ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

10 วิธีการชาร์จแบตแบบผิดๆ ที่คุณควรหยุดทำได้แล้ว

คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน แต่วิธีชาร์จโทรศัพท์ของคุณนั้นมีความสำคัญซึ่งไม่ได้ส่งผลต่อค่าไฟและความปลอดภัยของคุณเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ด้วย แบตเตอรี่โทรศัพท์ที่ใช้ในปัจจุบันอิงตามจำนวนรอบการชาร์จที่แม่นยำ และเพื่อให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น เราขอแนะนำว่าอย่าชาร์จจนเต็ม 100% หรือใช้มันจนเหลือ 0%


ชีวิตสดสใสอยากร่วมแบ่งปันเคล็ดลับเกี่ยวกับวิธีการชาร์จโทรศัพท์ของคุณอย่างถูกต้อง เพื่อให้คุณสามารถใช้งานมันได้อย่างดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด

1. คุณมักจะเสียบสายชาร์จทิ้งไว้ที่เต้ารับเสมอ


ที่ชาร์จจะดึงพลังงานออกมาอย่างต่อเนื่องเมื่อเสียบอยู่ในเต้ารับ แม้ว่าสายจะไม่ได้เสียบโทรศัพท์เอาไว้ก็ตาม การทำแบบนี้ไม่ดีต่อค่าไฟของคุณ แถมอุปกรณ์นี้จะปล่อยความร้อนที่จะถูกสะสมเอาไว้อย่างช้าๆ และทำให้สิ่งที่อยู่ใกล้ๆ ลุกไหม้ได้ หรือหากอากาศในห้องมีความชื้นเพียงพอ มันสามารถทำให้ที่ชาร์จเกิดไฟฟ้าลัดวงจรทำให้เกิดไฟไหม้ได้เช่นกัน

หากคุณไม่ได้ชาร์จแบตแล้ว ให้ถอดที่ชาร์จออกจากเต้ารับเสมอ

2. ชาร์จแบตเตอรี่ถึง 100%


หากคุณชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์ถึง 100% ทุกครั้ง จะทำให้อายุการใช้งานสั้นลง เนื่องจากแบตเตอรี่ทุกก้อนมีจำนวนรอบการชาร์จที่แน่นอน และหากคุณชาร์จจนเต็ม 100% ทุกครั้ง รอบเหล่านี้จะสิ้นสุดเร็วขึ้น

ตามปกติทั่วไปคือควรชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มแค่เดือนละครั้งและใช้ให้มันอยู่ระหว่าง 20% ถึง 80% เสมอ

3. คุณปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเกลี้ยงก่อนที่จะชาร์จอีกครั้ง

คุณไม่ควรใช้จนแบตเตอรี่จนเหลือ 0% เช่นกัน และเหตุผลก็คืออย่างที่เราได้กล่าวไปว่าแบตเตอรี่แบบลิเธียมรุ่นใหม่ล่าสุดทำงานเป็นรอบการชาร์จ ดังนั้นหากคุณปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเกลี้ยง คุณจะทำลายอายุการใช้งานของอุปกรณ์ไปเรื่อยๆ

4. คุณชาร์จโทรศัพท์ทิ้งไว้ข้ามคืน

หากคุณชาร์จโทรศัพท์ทิ้งไว้ทั้งคืน มันจะเป็นการเปลืองไฟและเป็นการชาร์จแบตเตอรี่เกินความจำเป็น สิ่งนี้จะทำให้รอบการชาร์จของแบตเตอรี่เสียไปเปล่าๆ ด้วย

อีกหนึ่งเหตุผลที่ไม่ควรชาร์จโทรศัพท์ค้างคืนคือเพื่อให้มั่นใจว่าโทรศัพท์จะไม่ร้อนเกินไป

5. คุณใช้โทรศัพท์ในขณะที่ชาร์จแบตอยู่


คุณไม่ควรปล่อยให้แบตโทรศัพท์ลดลงเรื่อยๆ ในขณะที่ชาร์จอยู่ เพราะมันทำให้แบตทำงานหนักเกินไปจากการพยายามทำ 2 สิ่งพร้อมๆ กัน

หากมีคนโทรหาคุณ คุณสามารถถอดสายชาร์จ (และที่ชาร์จออกจากเต้ารับ) แล้วนำกลับมาชาร์จใหม่อีกครั้งเมื่อคุณวางสายแล้ว

6. คุณชาร์จโทรศัพท์ขณะที่แบตเตอรี่มากกว่า 20%

การชาร์จโทรศัพท์อย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งที่ไม่สมควร เพราะมันสามารถทำให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานน้อยกว่าที่ควรจะเป็นได้

วิธีที่ดีที่สุดในการใช้แบตเตอรี่คือชาร์จเมื่อจำเป็นเท่านั้น ซึ่งหมายถึงตอนที่แบตเตอรี่เหลือน้อยกว่า 20% แต่มากกว่าอย่างน้อย 5%

7. คุณไม่ได้ถอดเคสโทรศัพท์ขณะชาร์จแบต


หนึ่งในศัตรูหลักของแบตเตอรี่คือความร้อน และการชาร์จโทรศัพท์โดยใส่เคสจะกักความร้อนที่เกิดขึ้นเอาไว้ ซึ่งจะทำให้แบตเตอรี่และส่วนประกอบภายในอื่นๆ ของโทรศัพท์ร้อนขึ้น

ก่อนชาร์จโทรศัพท์ ให้ถอดเคสออกเพื่อให้แบตเตอรี่ได้ “หายใจ” บ้าง

8. คุณใช้ที่ชาร์จทั่วไปและราคาถูก


โทรศัพท์ทุกเครื่องมีที่ชาร์จที่รองรับการใช้งานของตัวเองซึ่งไม่ควรเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่นหรือรุ่นอื่น หากคุณไม่ได้ใช้ที่ชาร์จที่เหมาะสม พลังงานที่ส่งไปยังแบตเตอรี่อาจมากหรือน้อยเกินไป นำไปสู่ความร้อนที่สูงเกินไปหรือชาร์จได้ช้ามาก

ที่ชาร์จที่ดีที่สุดสำหรับโทรศัพท์ของคุณคืออันที่คุณได้รับตอนที่ซื้อโทรศัพท์ หากคุณทำพังหรือทำหาย คุณสามารถสั่งมันมาใหม่ได้เสมอ แต่ต้องเป็นรุ่นเดียวกันนะ!

9. คุณใช้แอปแบตเตอรี่ที่ไม่รู้จักซึ่งทำให้แบตเตอรี่ทำงานหนัก


แอปฟรีนั้นมีประโยชน์ในการติดตามประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ แต่คุณควรระมัดระวังในการโหลดบางแอปมาใช้ด้วยแอปที่พัฒนาโดยแหล่งที่มาที่ไม่รู้จักและไม่ได้รับการประเมินโดยผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอาจทำให้แบตเตอรี่ทำงานหนักและดาวน์โหลดโฆษณาเข้าโทรศัพท์ของคุณด้วยตัวเอง

ก่อนใช้แอป คุณควรตรวจสอบแหล่งที่มาเสมอเพื่อดูว่าเชื่อถือได้หรือเปล่า

10. คุณชาร์จโทรศัพท์จากแล็ปท็อป

แล็ปท็อปมักถูกใช้เพื่อชาร์จโทรศัพท์ แต่มันจะใช้เวลานานกว่าการชาร์จจากเต้ารับปกติแถมไม่ได้เปิดใช้งานตัวเลือกการชาร์จเร็วของแบตเตอรี่ด้วย

หากคุณต้องการชาร์จให้เร็วขึ้นด้วยวิธีที่ดีที่สุด ให้ชาร์จกับเต้ารับเสมอ

ข้อผิดพลาดเหล่านี้ ข้อไหนที่คุณพบว่าเป็นความรู้และประโยชน์ให้กับคุณได้? คุณรู้เกี่ยวกับการกระทำอื่นๆ ที่ควรหลีกเลี่ยงที่เราควรเพิ่มลงในหัวข้อนี้บ้างหรือเปล่า? คอมเมนต์ให้เรารู้หน่อยสิ!

ชีวิตสดใส/ทริป & เคล็ดลับ/10 วิธีการชาร์จแบตแบบผิดๆ ที่คุณควรหยุดทำได้แล้ว
แชร์บทความนี้