ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

วิธีที่สามีคนที่สองของทีน่า เทอร์เนอร์ได้ช่วยชีวิตเธอไว้และพิสูจน์ให้เห็นว่าความรักชนะทุกสิ่ง

เหล่าคนดังมีอดีตที่สร้างรอยแผลไว้ให้กับพวกเขา โดยพวกเขาได้เอาชนะอุปสรรคมากมายเพื่อเติมเต็มความฝันของตัวเอง แต่ผู้คนก็มักจะหลงลืมตรงจุดนั้นไป แล้วสำหรับทีน่า เทอร์เนอร์ (Tina Turner) ก็ไม่ได้ถูกยกเว้นเช่นกัน โดยตัวเธอต้องผ่านช่วงชีวิตแบบขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่หลายครั้ง ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังที่เธอมีชื่อเสียง ถึงแม้จะเกิดสถานการณ์เช่นนี้กับเธอ แต่เธอก็สามารถตั้งสติได้และพบความรักในชีวิตของเธอ ซึ่งเป็นคนที่เธอจะแต่งงานด้วยหลังจากที่คบกันมานานกว่า 20 ปี แถมยังได้ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ในยามที่สุขภาพของเธอนั้นอ่อนแอมากที่สุด

ชีวิตสดใสเราอยากแบ่งปันเรื่องราวของทีน่า เทอร์เนอร์ ผู้รวบรวมภาพลักษณ์ของตัวเธอเองในฐานะนักแสดงผู้ทุ่มเทและได้พิสูจน์ให้เห็นว่าฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ

จากลิตเติ้ล แอน สู่ทีน่า เทอร์เนอร์ ราชินี ร็อกแอนด์โรล

Album/EAST NEWS

อาชีพบนเส้นทางสายดนตรีของทีน่าเริ่มต้นขึ้นในช่วงกลางยุค 1950 ในฐานะนักร้องที่ขึ้นแสดงร่วมกับสามีคนแรกของเธอ ซึ่งเป็นเพื่อนนักดนตรีที่ชื่อไอค์ เทอร์เนอร์ (Ike Turner) แห่งวงคิงส์ ออฟ ริทึ่ม (Kings of Rhythm) โดยเธอได้พบกับไอค์ตอนอายุ 17 ปี และถึงแม้ว่าทีน่าจะร้องเพลงในที่สาธารณะมาหลายครั้งในฐานะสมาชิกของคณะนักร้องประสานเสียงในโบสถ์ท้องถิ่น แต่ก็ต้องใช้เวลายาวนานกว่าที่เธอจะสนใจเป็นนักร้องและอุทิศชีวิตให้กับเส้นทางอาชีพนั้น

เธอได้อัดเพลงแรกของเธอภายใต้ชื่อลิตเติ้ล แอน (Little Ann) จนกระทั่งยังไม่ถึงปี 1960 เธอก็ได้เปิดตัวภายใต้ชื่อทีน่า เทอร์เนอร์ ด้วยซิงเกิ้ลเพลง “อะ ฟูล อิน เลิฟ” (A Fool in Love)

ไอค์กับทีน่าได้แยกทางกัน

ไอค์กับทีน่าสามารถร่วมงานด้วยกันในขั้นศิลปินได้และอยู่คู่กันมานานกว่าทศวรรษ แต่ทว่าความสัมพันธ์ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะเธอต้องหนีออกจากบ้านโดยมีเพียงบัตรเครดิตใบเดียวกับเงิน 13 บาทติดตัว เพียงเพื่อที่จะหย่าร้างในอีกสองปีต่อมา

ด้วยหนี้บัตรเครดิตของเธอ เทอร์เนอร์จึงต้องทำงานตั้งแต่เริ่มต้นร้องเพลงในหอประชุมและตามโรงแรม จนกระทั่งโชคได้เข้ามาเคาะประตูชีวิตของเธออีกครั้ง โดยเธอได้เดินทางไปลอนดอนเพื่ออัดอัลบั้มเพลง ไพรเวท แดนซ์เซอร์ (Private Dancer) ซึ่งได้ติด 3 ใน 10 อันดับและได้รับรางวัลแกรมมี่หลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นสาขาบันทึกเสียงแห่งปี นักร้องเพลงป๊อปหญิงยอดเยี่ยม และนักร้องเพลงร็อกหญิงยอดเยี่ยม เรียกได้ว่าทีน่าได้กลับมาแล้ว

รักแรกพบ

ด้วยความมืออาชีพทำให้ทีน่า เทอร์เนอร์มีชีวิตที่ดีมาก แล้วเธอก็ไม่สามารถรู้สึกสมบูรณ์และสมหวังไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว ต่อมาในปี 1985 เธอได้พบกับเออร์วิน บาค (Erwin Bach) สามีคนปัจจุบันของเธอและเป็นผู้บริหารของค่ายเพลงอีเอ็มไอ (EMI) ที่เป็นต้นสังกัดของเธอในยุโรป แล้วการพบกันก็ได้เปลี่ยนชีวิตทั้งคู่ไปตลอดกาล โดยเธอได้กล่าวว่า “มันคือรักแรกพบเลยล่ะ”

แม้แต่ในบัญชีอินสตาแกรมส่วนตัวของเธอ เทอร์เนอร์ได้อ้างว่าเธอเป็นคนที่ชวนเขาออกเดท โดยที่ไม่ได้คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต “ในบางครั้งเพียงไม่กี่วินาทีก็เปลี่ยนชีวิตคุณได้ เพราะคุณรู้สึกถึงประกายไฟรักและความเชื่อมโยงถึงกันในทันที”

ความรู้สึกและความเคารพถูกตอบแทนคืนมา

ตามอัตชีวประวัติของนักร้องสาว เออร์วินได้สารภาพรักกับเธอเช่นกัน แล้วเขาก็อยู่เป็นเพื่อนเธอในช่วงเวลาที่ขมขื่นที่สุด

เธอได้กล่าวลงในหนังสือพิมพ์เอล ปาย (El País) ของสเปนว่า “ฉันอายุ 69 ปีและต้องทัวร์คอนเสิร์ตหนักมาก แถมฉันยังเป็นโรคความดันโลหิตสูงด้วย ฉันกินยามาตั้งแต่ปี 1985 (...) หลังจากทำงานหนักมาหลายปี ฉันก็พร้อมที่จะยุติแล้ว เพราะฉันไม่อยากให้แฟน ๆ มาคอนเสิร์ตของฉัน และก็คิดว่าตัวฉันแสดงได้ไม่ดีอีกต่อไปแล้ว”

การแต่งงานครั้งที่สองของเธอ

เมื่อพูดถึงการแต่งงานครั้งที่สองของเธอ นักร้องสาวได้กล่าวว่าเธอมีช่วงเวลาที่รู้สึกว่าตัวเองอยู่ในจุดสูงสุดแล้ว “มันคือความสุขที่ผู้คนพูดถึง เมื่อคุณไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว ขอเพียงแค่หายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี” และกล่าวเสริมอีกว่า “มันคือจุดที่อยู่ที่ยอดเยี่ยมมาก”

อย่างไรก็ตามไม่กี่สัปดาห์หลังจากงานวิวาห์ สิ่งต่าง ๆ ก็เริ่มยุ่งเหยิงอันเนื่องมาจากปัญหาสุขภาพของเธอเอง “ฉันตื่นขึ้นมาและรู้สึกเหมือนกับว่าฟ้าผ่าลงมาที่หัวกับขาขวาของฉัน ฉันพยายามจะพูด แต่ไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้ ฉันมีอาการหัวใจวาย มันเป็นแรงกระแทกที่หนักต่อร่างกายของฉัน ซีกขวาของฉันชาไปหมด

ฉันต้องร่วมมือกับนักกายภาพบำบัด เพื่อเรียนรู้ที่จะกลับมาเดินให้ได้อีกครั้ง เพราะว่าการใช้มือขวาของฉันมีปัญหา (...) แพทย์ของฉันกังวลว่าความดันโลหิตของฉันอาจส่งผลต่อไต ดังนั้นเขาจึงแนะนำให้ฉันไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แล้วดร.จอร์ก บลีช (Dr. Jorg Bleisch) ก็บอกฉันว่าไตของฉันทำงานเพียง 35%” เธอได้กล่าวลงในหนังสือพิมพ์เอล ปาย

ทีน่ากับเออร์วิน “อยู่ด้วยกันในยามที่เจ็บป่วยและแข็งแรง”

เมื่อคู่รักได้แต่งงานกัน พวกเขาสาบานว่าจะซื่อสัตย์และภักดีต่อกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามเจ็บป่วยและแข็งแรง แล้วนี่ก็คือสิ่งที่ทั้งทีน่ากับเออร์วินได้ทำ ซึ่งในด้านของเออร์วิน เขาคอยอยู่ตรงนั้นในช่วงเวลาที่ขมขื่นที่สุดของนักร้องสาว และอาการเจ็บป่วยของเธอได้ส่งผลให้ลำไส้บางส่วนถูกตัดทิ้งไป ดังนั้นเธอจึงรอดชีวิตจากมะเร็งลำไส้

ในปี 2016 ไตของเธอเปลี่ยนจากการทำงาน 35% เป็น 20% และเธอมีทางเลือกเพียงสองทาง คือการล้างไตหรือการปลูกถ่ายไต โดยเออร์วินได้ตัดสินใจเป็นผู้บริจาคและได้ช่วยชีวิตภรรยาของเขาเอง เพราะจากคำพูดของนักร้องสาว เออร์วินได้บอกกับเธอว่า “ผมไม่ต้องการผู้หญิงคนอื่นหรือมีอีกชีวิตแล้ว” ซึ่งเป็นสิ่งที่เซอร์ไพรส์เธอมาก เพราะเขาเต็มใจที่จะพิสูจน์ให้เธอเห็นด้วยการบริจาคอวัยวะของเขา

ปัจจุบันนักร้องสาวกับสามีของเธออาศัยอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์และยังคงอยู่ด้วยกัน

คุณคิดเห็นยังไงกับการตัดสินใจของสามีของทีน่า เทอร์เนอร์ในการช่วยชีวิตเธอ ? แล้วอะไรคือสิ่งที่น่าทึ่งที่สุดที่คุณจะทำเพื่อคู่ชีวิตของคุณ ?

Please note: This article was updated in June 2022 to correct source material and factual inaccuracies.
เครดิตภาพพรีวิว tinaturner / Instagram, tinaturner / Instagram
แชร์บทความนี้