ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

ทำไมการบอกคนที่ป่วยซึมเศร้าว่าให้ “สู้ ๆ” ถึงเป็นหนึ่งในสิ่งที่แย่ที่สุดที่ควรจะทำ

อ้างอิงจากองค์การอนามัยโลก (World Health Organization) ในปัจจุบันมีผู้คนกว่า 264 ล้านคนทั่วโลกที่ต้องทนทุกข์อยู่กับโรคซึมเศร้า โดยตัวเลขทางสถิตินี้เป็นสัญญาณเตือนภัยว่าเราไม่ควรแต่จะดูแลรักษาสุขภาพจิตของตนเองแต่เพียงเท่านั้น แต่เราควรจะดูแลสภาพจิตใจของกันและกันอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ถึงแม้บ่อยครั้งสิ่งที่เราพูดออกไปนั้นเราจะพูดด้วยความตั้งใจที่ดี แต่บางครั้งคำพูดของเราก็อาจทำร้ายจิตใจคนที่กำลังป่วยเป็นโรคซึมเศร้าได้มากกว่าที่เราคิดนัก

มีคำพูดที่ใช้กันทั่วไปมากมายที่ผู้คนมักจะใช้เพื่อพูดปลอบใจคนที่กำลังมีภาวะซึมเศร้า แต่จริง ๆ แล้วคำพูดที่ดูทั่วไปเหล่านั้นกลับส่งผลร้ายเสียมากกว่า ชีวิตสดใสได้จดรายการคำพูดเหล่านั้นไว้ด้านล่างของบทความนี้เพื่อให้คุณรู้ตัวว่ามันอาจส่งผลเสียได้มากกว่าที่เราคิดนัก

“ออกไปข้างนอกบ้างเถอะ”

ถึงแม้มันจะเป็นความจริงที่การได้รับแสงแดดจะไปช่วยเพิ่มระดับเซราโทนิน (serotonin) ในร่างกายได้ และการเดินหรือการออกกำลังกายโดยทั่วไปแล้วก็สามารถช่วยให้ใครสักคนรู้สึกดีขึ้นได้จริง ๆ แต่สิ่งสำคัญที่อยากให้ทุกคนจดจำไว้ก็คือโรคซึมเศร้าเป็นปัญหาทางสุขภาพที่ร้ายแรงมาก คนที่ป่วยซึมเศร้าไม่สามารถที่จะจู่ ๆ สลัดทุกอย่างทิ้งแล้วเดินออกไปข้างนอกได้เลย สำหรับพวกเขาแล้ว แม้แต่งานง่าย ๆ อย่างการลุกจากเตียงก็ยังเป็นเรื่องที่ท้าทายอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

“สู้ ๆ ร่าเริงหน่อย !”

ถึงแม้ว่าคุณจะปรารถนาดี แต่การบอกให้คนที่ป่วยเป็นซึมเศร้า “สู้ ๆ ร่าเริงหน่อย” สามารถทำให้พวกเขาเศร้าขึ้นได้ การบอกให้พวกเขาสลัดความรู้สึกทุกอย่างทิ้งไป สุดท้ายแล้วนั่นคือการปฏิเสธความเจ็บปวดของพวกเขา ถ้าพวกเขาสามารถร่าเริงขึ้นมาได้จริง ๆ พวกเขาคงทำไปแล้ว ไม่มีใครอยากจะเศร้าหรอกนะ

“คิดไปเองรึเปล่า”

โรคซึมเศร้าเป็นปัญหาใหญ่และไม่ มันไม่ใช่แค่สิ่งที่อยู่ในความคิดเท่านั้น อาการของโรคนี้สามารถเป็นได้ตั้งแต่ความรู้สึกอยากอาหารเปลี่ยนไป นอนไม่หลับ ไปจนถึงรู้สึกเหนื่อยล้าและไร้ค่า การพูดเช่นนี้กับคน ๆ หนึ่งคล้ายกับคุณกำลังบอกว่าคุณไม่เชื่อว่าภาวะต่าง ๆ ที่พวกเขาเป็นอยู่นั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ

“อย่าเว่อร์”

ถ้าคนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าบ่นให้ฟังว่าพวกเขามีอาการปวดหลังอย่างรุนแรง ปวดหัวบ่อย หรือมองเห็นภาพได้แย่ลง พวกเขาไม่ได้สร้างเรื่องขึ้นมาเองหรือพูดให้ดูโอเว่อร์แต่อย่างใด อาการทางร่างกายเหล่านี้ของโรคซึมเศร้าทำให้การจะผ่านชีวิตไปได้ในแต่ละวันมันยากมากจริง ๆ

“คนอื่นเขาลำบากกว่าเราตั้งเยอะ”

ต่างคนล้วนต่างมีขีดความอดทนที่ต่างกันไป การเปรียบเทียบความเจ็บปวดของตัวคุณเองกับคนอื่นนั้นเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างยิ่ง แค่เพราะใครบางคนดูเหมือนจะผ่านเรื่องราวที่ “เลวร้ายกว่า” ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้สึกแย่กับปัญหาของตัวเองหรอกนะ

“ไม่เห็นดูเหมือนคนเป็นซึมเศร้าตรงไหนเลย”

คนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าไม่จำเป็นที่จะต้องดูซึมเศร้า คนที่หน้ายิ้มแต่หัวใจเศร้าหมอง (smiling depression) นั้นมีอยู่จริง คนเหล่านี้ ถึงแม้ภายในใจของพวกเขาจะรู้สึกแย่มากแค่ไหน พวกเขาก็ไม่เคยจะแสดงมันออกมาให้คนอื่นได้รับรู้ และสวมหน้ากากรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา แท้จริงแล้ว เพื่อน ๆ หรือเพื่อนร่วมงานจะไม่มีทางเชื่อเลยหากคุณเข้าไปบอกพวกเขาว่าคน ๆ นี้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอยู่นะ

แทนที่จะฝืนยัดเยียดความเห็นของคุณให้คนอื่นได้รับรู้หรือเข้าไปตัดสินใครสักคน เราขอแนะนำให้คุณแค่ลองพยายามทำความเข้าใจพวกเขาเท่านั้น ให้ระยะห่างกับพวกเขา และปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยความเมตตา คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าใครคนหนึ่งได้ผันผ่านอะไรมาบ้าง ?

คุณเป็นคนหนึ่งที่เคยต้องต่อสู้กับภาวะซึมเศร้าหรือไม่ ? และคุณผ่านมันมาได้ยังไง ?

แชร์บทความนี้