ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

กฎการเงิน 11 ข้อที่เราหวังว่าพวกเขาจะสอนเราในโรงเรียน

ตามการศึกษานี้ มากกว่าสามส่วนของคนที่อยู่ในช่วงต้นของวัยผู้ใหญ่แทบไม่มีความรู้เรื่องการเงิน ทักษะการบริหารเงินที่ดี และความมั่นคงทางด้านรายได้เลย การเรียนรู้ที่จะจัดการกับการเงินและวิธีการตัดสินใจเกี่ยวกับการเงินให้ถูกต้องตอนที่เรายังเด็กอยู่เป็นสิ่งที่ผู้คนควรจะเรียนรู้ และสิ่งที่ดีที่สุดที่เราทำได้ก่อนที่จะออกไปสู่โลกภายนอกและจัดการเงินของเราเองก็คือการพยายามหาความรู้ให้ตัวเราเพื่อที่เราจะได้ไม่ประสบกับปัญหา

ชีวิตสดใสอยากจะช่วยเหลือในกระบวนการเรียนรู้นี้ด้วยการนำเสนอความผิดพลาด 11 อย่างที่คนหนุ่มสาวหลายคนทำกันในเรื่องของการเงิน

1. พยายามตามเพื่อนที่ฐานะการเงินดีกว่า

เมื่อเราคบหากับเพื่อนที่มีฐานะการเงินดีกว่าเรา เราอาจจะรู้สึกว่าต้องตามเพื่อนให้ทัน ต้องซื้อเสื้อผ้ามีแบรนด์และซื้อรถหรู และต้องมีเงินพอให้ไปเที่ยวทริปหรูหราในต่างประเทศ มันสำคัญมาก ๆ ที่คุณจะต้องรู้ลิมิตของตัวเองและไม่ทำให้ตัวเองต้องเป็นหนี้ แค่เพื่อคุณจะได้มีไลฟ์สไตล์ที่เหมือนกับคนร่ำรวย ทั้งหมดทั้งมวล คุณต้องจำไว้ว่าความสำเร็จและเงินทองจะมาในช่วงเวลาที่แตกต่างกันสำหรับคนแต่ละคน และเราจำเป็นต้องฉลาดกับเรื่องนี้

2. ใช้เงินเดือนอย่างไม่เหมาะสม

การจัดการบริหารการเงินให้ถูกต้องและการเรียนรู้ที่จะทำเช่นนั้นให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้จะเป็นสิ่งที่สำคัญกับคุณอย่างมาก อันที่จริงแล้วกฎงบประมาณ 50/30/20 มันเป็นกฎที่ไม่ซับซ้อนและทำตามได้ง่ายเพื่อให้มีความมั่นคงทางการเงินได้มากขึ้น ใช้เงิน 50% ของรายได้ไปกับค่าเช่า อาหาร การเดินทาง และบิลต่าง ๆ ใช้เงิน 20% ไปกับการเก็บเงินและชำระหนี้ และใช้เงินที่เหลืออีก 30% ไปกับอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ

3. สั่งอาหารมากินตลอด

เมื่อคุณย้ายออกจากบ้านและคุณไม่ได้มีอาหารอร่อย ๆ ที่ทำใหม่อุ่น ๆ ให้กินตลอดเวลา คุณอาจรู้สึกอยากจะเริ่มสั่งอาหารอีกครั้ง และอีกครั้ง และอีกครั้ง นั่นหมายความว่าคุณเริ่มใช้เงินไปกับอาหารมากเกินไปและคุณอาจจะไม่ได้มีการเงินที่มั่นคงมากพอที่จะทำแบบนั้นได้ แทนที่จะทำอย่างนั้น ให้ไปร้านขายของชำ ซื้อผลิตภัณฑ์ที่คุณต้องการ และทำอาหารกินเอง ถ้าคุณทำอาหารไม่เป็นก็ควรเรียนรู้วิธีทำเสีย

4. มีบัตรเครดิตเร็วเกินไป

การมีบัตรเครดิตเร็วเกินไปอาจจะดีกับเครดิตคุณ แต่เฉพาะหากคุณมีความรับผิดชอบเท่านั้น ถ้าคุณไม่สามารถจ่ายเงินรายเดือนได้ แต่รู้สึกอยากจะซื้อของหลายอย่างที่คุณอาจหรืออาจจะไม่ต้องการ คุณควรจะรอจนกว่าคุณจะได้งานที่มีรายได้ดีก่อนดีกว่า

5. ไม่วางแผนสำหรับการเกษียณ

คุณอาจจะไม่อยากคิดถึงเรื่องอนาคตไกล ๆ ตอนคุณอยู่ในช่วงวัย 20 แล้วและกำลังสนุกกับการใช้ชีวิต แต่นั่นอาจจะเป็นความผิดพลาดก็ได้ คุณควรจะมองไปที่การเก็บเงินในบัญชีสำหรับเกษียณทันทีที่คุณทำได้ เพราะในช่วงเวลานานวันไปคุณจะได้ดอกเบี้ยและคุณจะพบว่าตัวเองมีเงินจำนวนมากให้ใช้ในช่วงวัยหลังเกษียณ

6. ไม่สนใจทำประกัน

คุณอาจจะรู้สึกเหมือนเป็นซูเปอร์ฮีโร่ในช่วงวัย 20 ปี แต่คุณไม่ได้เป็นคนที่เจ็บป่วยไม่ได้และคุณไม่ควรคิดว่าคุณจะปลอดภัยจากการบาดเจ็บ โรคภัย มหันตภัย และปัญหาอื่น ๆ อีกมากมายได้ คุณไม่ควรละเลยประกันต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น ประกันของผู้เช่าจะช่วยประหยัดเงินคุณเผื่อกรณีฉุกเฉิน อย่างเช่นการงัดแงะ ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม ประกันสุขภาพก็มีโอกาสที่จะประหยัดเงินคุณได้หลายหมื่นบ้านถ้าหากมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้น มันสำคัญมาก ๆ ที่คุณจะต้องดูแลตัวเองให้ได้รับการป้องกันไว้แต่เนิ่น ๆ

7. ไม่ยอมเสี่ยงเสียตั้งแต่เนิ่น ๆ

คุณอาจจะไม่ชอบงานปัจจุบันของคุณในร้านขายของ หรือขับรถแกร๊บหรือว่าฟู้ดแพนด้า แต่คุณกลัวเกินกว่าที่จะลาออก เพราะอย่างน้อยคุณก็มีรายได้ที่สม่ำเสมอและงานมันก็รู้สึกปลอดภัยดี อย่างไรก็ตาม ถ้านั่นไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการจะทำกับชีวิตของคุณ คุณก็ไม่ควรที่จะกลัวกับการยอมรับความเสี่ยง โดยเฉพาะในช่วงวัย 20 ปี แม้ว่ามันจะหมายถึงการไปฝึกงาน มันอาจจะเป็นการฝึกที่ไม่ได้รับเงิน หรืออาจจะจ่ายน้อยกว่า แต่ถ้ามันเป็นการฝึกงานสำหรับงานที่คุณชอบและอยากจะทำ คุณก็ไม่ควรกลัวที่จะเริ่มนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง ถ้านั่นหมายถึงว่ามันจะทำให้อนาคตของคุณดีขึ้น และถึงอย่างไรก็ตาม วัย 20 มันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับคุณที่จะเรียนรู้ทักษะต่าง ๆ เริ่มเสียตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่าต้องไปเปลี่ยนอาชีพตอนอายุมากไปแล้ว

8. มีสัตว์เลี้ยงเร็วเกินไป

การมีสัตว์เลี้ยงอาจจะดูเหมือนเป็นอีกขั้นหนึ่งของชีวิตอิสระที่คุณมีหลังจากคุณได้มีที่อยู่เป็นของตัวเอง แต่นั่นอาจจะไม่ใช่ความคิดที่ดีที่สุดก็ได้ แน่นอนว่าพวกมันน่ารักและขนปุกปุย พวกมันเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ และพวกมันถูกสร้างมาเพื่อการถ่ายรูปภาพที่ยอดเยี่ยม แต่มันไม่ใช่แค่เรื่องสนุก ๆ เท่านั้นหรอกนะ จริง ๆ แล้วการดูแลสัตว์เลี้ยงใช้เงินเยอะมาก เพราะมันมีความจำเป็นและความต้องการด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ของเล่น วัคซีน ค่าใช้จ่ายของสัตวแพทย์ หรือการดูแลและตัดขนหากจำเป็น สิ่งเหล่านี้เป็นรายจ่ายของคุณทั้งนั้น ดังนั้นคุณควรจะคิดให้ดีว่าคุณจะสามารถเป็นเจ้าของและดูแลสัตว์เลี้ยงได้ไหม เพราะว่ามันเป็นความรับผิดชอบที่สำคัญและใหญ่มาก

9. ใช้เงินเพื่อทำให้ตัวเองมีความสุข

เราหลายคนอาจจะเคยซื้ออะไรบางอย่างที่เราไม่ได้จำเป็นต้องมีจริง ๆ แค่เพราะว่าเรารู้สึกเศร้า ความจริงก็คือการซื้อของเหล่านี้มันทำให้เรารู้สึกดีขึ้นในคราวแรก แต่มันไม่ใช่ทางออกสำหรับปัญหาของเราหรอกนะ ทั้งหมดที่มันทำก็คือทำให้เราสิ้นเปลืองเงินที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงซึ่งเราเอาไปใช้กับสิ่งอื่นที่เราต้องการจริง ๆ ได้ การให้รางวัลตัวเองมันเป็นเรื่องสำคัญและดีในส่วนใหญ่ แต่มันต้องทำอย่างมีความรับผิดชอบนะ

10. ย้ายออกจากบ้านเร็วเกินไป

คุณอาจจะคิดว่าช่วงเวลาที่คุณอายุ 18 ปี หรือ 21 ปีเป็นช่วงที่คุณควรออกจากบ้านพ่อแม่และพึ่งพาตัวเองอยู่คนเดียวในโลกภายนอกได้แล้ว แน่นอน มันดีมาก ๆ ที่ได้เรียนรู้ที่จะทำอะไรด้วยตัวเองและเรียนรู้การอยู่โดยไม่พึ่งพาใคร แต่คุณควรจะทำอย่างชาญฉลาดนะ การย้ายออกจากบ้านหมายถึงคุณจะต้องเริ่มจ่ายค่าเช่าและบิลต่าง ๆ เอง คุณจะต้องเรียนรู้การทำอาหารด้วยตัวเอง และบ้านหลังแรกของคุณอาจจะไม่ดีและอบอุ่นเหมือนบ้านที่คุณอยู่มาตั้งแต่เด็ก สิ่งเหล่านี้ควรจะถูกนำไปคิดด้วยตอนที่คุณจะเลือกขั้นสำคัญในชีวิตวัยผู้ใหญ่นี้ และมันก็ไม่เป็นไรเลยถ้าคุณจะรอสักหน่อยก่อนจะย้ายออกเมื่อคุณมีงานที่ดีและมั่นคงพร้อมกับเงินรายได้ที่สม่ำเสมอแล้ว จากนั้นคุณจึงจะรู้สึกสบายใจขึ้นในการย้ายออกเพราะคุณจะมีกำลังใจการดูแลตัวเองแล้ว

11. คาดหวังว่าจะจัดการทุกอย่างได้ในช่วงวัย 20

คนหนุ่มสาวหลายคนเครียดและตระหนกกับชีวิตและปัญหาของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัย งาน การจ่ายค่าเช่า หรือทั้งหมดรวมกัน มีน้อยคนนักที่จะเจอหนทางของตัวเองและเริ่มใช้ชีวิตวัยผู้ใหญ่ได้แบบฉลุย และมีไม่มากนักที่พวกเขาสามารถคิดหาหนทางได้แล้ว คุณอาจจะคาดหวังให้งานแรกของคุณยอดเยี่ยม เงินเดือนดี และเป็นอาชีพในฝัน แต่ก็มีหลายตัวอย่างแสดงให้เห็นว่ามันจะไม่เป็นอย่างนั้นหรอก และมันก็ไม่เป็นไรเลย คุณจะเปลี่ยนงาน เปลี่ยนอพาร์ตเมนต์ รับมือกับรถที่ทำให้คุณมีปัญหา และประสบการณ์เหล่านี้ก็จะมาช่วยคุณในที่สุด มันไม่เป็นไรเลยที่คุณยังไม่รู้ว่าคุณกำลังมุ่งหน้าไปทางไหนหรือคุณทำอะไรอยู่ คุณจะคิดออกเองเมื่อเวลาผ่านไป

โบนัส: เรื่องราวจากชีวิตจริง

สามีเก่าของฉันกับฉันตกลงกันว่ามันจะง่ายกว่ามากที่จะเก็บเงินด้วยการให้ฉันใช้เงินเดือนของฉันจ่ายค่าใช้จ่ายในบ้าน และเขาจะเป็นคนเก็บเงินและจ่ายเงินก้อนใหญ่กับภาษีด้วยเงินเดือนของเขาเอง เราหย่ากันแล้ว เขาทิ้งบิลภาษีครึ่งหนึ่งที่เขายังไม่ได้จ่ายไว้กับฉัน โอ้ และเงินทั้งหมดที่เขาเก็บไว้...ใช่ค่ะ ฉันไม่ได้สักแดงเดียวเช่นกัน ภรรยาใหม่ของเขาได้แหวนสวย ๆ และได้ไปฮันนีมูนที่ดี ๆ นะคะ ฉันจะไม่เชื่อใจใครเรื่องเงินของฉันอีกเลย ต่อไปนี้ต้องหารครึ่งทั้งหมด หรือไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องมาใช้อะไรร่วมกัน © flyingcatpotato / Reddit

เรื่องเกี่ยวกับเงินเรื่องใดที่คุณหวังว่าคุณจะได้รู้ตอนที่คุณอายุน้อยกว่านี้ ? และคุณจะแนะนำคนที่ยังเด็กกว่าคุณให้เริ่มเรียนรู้เรื่องการจัดการด้านการเงินอย่างไร ?

Please note: This article was updated in August 2022 to correct source material and factual inaccuracies.
เครดิตภาพพรีวิว flyingcatpotato / Reddit
ชีวิตสดใส/ทริป & เคล็ดลับ/กฎการเงิน 11 ข้อที่เราหวังว่าพวกเขาจะสอนเราในโรงเรียน
แชร์บทความนี้