นี่คือเหตุผลว่าทำไมการเลี้ยงลูกสาวให้เป็นเด็กสาวนิสัยดีถึงเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ของพ่อแม่

มีพ่อแม่หลายคนที่พยายามจะเลี้ยงลูกสาวให้เป็นลูกที่สมบูรณ์แบบ คนที่เคารพคนอื่น ใจดี และคนที่รับบทบาทเป็น “เด็กผู้หญิงในอุดมคติ” ที่สังคมต้องการให้เป็น แต่การฝึกเธอให้กลายเป็นคนไม่มีที่ติตลอดชีวิตของเธออาจเป็นผลเสียต่อเธอได้และอาจมีผลลัพธ์ที่ย่ำแย่และอันตรายได้เช่นกัน

พวกเราที่ชีวิตสดใสเชื่อว่าความดีและการเป็นคนน่ารักมันเป็นสิ่งจำเป็นในโลกและมันจะเป็นไปอย่างนั้นอีกนาน แต่มันต้องถูกใช้อย่างใส่ใจและระมัดระวังด้วย นี่คือ 7 เหตุผลว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น:

1. เธออาจจะสร้างความสัมพันธ์ที่ยืนยาวได้ยาก

ทุกคนอยากจะได้เพื่อนที่ดูแลเอาใจใส่เราทั้งนั้น แต่ถ้าผู้หญิงคนหนึ่งสนใจแต่จะทำให้คนอื่นพอใจอยู่เสมอ มันก็มีโอกาสที่เพื่อนของเธอจะหาประโยชน์จากเธอและจะเข้ามาหาเธอเมื่อพวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากเธอเท่านั้น ดังนั้นแล้ว ความสัมพันธ์จึงตื้นเขินและเป็นเรื่องที่เธอต้องให้อยู่ฝ่ายเดียว

พอเป็นเรื่องของความสัมพันธ์แบบโรแมนติก มันสามารถกลายเป็นความสัมพันธ์ที่จืดชืดและไม่มีความสุข แย่ยิ่งกว่านั้นมันอาจเป็นความสัมพันธ์ที่อีกฝ่ายกระทำรุนแรงกับเธอได้

2. ผู้คนอาจจะไม่เชื่อเธอ

การเป็นคนไม่คิดถึงตัวเองเลย อาจทำให้คนมองเธอว่าเป็นคนเชื่อถือไม่ได้ นี่ก็เป็นเพราะว่าคนอื่นอาจจะรู้สึกว่าเธอมีเจตนาแฝงอยู่เบื้องหลังความใจดีแบบอัตโนมัติของเธอและจะเริ่มตั้งคำถามกับเธอ ไม่ใช่แค่เธอจะถูกผู้คนสงสัยอยู่ตลอดเวลาเท่านั้น แต่เธออาจจะถูกมองว่าเป็นคนอ่อนแอและมักจะถูกกดขี่จากคนอื่น ๆ และไม่มีเสียงเป็นของตัวเองด้วย

3. เธอจะไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง

มีคำกล่าวที่ว่าคุณต้อง “ช่วยตัวเองก่อน ก่อนจะไปช่วยคนอื่น” สิ่งหนึ่งของคนนิสัยดีก็คือพวกเขามักจะเอาคนอื่นมาก่อนตัวเอง ถ้าคุณตั้งใจจะเลี้ยงลูกให้เป็นเจ้าหญิงผู้สมบูรณ์แบบและไม่คิดถึงตัวเองเลยล่ะก็ เธอจะใช้ทุกความพยายามเพื่อรับใช้และทำให้คนอื่น ๆ พอใจ ผลก็คือ เธอจะไม่ใจดีกับตัวเธอเองและจะลืมดูแลตัวเองในแบบที่เธอสมควรได้รับ ซึ่งสุดท้ายแล้วจะนำไปสู่อาการเหนื่อยล้าและความเจ็บป่วย

4. เธออาจจะถูกโน้มน้าวได้ง่ายและนั่นนำไปสู่อันตราย

การเป็นคนรักคนอื่นและดูแลคนอื่นอย่างมากเกินไปอาจทำให้ลูกสาวคุณกลายเป็นคนซื่อและจะมองไม่ออกเมื่ออยู่ในสถานการณ์อันตรายและสิ่งที่ไม่เหมาะสมข้างหน้า มันยังจะเป็นโอกาสให้คนมาบังคับเธอและหาประโยชน์จากจิตใจที่ดีและทัศนคติที่ต้องการให้ทุกคนพอใจของเธอ ความต้องการที่จะช่วยเหลือคนอื่นอยู่ตลอดเวลาอาจจะทำให้เธอตกอยู่ในอันตรายจากการถูกกระทำด้วยความรุนแรงและอาจจะไม่สามารถปฏิเสธได้

5. เธออาจจะไปได้ไม่ไกลนักในสายอาชีพของเธอ

มีข้อสังเกตที่แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงอายุมากกว่ามักจะรู้สึกเสียดาย “โอกาสเป็นล้านที่พลาดไป” อย่างไม่มีเหตุผล การศึกษาอื่น ๆ ยังเผยให้เห็นว่าการเป็นคนใจดีเกินไปอาจจะ “ไม่ดีเลย” พอเป็นเรื่องธุรกิจและอาชีพของคนคนหนึ่ง เพราะเธอเป็นคนใจดีมาก ๆ ที่ต้องการทำให้คนอื่นได้สิ่งที่ต้องการ เธอจะไม่สามารถจดจ่อกับตัวเองและเป้าหมายในอาชีพของเธอเองได้ การจดจ่อในการทำให้คนอื่นประสบความสำเร็จจะทำให้เธอไม่สามารถไปถึงความสามารถของเธอได้อย่างเต็มที่และจะไม่สามารถทำให้ความฝันและความต้องการของเธอประสบความสำเร็จได้

6. เธออาจจะมีพฤติกรรมที่ไม่ดีได้

การทำให้คนอื่นพอใจและมีความสุขอาจจะกลายเป็นการเสพติดและอาจจะทำให้ความสามารถในการเป็นคนที่ยืนด้วยตัวเองได้เกิดขึ้นได้ช้าลง การกระทำของคนที่ช่วยคนอื่นมากเกินไปอาจจะนำไปสู่การกระทำที่ไม่ดีต่อสุขภาพอื่น ๆ และรูปแบบของการเสพติดอื่น ๆ ได้อีก เช่น การกินมากเกินไป การใช้เงินมากเกินไป และการให้มากเกินไป ซึ่งทั้งหมดจะทำให้เธอเหี่ยวเฉาลงและทำให้เธอต้องเจอกับอันตราย

7. สุดท้ายแล้วเธออาจจะมีปัญหาสุขภาพจิต

การเป็นผู้ให้ตลอดเวลาอาจเป็นเรื่องที่ทำให้เหนื่อยล้าได้ เธออาจจะซ่อนความเหน็ดเหนื่อยและความเศร้าเอาไว้เบื้องหลังรอยยิ้มเล็ก ๆ นั่น เพราะเธออยากจะให้อยู่เสมอแต่ไม่ต้องการรับ ด้วยการเก็บทุกอย่างเอาไว้กับตัวเองอย่างนี้อาจจะทำให้เธอเป็นเหยื่อของโรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า และพฤติกรรมเสพติดอื่น ๆ ที่ทำให้เธอกลายเป็นทาสของความทุกข์ได้นั่นเอง

คุณเชื่อว่ามีสิ่งที่เรียกว่าดีเกินไปอยู่จริงไหม? หรือบางทีคุณอาจจะเป็นเด็กคนนั้นที่ถูกเลี้ยงมาให้เป็นเด็กดี มีปัญหาและความลำบากอะไรที่ตอนนี้คุณต้องเจอในฐานะผู้ใหญ่บ้าง?