ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

7 เคล็ดลับในการดูของปลอม

ทุกวันนี้มีของปลอมเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ตั้งแต่สมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอที่มีความบางกว่าไปจนถึงกระเป๋าปลอมที่ทำจากหนังแท้ การสังเกตรายละเอียดเหล่านี้ดูจะเป็นเรื่องยากและไม่มีความแตกต่างใด ๆ แต่มันก็มีวิธีการตรวจสอบอยู่ แค่คุณต้องสังเกตใกล้ ๆ คุณก็จะเห็นความแตกต่างเล็ก ๆ นั้น

พวกเราที่ชีวิตสดใสไม่อยากให้คุณถูกหลอกและได้พบเคล็ดลับง่าย ๆ ในการช่วยให้คุณแยกได้ว่าของชิ้นไหนเป็นของปลอม

1. ตรวจสอบโลโก้บนอุปกรณ์ว่าเป็นยังไง

ของปลอมไม่เพียงแต่มีคุณภาพที่แย่แต่มันยังอันตรายอีกด้วย เนื่องจากมันไม่ได้ผ่านการทดสอบ และการรับรองที่เหมาะสม แต่ในกรณีที่คุณไม่รู้ว่าสินค้าของคุณเป็นของแท้หรือของปลอม นี่คือวิธีการตรวจสอบ

  1. โลโก้มีการพิมพ์ผิดหรือไม่ได้มาตรฐาน คุณเช็คโลโก้ของแท้ได้จากโทรศัพท์ของคุณและเปรียบเทียบกับอุปกรณ์ที่คุณสงสัย อย่ารีบร้อน โดยเฉพาะถ้าเป็นสินค้าที่มีราคาแพง
  2. มันดูสว่างเกินไป
  3. มันมีสีออกเหลืองแทนที่จะเป็นสีขาว
  4. ตัวพลาสติกหรือการประกอบดูไม่มีคุณภาพ

2. ตรวจสอบโลหะและเสียงของนาฬิกาที่มีราคาแพง

ตลาดขายของมือสองเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมในการเฟ้นหานาฬิกาหรูหายาก แต่การรู้วิธีดูของปลอมก็เป็นสิ่งสำคัญ

  1. นาฬิกาที่มีราคาแพงจะมีระบบกลไกที่ราบรื่นซึ่งหมายความว่ามันจะไม่มีเสียงเดินของนาฬิกา วางนาฬิกาแนบที่หูของคุณและถ้าคุณได้ยินเสียงใด ๆ คุณก็ไม่ควรจะซื้อมัน
  2. โดยปกติแล้วการแกะสลักลงบนนาฬิการาคาสูงจะมีตัวอักษรที่ชัดเจน
  3. นาฬิกาปลอมมักจะทำด้วยวัสดุที่มีราคาถูกกว่าและเบากว่าของแท้

3. ตรวจสอบฝีเย็บบนเสื้อผ้าและรองเท้า

คุณภาพของแบรนด์แท้และสินค้าราคาแพงมักจะมีความแตกต่าง ของแท้จะมีฝีเย็บที่เรียบร้อยและแน่นกว่าซึ่งแตกต่างจากของปลอม เสื้อผ้าและรองเท้าแบรนด์แท้มักจะมีฝีเย็บต่อตารางนิ้วที่มากกว่าและการเดินด้ายในสินค้าปลอมก็จะไม่เป็นแนวตรงเหมือนกับของแท้ เนื่องจากมีการใช้วัสดุและต้นทุนที่น้อยกว่า

4. ตรวจสอบป้ายสินค้าบนเสื้อผ้า

ตรวจสอบที่ป้ายสินค้าเสมอ มันบอกได้เป็นอย่างดีว่าสินค้าชิ้นนั้นเป็นของแท้หรือของปลอม

  1. โรงงานผลิตสินค้าปลอมมักจะใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพต่ำ ดังนั้นป้ายสินค้าและฉลากอาจจะมีการเย็บอย่างไม่ได้คุณภาพ

ดูรายละเอียดดี ๆ ป้ายบอกไซส์จะมีสีที่แตกต่างและมีคุณภาพที่แย่เมื่อเทียบกับของแท้ ตัวอักษรบนป้ายอาจจะมีการเว้นวรรคที่ต่างกันด้วย

บ่อยครั้งที่สินค้าราคาแพงจะมีหมายเลขซีเรียลแจ้งบนป้ายบอกไซส์

5. ตรวจสอบวิธีการห่อเครื่องสำอางและน้ำหอมของคุณ

เครื่องสำอางปลอมไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ! เป็นเพราะว่าเราใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้บนร่างกาย ดังนั้นเราจึงควรจะรู้ว่าทุกอย่างได้ถูกทดสอบและได้รับการรับรองแล้ว นี่คือเคล็ดลับบางอย่างที่ช่วยให้คุณเลี่ยงการซื้อของปลอมได้

  1. กระดาษควรจะถูกห่อรอบกล่องอย่างประณีต
  2. ของปลอมมักจะมีพลาสติกหรือกล่องโลหะที่มีคุณภาพต่ำ
  3. ชื่อของเฉดสีควรจะถูกพิมพ์บนสติ๊กเกอร์แทนที่จะพิมพ์ลงบนกล่อง
  4. ผลิตภัณฑ์ชั้นนำควรจะมีขนาดของสินค้าที่พอดีกับกล่อง

6. ตรวจสอบที่กระดุม

ถ้าคุณต้องการจะซื้อแจ็กเก็ต เสื้อโค้ทหรือเทรนช์โค้ท ดูที่กระดุมด้านในและด้านนอกให้ดี แบรนด์ชั้นนำจะมี คุณภาพของพลาสติกที่ดีและมีการแกะสลักชื่อบริษัทไว้ด้วย ของปลอมมักจะใช้พลาสติกที่มีราคาถูกและมีความเบาและในบางครั้งก็ไม่มีการประทับตราด้วย กระดุมควรมีการเย็บอย่างแน่นหนา ไม่ใช่แค่เย็บเพียงไม่กี่ครั้ง

7. ตรวจสอบคุณภาพของหน้าจอเมื่อซื้อสมาร์ทโฟน

ของปลอมอาจจะดูดีได้อย่างไม่น่าเชื่อและในบางครั้งมันก็เป็นเรื่องยากในการหาข้อแตกต่างระหว่างไอโฟนแท้และไอโฟนปลอม แต่มันยังแยกความแตกต่างได้หากคุณทำตามคำแนะนำต่อไปนี้

  1. เมื่อคุณเปิดเครื่องเป็นครั้งแรก หน้าจออาจจะไม่สว่างเท่าที่ควร ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณทดสอบในไอโฟน 7
  2. ตัวเลขในปฏิทินอาจจะมีรูปแบบตัวอักษรที่แตกต่างไป

หน้าจอไม่ควรจะมีคุณภาพต่ำหรือเป็นจุด ๆ สิ่งเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อมีการใช้แผงควบคุมที่ไร้คุณภาพ

รูปภาพไม่ควรจะเบลอ

7. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นที่ช่วยในการตรวจสอบของปลอม

ถ้าคุณอยากจะเช็คของปลอมด้วยวิธีการที่เหนือกว่า คุณโหลดแอปที่จดจำเสื้อผ้า รองเท้าและเครื่องประดับปลอมโดยเฉพาะมาใช้ได้ ด้วยแอปนี้ มันจะช่วยให้คุณไม่ถูกหลอกเมื่อซื้อสินค้าจากร้านอื่น และยังช่วยให้คุณประหยัดเงินอีกด้วย

แอปจะตรวจสอบรายละเอียดเล็ก ๆ แบบรูปทางด้านบน ตัวอย่างเช่น “ด้านบนสุด” ของลิ้นรองเท้าปลอมที่มีขนาดสั้นกว่าของแท้

เคล็ดลับอะไรที่ช่วยให้คุณแยกระหว่างของปลอมกับของแท้ได้ คุณคิดว่าทุกวันนี้ของปลอมดูเหมือนของแท้มากขึ้นไหม

เครดิตภาพพรีวิว shutterstock.com
ชีวิตสดใส/ทริป & เคล็ดลับ/7 เคล็ดลับในการดูของปลอม
แชร์บทความนี้