัวยุกยิก
เมื่อคนเรารู้สึกตื่นตระหนกสุดขีด สมองจะส่งสัญญาณที่บอกว่า “ทำให้ฉันใจเย็นลง !” และมือก็จะ “ตอบสนอง” คำสั่งนี้โดยทันที การเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว, การสัมผัสสิ่งของ, เสื้อผ้า, เครื่องประดับและผม คือรูปแบบของพฤติกรรมที่พยายามจะสงบสติอารมณ์ทั้งสิ้น ซึ่งจะทำให้บุคคลนั้นรู้สึกสบายใจอีกครั้ง
5. ซ่อนมือไว้ในกระเป๋ากางเกง
ในบางวัฒนธรรม การเก็บมือไว้ในกระเป๋านั้นนับเป็นท่าทางที่หยาบคาย แต่ถึงแม้ว่าเราจะมองข้ามคำถามในเรื่องของมารยาท ท่าทางนี้มักจะถูกมองว่าเป็นสัญญาณของการแยกตัว, พฤติกรรมที่สงวนท่าที และบ่งบอกว่าบุคคลนั้นกำลังปิดบังอะไรบางอย่างอยู่
6. ปิดปากของตัวเองด้วยมือหรือนิ้วมือ
การปิดปากของตัวเองด้วยมือเป็นท่าทางที่เด็กใช้ เมื่อพวกเขานึกได้ว่าพูดอะไรบางอย่างมากเกินไป เมื่อคนเราโตขึ้น พวกเราควบคุมภาษากายได้ดีขึ้น แต่การป้องปากโดยใช้มือก็ยังคงอยู่ แค่มาในรูปแบบอื่น เมื่อผู้คนกลัวหรือไม่ต้องการแสดงความคิดเห็นของพวกเขา สมองจะส่งสัญญาณเพื่อยับยั้งคำพูดที่อยู่ในระดับจิตใต้สำนึก และนิ้วมือก็จะแตะที่ริมฝีปากอย่างเลี่ยงไม่ได้
7. การสัมผัสส่วนต่าง ๆ ของร่างกายไปทั่ว
การลูบคอ, การจับหน้าผาก และการเกาส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เป็นท่าทางอัตโนมัติที่เราทำเพื่อบรรเทาความเครียด มันบอกได้ว่าบุคคลกำลังพบกับความไม่สบายใจทางอารมณ์, กำลังมีปัญหากับบางอย่าง หรือรู้สึกไม่ปลอดภัย
8. การนั่งที่ขอบเก้าอี้
คนที่กำลังประหม่าจะรู้สึกทำอะไรไม่ถูกและรู้สึกไม่สำคัญ และโลกรอบตัวก็จะดูเป็นศัตรูและไม่เป็นมิตร การนั่งที่ขอบเก้าอี้อาจจะถูกมองว่าเป็นอาการของการเกร็งเมื่อบุคคลอยากจะหายตัวไป และต้องการพื้นที่ที่เล็กที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
9. การกระแอมก่อนที่จะพูดอะไรบางอย่าง
เมื่อพยายามที่จะหลีกเลี่ยงท่ามือปิดปาก ผู้คนมักจะกระแอมก่อนที่จะพูด อีกหนึ่งสาเหตุสำหรับพฤติกรรมนี้อาจจะเป็นเพราะว่าบุคคลนั้นอยู่ภายใต้ความเครียด และมีอัตราการเต้นของหัวใจที่เร็วกว่าปกติ, เหงื่อออกและปากแห้ง การกระแอมจะช่วยให้พวกเขาจัดการกับอาการคอแห้งได้
10. การฝืนยิ้ม
รอยยิ้มเป็นปฏิกิริยาการป้องกันตัวของร่างกาย ที่ช่วยให้บุคคลซ่อนความตื่นตระหนกของพวกเขาเอาไว้ได้ การฝืนยิ้มสามารถสังเกตได้จากการที่มุมปากถูกยกสูงมากเกินไป หรือกล้ามเนื้อบริเวณรอบตาไม่ขยับ
11. การยืนท่าเดิมเป็นเวลานาน
มีปฏิกิริยาในการป้องกันตัวสามแบบที่จะเห็นได้จากสภาวะของร่างกาย ว่าเรากำลังรู้สึกถูกคุกคาม นั่นคือการต่อย, การวิ่งหนี หรืออาการตัวแข็ง คนที่รู้สึกไม่ปลอดภัยอาจจะไม่สามารถเผชิญหน้ากับศัตรูได้โดยตรง และพวกเขาอาจจะวิ่งหนีไม่ได้เสมอไป นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมในเวลาตึงเครียด บุคคลเหล่านี้อาจจะตัวแข็งและรอให้สถานการณ์ที่ไม่น่ายินดีนี้จบลง
คุณเคยสังเกตท่าทางที่คุณใช้ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดบ้างหรือไม่ ?