ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส
สิ่งเหล่านี้คือของที่เราไม่เคยซักล้างเลยแต่จริง ๆ แล้วควรจะล้างนะ

สิ่งเหล่านี้คือของที่เราไม่เคยซักล้างเลยแต่จริง ๆ แล้วควรจะล้างนะ

การซักล้างสิ่งของมันกลายเป็นสิ่งที่เราทำเป็นกิจวัตรไปแล้ว แต่ถ้าคุณมองไปรอบตัวให้ดี ๆ คุณจะเห็นว่ามีหลายอย่างในบ้านของคุณไม่ได้เอาไปซักล้างเลย เหตุผลสำหรับเรื่องนี้อาจจะแตกต่างกันออกไป ของบางอย่างเอาไปซักในเครื่องซักผ้าไม่ได้ บางอย่างก็ใหญ่เกินไป สำหรับบางอย่าง - เราไม่คิดว่ามันควรจะเป็นของที่ต้องไปซักล้างด้วยซ้ำ

ชีวิตสดใสจะมาย้ำเตือนคุณถึงของบางอย่างที่เราหลายคนไม่เคยเอาไปซักล้างแต่จริง ๆ แล้วควรจะทำมาก ๆ

สิ่งที่เรามักลืมซักล้าง

  • กระเป๋า
  • กระเป๋าเงิน
  • กระเป๋าใส่ของชำ
  • กระเป๋าไปยิม/ฟิตเนส
  • แจ็คเก็ตหนัง
  • ตะกร้าผ้า
  • ม่านห้องน้ำ
  • พรมเช็ดเท้าในห้องน้ำ
  • ผ้าห่มอย่างหนา
  • หมอน
  • ตุ๊กตายัดนุ่น
  • ผ้าม็อบถูพื้น
  • พรมหน้าประตู

กระเป๋าและกระเป๋าเงิน

กระเป๋าและกระเป๋าเงินเป็นสิ่งที่เราจับแทบทุกครั้งที่เราออกจากบ้าน

เราวางกระเป๋าของเราเอาไว้บนพื้นผิวหลากหลายบนรถสาธารณะ วางเอาไว้ในรถเข็นของซูเปอร์มาร์เก็ต และยังเอาเข้าไปในห้องน้ำสาธารณะอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น กระเป๋าของเรายังวางเอาไว้ในตู้เสื้อผ้าหรือบนเก้าอี้ในออฟฟิศของเราอยู่เสมอ เพราะอย่างนี้แล้ว มันก็เลยปนเปื้อนได้มาก ๆ เลย

อะไร ๆ ก็เกือบจะเหมือนกันเลยสำหรับกระเป๋าเงิน ไม่ใช่ว่าร้านค้าทุกร้านจะรับการจ่ายเงินผ่านมือถือ หรือบางครั้งเราก็ต้องเอากระเป๋าเงินออกมาในขนส่งสาธารณะหรือในร้านค้าเพื่อจ่ายเงินด้วยบัตรและเงินสด นอกจากนั้น เรายังมักจะเก็บบัตรลดราคาที่เราใช้บ่อยเอาไว้ในกระเป๋าเงินของเราก็ได้ ทุกครั้งที่เราหยิบกระเป๋าเงินเราไม่คิดหรอกว่ามือของเราสะอาดแค่ไหน ถ้าคุณวิเคราะห์ในแต่ละวันธรรมดา เราจะสามารถเข้าใจได้ว่าเชื้อโรคมันเข้ามาเกาะที่กระเป๋าเงินของเราได้อย่างไร

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมกระเป๋าและกระเป๋าเงินของเราต้องเอามาทำความสะอาดและซักล้างอย่างแน่นอน แต่ไม่ใช่ว่าผ้าทุกแบบจะเอามาซักได้ คุณจึงจำเป็นต้องดูข้อมูลที่ป้ายของมันให้แน่ใจก่อน

กระเป๋าผ้าหลายแบบเอาไปซักมือในน้ำเย็นได้ หากซักแบบไม่ขยี้และเอาไปตากไว้ข้างนอกให้โดนลมจะดีกว่า

ถ้ากระเป๋าเป็นแบบซักไม่ได้ ให้ใช้กระดาษเปียกสำหรับฆ่าเชื้อเช็ด ขอแนะนำว่าให้ทำไม่ต่ำกว่าสัปดาห์ละครั้ง ดูให้แน่ใจว่าคุณได้ตรวจดูสารฆ่าเชื้อภายในมุมที่มองไม่เห็นของกระเป๋าก่อนแล้วเรียบร้อย

มีคำแนะนำว่าให้ทำความสะอาดกระเป๋าและกระเป๋าเงินที่ทำจากหนังด้วยน้ำยาล้างจาน เอามันลงไปผสมในน้ำอุ่นและเช็ดพื้นผิวของสิ่งกระเป๋าด้วยผ้านุ่ม ๆ แล้วก็ใช้ผ้าเปียกเช็ดสัมผัสที่เป็นฟองออกแล้วเช็ดตามด้วยผ้าขนหนูแห้ง

และแนะนำให้เทของในกระเป๋าออกแล้วเขย่ากระเป๋าเหนืออ่างล้างจานสองสามสัปดาห์ครั้ง ดูดฝุ่นในกระเป๋าก็เป็นความคิดที่ดี จากนั้นก็เช็ดภายในด้วยกระดาษเปียกที่กำจัดเชื้อโรค ก่อนที่คุณจะเอาของกลับเข้าไปใส่อีกครั้ง ให้มันได้ตากลมสัก 15 นาทีก่อน ด้านในทั้งหมดควรจะถูกเช็ดทำความสะอาดเรียบร้อยหมด

ถุงใส่ของชำ


เดี๋ยวนี้คนไม่ได้ใช้ถุงพลาสติกกันโดยแพร่หลายอีกแล้ว ปัจจุบันหลายคนจะใช้ถุงใส่ของชำของตัวเองเวลาพวกเขาออกไปซื้อของ และแน่นอนว่าถุงพวกนี้ต้องเอามาซักด้วยนะ ถ้าคุณไปที่ร้านค้าสัปดาห์ละครั้ง ให้ซักหลังการจับจ่ายซื้อของหนึ่งช่วง ถ้าคุณใช้ทุกวัน ให้ซักถุงพวกนี้อย่างน้อยหลังจากใช้ไปแล้ว 2-3 ครั้ง

  • มีการแนะนำว่าให้ซักถุงผ้าคอตตอนในเครื่องซักผ้าด้วยน้ำร้อนได้เลย คุณจะปั่นแห้งหรือเอาออกมาตากแห้งก็ได้
  • ถุงสานจากไม้ไผ่มันจะทนกับการซักมือและเครื่องซักผ้าระบบซักเบาได้เป็นอย่างดี และจะดีกว่าถ้าคุณใช้ผงซักฟอกแบบที่ไม่แรงกับมัน และควรจะตากมันแบบเดียวกับที่ตากถุงผ้าคอตตอน
  • ถุงไนลอนหรือโพลีเอสเตอร์ควรจะซักด้วยมือโดยใช้สบู่และน้ำอุ่น และกลับด้านมันออกมาตาก
  • ถุงกระสอบพลาสติกควรจะซักด้วยหรือหรือเอาไปซักในเครื่องซักผ้า (ตั้งระบบซักเบา) ดูให้แน่ใจว่าใช้น้ำเย็นนะ และเอามาแขวนตากจะดีที่สุด
  • กระเป๋าใยผ้าบุพลาสติกและบุด้านในเพื่อรักษาความร้อนจะช่วยรักษาอุณหภูมิจำเป็นกับผลิตภัณฑ์หรือเครื่องดื่มที่ใส่ด้านใน กระเป๋าพวกนี้เรียกว่ากระเป๋ารักษาอุณหภูมิ และมันควรจะต้องซักด้วยมือในน้ำอุ่นโดยใช้สบู่และเช็ดด้วยกระดาษเช็ดฆ่าเชื้อและแบคทีเรีย ให้ความสนใจกับส่วนที่เป็นขอบตะเข็บมากหน่อย

ขอให้คำแนะนำว่าให้เก็บถึงเหล่านี้เอาไว้ในที่แห้ง เย็น และมีอากาศถ่ายเทได้ดี

แจ็คเก็ตหนัง

เสื้อแจ็คเก็ตหนังเองก็ต้องได้รับการทำความสะอาดเช่นเดียวกัน แน่นอน การเอาไปซักในเครื่องซักผ้าหรือเอาไปแช่น้ำในกะละมังคงไม่ใช่แนวคิดที่ดีนัก - แจ็คเก็ตเหล่านี้จำเป็นต้องมีเรื่องเยอะหน่อยสำหรับการทำความสะอาด

ขอแนะนำให้ทำความสะอาดเสื้อหนังด้วยน้ำยาล้างจาน เจือจางมันลงในถ้วยกับน้ำสะอาดอุณหภูมิห้อง เอาเศษผ้านุ่ม ๆ มา แล้วก็ค่อย ๆ เช็ดพื้นผิวของเสื้อที่เป็นหนัง หลังจากนั้นให้ชุบผ้าอีกผืนในน้ำสะอาดให้เปียกแล้วเช็ดฟองออกจากแจ็คเก็ต หลังจากทำความสะอาดแล้ว ค่อย ๆ เช็ดแจ็คเก็ตให้แห้งด้วยผ้าขนหนูแล้วเอาไปตากให้แห้ง

กระเป๋าสำหรับไปยิม/ฟิตเนส

กระเป๋าสำหรับไปยิมหรือฟิตเนสเป็นของอีกอย่างที่เราหลายคนลืมซักกัน เราใส่เสื้อผ้าเปียกเหงื่อ รองเท้า และผ้าขนหนูเลอะ ๆ เอาไว้ในนั้น ดังนั้นมันจึงสมเหตุสมผลมากที่เราควรจะซักมันด้วย

อันดับแรกเลย ให้ดูว่ากระเป๋าของคุณซักด้วยเครื่องซักผ้าได้หรือเปล่า ถ้าได้ ให้ซักด้วยระบบซักเบา ก่อนจะซักให้เช็กช่องต่าง ๆ ของกระเป๋าก่อน แล้วก็กลับด้านกระเป๋าออกมา แล้วก็ดึงเชือกออกก่อน ถ้าเอาออกไม่ได้ก็ให้ม้วนมันเป็นปมเอาไว้

ใช้วิธีซักมือกับกระเป๋าที่ไม่สามารถซักในเครื่องได้ ให้ผสมน้ำยาซักผ้ากับน้ำอุ่น เอาผ้ามาแล้วใช้เช็ดล้างกระเป๋าจากข้างในแล้วค่อยซักข้างนอก หลังจากนั้นให้ล้างเนื้อผ้าให้สะอาด เทน้ำสะอาดลงไป แล้วทำแบบเดียวกันเพื่อล้างฟองออก

ผ้าห่มอย่างหนาและหมอน

ผ้าห่มและหมอนของคุณก็ต้องเอาไปซักด้วยเช่นกัน

ขอแนะนำให้ซักแห้งหมอนของคุณเดือนละครั้ง นี่จะช่วยทำให้มันไม่มีฝุ่นและราขึ้น หมอนพวกนี้ต้องการการซักให้สะอาดสองครั้งต่อปี

หมอนทำจากขนอ่อน ขนเป็ด และวัสดุแทนขนนุ่ม ๆ สามารถจะนำไปซักในเครื่องซักผ้าได้ หมอนโพลีเอสเตอร์อาจจะซักด้วยเครื่องหรือมือก็ได้ ตอนที่ซัก ให้ใช้น้ำยาซักผ้าชนิดอ่อน ใช้การปั่นแบบเบา และใช้น้ำเย็น ขอแนะนำว่าให้ตากให้แห้งในอุณหภูมิที่ต่ำหน่อย

หมอนเมมโมรีโฟมกับยางพาราเอาไปซักไม่ได้ คุณสามารถถอดเอาปลอกหมอนไปซักกับเครื่องซักผ้าหรือซักด้วยมือได้ ตัวหมอนเองก็ควรเอาไปดูดฝุ่นทั้งสองด้าน

หมอนเปลือกบัควีตก็เอาไปซักไม่ได้เช่นกัน คุณควรเทไส้ในของมันลงในถ้วยสะอาดและเอาไปวางไว้ในที่ที่แดดส่องถึงเพื่อให้มันแห้งสนิท ซักปลอกหมอนเหมือนที่คุณซักปลอกหมอนทั่วไปได้เลย

เราชินกับการซักผ้าห่มแบบยัดมันเข้าไปในเครื่องซักผ้าอย่างง่าย ๆ เลย แต่ผ้าห่มแบบหนาล่ะ ? ด้วยเหตุผลบางประการ เราหลายคนก็ลืมไปเลยว่ามันควรจะต้องเอาไปซักด้วย ขณะเดียวกันมันก็ต้องการความใส่ใจเหมือนกับปลอกหมอนเลย

ผ้าห่มอุ่น ๆ ที่มีไส้หลายชนิดสามารถเอาไปซักในเครื่องได้ถ้าขนาดมันพอดีกับเครื่องซักผ้าของคุณ ตรวจสอบป้ายให้ดีเพื่อจะได้รู้ว่าเขาแนะนำให้ทำความสะอาดอย่างไร ขอแนะนำให้ทำให้ผ้าห่มเหล่านี้แห้งในเครื่องปั่นแห้งโดยลดอุณหภูมิให้ต่ำ หรือไม่ก็เอาไปตากด้านนอก ถ้าผ้าห่มของคุณใหญ่เกินกว่าจะซักที่บ้านได้ ให้คุณเอาไปที่ร้านรับซักผ้าแทน

ตะกร้าผ้า

เราคุ้นเคยกับการโยนเสื้อผ้าที่เลอะแล้วของเราลงไปในตะกร้าผ้าเพื่อเอาไปซักทีหลัง แล้วตัวตะกร้าเองล่ะ ? ด้วยเหตุผลบางประการ เราหลายคนไม่คิดจะล้างมันด้วยซ้ำ ในขณะเดียวกัน เศษฝุ่นดินและแบคทีเรียจากเสื้อผ้ามักจะยังอยู่ในตะกร้า และนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมถึงมีการแนะนำให้ไปเอามันไปล้างทุกสัปดาห์

ถ้าคุณใช้ตะกร้าพลาสติก คุณใช้น้ำยาทำความสะอาดล้างได้ เอาน้ำยาที่มีฟองมาล้าง แล้วล้างให้สะอาดอีกทีด้วยน้ำเปล่า

ปัจจุบันนี้ ตะกร้าสานที่มักจะมีถุงผ้าเย็บติดมาด้านในกำลังเป็นที่นิยมมาก ๆ คุณควรจะเอาถุงผ้าข้างในออกมาซักในเครื่องซักผ้า เมื่อใช้เครื่องซักผ้าซักก็ให้เลือกวิธีปั่นแบบถนอมเนื้อผ้า (ปั่นช้าและลดอุณหภูมิระบบปั่นแห้ง) เพื่อเลี่ยงไม่ให้มันหด ตะกร้าที่เป็นผ้าก็ทำเช่นเดียวกัน

ม่านห้องน้ำ

ห้องน้ำเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับรา ราน้ำค้าง และแบคทีเรียอื่น ๆ ห้องนี้มันชื้นและไม่ได้รับแสงสว่างและอากาศสดใหม่ที่เพียงอยู่ตลอดเวลา

ม่านห้องน้ำสามารถเอาไปซักได้และควรเอาไปซักด้วย ของพวกนี้จะสกปรกจากสิ่งต่าง ๆ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยสภาพแวดล้อมที่มีความอบอุ่นและชื้น บางทีราก็จะเติบโตอยู่บนม่านเหล่านี้

ม่านผ้าส่วนใหญ่เอามาซักด้วยระบบซักเบา ก่อนหน้านั้นดูให้แน่ใจว่าคุณเอาห่วงออกหมดแล้ว และเอามันออกมาตากให้แห้งหลังจากซักแล้วด้วย

เมื่อซักม่านห้องน้ำที่เป็นพลาสติก ขอแนะนำให้ใส่ผ้าขนหนูลงในเครื่องซักผ้า มันจะช่วยไม่ให้ม่านยับเกินไปนัก ม่านพวกนี้ควรซักด้วยน้ำเย็นและห้ามปั่นแห้งเด็ดขาด หลังจากซักแล้วให้เอามาแขวนตากเพื่อให้แห้งสนิท

ถ้าม่านห้องน้ำของคุณเอาไปซักในเครื่องซักผ้าไม่ได้ ให้ใช้อ่างอาบน้ำแทน เติมน้ำอุ่นลงไปแล้วผสมเบกกิ้งโซดา 1/4 แก้วและผงซักฟอกเล็กน้อย ซักม่านให้ทั่วแล้วจากนั้นก็ล้างด้วยน้ำสะอาด

พรมเช็ดเท้าในห้องน้ำ

เป็นสิ่งจำเป็นมากที่จะต้องซักพรมเช็ดเท้าในห้องน้ำ 2 ครั้งต่อเดือน อ่านป้ายให้ดีแล้วเลือกโหมดการซักในเครื่องซักผ้าของคุณ ถ้าพรมของคุณเป็นแบบนุ่มและมีขนให้ใช้ระบบซักแบบเบา และจำเอาไว้ว่าให้ใช้น้ำยาซักล้างอย่างอ่อนดีกว่า ขอแนะนำว่าให้ตากพรมให้แห้งหรือปั่นแห้งในเครื่องปั่นแห้งด้วยอุณหภูมิต่ำหรือไม่ก็เอามาแขวนตากไว้ให้แห้งสนิท

หลายคนไม่ซักพรมเพราะพวกเขากลัวว่าจะทำมันเสีย ในกรณีนี้ คุณสามารถซักพวกมันด้วยมือได้

  • เติมน้ำใส่อ่างอาบน้ำสักครึ่งหนึ่งแล้วเจือจางน้ำยาซักผ้าลงไปสักหนึ่งช้อนโต๊ะ
  • วางพรมเอาไว้แล้วก็ใช้ฟองน้ำนุ่ม ๆ เช็ดมันเบา ๆ แล้วก็ล้างด้วยน้ำเย็น
  • ถ้าพรมห้องน้ำของคุณไม่สามารถเอาไปแช่น้ำได้ ให้เช็ดทำความสะอาดมันเป็นจุด ๆ ด้วยฟองน้ำ

ตุ๊กตายัดนุ่น

ของเล่นนุ่ม ๆ ไม่ได้แค่เต็มไปด้วยความทรงจำที่ยอดเยี่ยมแต่ยังเต็มไปด้วยฝุ่นอีกด้วย ถ้าของเล่นแบบนี้สามารถเอาไปซักได้ ให้เอาไปใส่ในเครื่องซักผ้าและเลือกโหมดตามที่คุณต้องการเลย ถ้าซักไม่ได้ ให้อบร้อนของเล่นเหล่านี้แล้วก็เอามันมาดูดฝุ่น

ขอแนะนำให้ซักตุ๊กตายัดนุ่นในถุงที่ทำมาแบบพิเศษ ถ้าคุณไม่มี ให้ใช้ปลอกหมอนที่มีซิบ ซักตุ๊กตาเหล่านี้ด้วยระบบซักเบาในน้ำเย็น ตากให้แห้งด้วยการวางบนพื้นผิวเรียบ

ถ้าคุณตัดสินใจจะซักของเล่นเหล่านี้ด้วยมือ ให้ใช้ผงซักฟอกและน้ำเย็น ควรจะมีน้ำมากพอชุบของเล่นลงไปได้ทั้งหมด ค่อย ๆ บีบมันในน้ำเพื่อให้มันชุ่มน้ำผงซักฟอกให้ทั่ว อย่าขยี้มันแรงจนเกินไป หลังจากซักแล้ว ให้ล้างของเล่นให้เกลี้ยง ค่อย ๆ บีบเอาน้ำออก แล้วเอาไปวางตากไว้บนพื้นผิวที่เรียบ

ผ้าม็อบถูพื้น

พวกเราคุ้นเคยกับการคิดว่าผ้าม็อบมีเอาไว้ถูพื้นและเราไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่าผ้าม็อบเองก็ควรจะต้องถูกเอาไปซักด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ขอแนะนำให้ทำแบบนี้ทุกครั้งที่ใช้

ส่วนที่ใส่ผ้าม็อบตรงไม้ถูพื้นเองก็ควรเอาไปแช่ในถังน้ำที่ผสมน้ำยาฆ่าเชื้อเช่นกัน หลังจากนั้น ควรจะเอาไปล้างและตากให้แห้ง ส่วนด้ามไม้ถูพื้นและส่วนที่เป็นพลาสติกส่วนอื่น ๆ ก็ควรจะได้รับการทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและกระดาษเช็ดสำหรับฆ่าเชื้อแบคทีเรียด้วย

พรมหน้าประตูบ้าน

เราวางพรมหน้าประตูเอาไว้ที่หน้าประตูบ้านเพื่อทำให้รองเท้าของเราไม่เลอะและเราก็จะได้ไม่ต้องเดินเอาฝุ่นและสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กต่าง ๆ เข้าไปในบ้านกับเราด้วย แต่เรามักจะลืมไปเรื่องความสะอาดของตัวพรมเองไปด้วย และคิดว่าแค่สะบัดเอาฝุ่นดินออกก็เพียงพอแล้ว

ในการที่จะทำความสะอาดพรมเหล่านี้จริง ๆ คุณควรจะต้องซักมันด้วยน้ำร้อนและใช้แปรงขัด ก่อนจะเอาไปซัก ควรจะต้องเอาพรมไปตีหรือสะบัดให้ทั่วแล้วก็ขัดแบบแห้งด้วยแปรงเสียก่อน

ขอแนะนำให้ล้างพรมหน้าประตูทุกฤดูกาล (ทุก 3 เดือน) มันควรจะถูกเอาไปดูดฝุ่นทำความสะอาดเดือนละครั้งและสะบัดเอาฝุ่นออกทุกสัปดาห์

แชร์บทความนี้