ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

วิธีการฉีดน้ำหอมอย่างถูกต้องสำหรับคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงที่จะทำให้คุณมีกลิ่นหอมที่ยอดเยี่ยม

บางคนฉีดน้ำหอมแล้วก็เดินไปไหนมาไหนแบบมีกลิ่น “คลุ้ง” แต่ก็นะ พักเดียวเท่านั้นกลิ่นก็จะหายไปอย่างรวดเร็วพอสมควร บางคนจะใส่น้ำหอมแค่ไม่กี่หยดแต่ก็ยังทำให้คนรอบตัวพวกเขาประทับใจได้เป็นเวลานานด้วยกลิ่นที่จุดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เตะจมูก ในทั้งสองกรณี มันไม่ใช่เพราะน้ำหอมหรอก แต่การฉีดน้ำหอมต่างหากที่สำคัญ

ชีวิตสดใสกำลังจะบอกวิธีการฉีดน้ำหอมที่ดีที่สุดให้กับคุณ และจะบอกความแตกต่างในคำแนะนำที่มีให้คุณผู้หญิงและคุณผู้ชายด้วย

ทำไมบางกลิ่นจึงอยู่นานแต่บางกลิ่นก็ระเหยไปเร็ว

บ่อยครั้ง ทั้งหมดก็เป็นเพราะประเภทของน้ำหอมและสัดส่วนการผสมน้ำหอม น้ำ และแอลกอฮอล์ด้วย

  • ปาฟูม (Parfum, Extrait, PARF) จะมีหัวน้ำหอมอยู่ปริมาณมาก (มากถึง 40%) ซึ่งอธิบายว่าทำไมมันถึงมีราคาสูง บ่อยครั้งมาก ๆ ที่ปาฟูมแบบนี้จะถูกแบ่งใส่ขวดเล็ก ๆ และฉีดพ่นไม่ได้ — ทั้งหมดที่คุณทำได้คือแตะมันบนผิวเพียงไม่กี่หยด กลิ่นของปาฟูมจะออกช้ากว่าแต่อยู่ติดทนนานกว่า
  • โอ เดอ ปาฟูม (Eau de parfum หรือ EDP) จะมีหัวน้ำหอมอยู่ 15% ถึง 20% โอเดอ ปาฟูม จะมีกลิ่นเข้มข้นและความติดทนนาน ส่วนใหญ่จะบรรจุขายในขวดสเปรย์
  • โอ เดอ ตัวแล้ต (Eau de toilette หรือ EDT) แทบจะไม่มีหัวน้ำหอมมากไปกว่า 10% และมีกลิ่นที่ไม่แหลมจนเกินไป พร้อม ๆ กับราคาที่รับได้ด้วย แต่เพราะความเข้มข้นของหัวน้ำหอมที่ต่ำ กลิ่นมันจะติดได้ไม่นาน ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมมันติดอยู่ได้แค่ 4 ชั่วโมงเท่านั้น
  • โอ เดอ โคโลญจน์ (Eau de Cologne หรือ EDC) มีหัวน้ำหอมอยู่แค่ 3% ถึง 8% เท่านั้น กลิ่นของมันจึงอ่อนกว่า โอ เดอ ตัวแล้ต นอกจากนั้น โอ เดอ โคโลญจน์ยังติดทนน้อยกว่าด้วย
  • สแปลช (Splash) มีหัวน้ำหอมแค่ 1% ถึง 3% เท่านั้น กลิ่นของมันจะติดและเตะจมูกได้น้อยที่สุด มันจะจางไปใน 1 ชั่วโมงหลังจากฉีดลงบนผิว แต่ผลิตภัณฑ์แบบนี้จะช่วยได้ถ้าคุณต้องการจะเน้นกลิ่นของผลิตภัณฑ์ที่ติดทนกว่า ยกตัวอย่างเช่น อาจจะเอาไว้ใช้หลังจาดโกนหนวดก็ได้

ข้อสำคัญ: จำเป็นมากที่จะต้องดูลักษณะของบุคคลเวลาที่เลือกซื้อน้ำหอมด้วย ยกตัวอย่างเช่น กลิ่นแรง ๆ อาจจะไปกระตุ้นคนที่เป็นโรคไมเกรนได้ ดังนั้นแล้ว พวกเขาจึงควรให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์ที่มีหัวน้ำหอมน้อยจะดีกว่า

ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่ผู้ชายควรจะฉีดน้ำหอม

ฉีดน้ำหอมในจุดต่าง ๆ ของร่างกายที่เส้นเลือดอยู่ใกล้กับผิวและสัมผัสชีพจรได้ง่าย ๆ นี่คือจุดที่กลิ่นน้ำหอมจะออกมาและผสมดับกลิ่นกายได้ดีกว่า สำหรับผู้หลาย ให้ฉีดน้ำหอมที่คอ บริเวณหลังหู บนไหล่ บทกรามด้านล่าง บนหน้าอก บนท้องแขนกับฝ่ามือ และบนข้อมือจะดีที่สุด แต่อย่าฉีดน้ำหอมทุกจุดนะ — ฉีดแค่จุดเดียวที่เหมาะกับคุณก็พอแล้ว ยกตัวอย่าง คุณสามารถเริ่มฉีดน้ำหอมที่คอและข้อมือได้ ตอนฉีดก็ให้ห่างจากผิวประมาณ 4-6 นิ้ว

  • กดฉีด 2-3 ครั้งก็พอแล้ว ฉีดน้ำหอมน้อยดีกว่าบังเอิญฉีดมันมากเกินไปแน่นอนอยู่แล้ว แม้ว่ามันอาจจะเหมือนว่าคุณไม่ได้กลิ่นจากตัวคุณเอง แต่ส่วนใหญ่แล้วมันมีกลิ่นนะ แค่มันไม่ได้ออกมาให้ได้กลิ่นชัดเจนมาก ๆ เท่านั้นเอง
  • ฉีดน้ำหอมอย่างถูกต้อง ถ้าคุณฉีดน้ำหอมไปในอาหารแล้วเดินผ่านไอน้ำหอม หรือฉีดมันลงไปที่ข้อมือแล้วเอาข้อมือถูกัน คุณควรรู้ว่าเทคนิคเหล่านี้มันไม่เป็นประโยชน์เลยเมื่อเป็นเรื่องของการฉีดน้ำหอมอย่างถูกวิธี ยิ่งไปกว่านั้นมันอาจจะเปลี่ยนกลิ่นให้แย่ลงไปได้ด้วย
  • ฉีดน้ำหอมซ้ำระหว่างวัน แม้แต่น้ำหอมที่กลิ่นแรงที่สุดก็จางลงไปได้ตามเวลา ดังนั้น ถ้าคุณกำลังคิดว่าจะต้องอยู่ไปทั้งวันยาว ๆ ให้คุณพกน้ำหอมขวดเล็กหรือเทกลิ่นเดียวกันนั้นใส่ขวดแบ่งไปด้วยเพื่อที่จะได้สามารถฉีดน้ำหอมซ้ำ
  • อย่าฉีดน้ำหอมลงไปบนเสื้อผ้า มันอาจจะมีน้ำมันหรือแอลกอฮอล์ที่ทำให้เนื้อผ้าเสียได้ จะเป็นการดีที่สุดถ้าคุณจะฉีดบนผิวที่สะอาดและแห้งแล้วหลังจากอาบน้ำทันทีเมื่อไอน้ำและความร้อนทำให้รูขุมขนของคุณเปิด มันจะช่วยให้กลิ่น “ติด” อยู่บนผิวได้ดีกว่า
  • ลองเปลี่ยนกลิ่นดู ลองหาน้ำหอมที่แตกต่างออกไปมาใช้ดู กลิ่นหนึ่งสำหรับฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน กลิ่นที่สองสำหรับฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว กลิ่นที่สามสำหรับที่ทำงานและงานทางการ และกลิ่นที่สี่สำหรับเวลาออกไปเที่ยว

ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่ผู้หญิงควรจะฉีดน้ำหอม

ฉีดน้ำหอมในจุดที่มีเส้นเลือดใกล้กับผิวและจุดที่สัมผัสชีพจรได้ง่าย เมื่อฉีดน้ำหอมในบริเวณนี้ น้ำหอมจะส่งกลิ่นออกมาได้ดีกว่าเมื่อผสมกับกลิ่นกายตามธรรมชาติ ผู้หญิงควรจะฉีดน้ำหอมบริเวณหลังหู บนคอใต้กรามด้านล่าง ตรงข้อพับขาด้านหลัง บนข้อมือ ข้อพับแขน บนผม และบนหน้าท้องกับบริเวณหน้าอก เลือกโซนต่าง ๆ ถามสถานการณ์จะดีกว่า ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นฤดูร้อนและคุณใส่เสื้อผ้าที่เปิดเผยพอสมควร คุณก็ควรจะฉีดน้ำหอมที่คอ ข้อมือ หน้าท้อง และข้อพับขาด้านใน สิ่งที่มีประโยชน์อื่น ๆ ยังมี:

  • มีโซนที่คุณต้องเลี่ยงด้วย ยกตัวอย่างเช่น อย่างฉีดน้ำหอมใกล้ ๆ ตา ที่รักแร้ หรือข้าง ๆ จุดซ่อนเร้น
  • ถ้าคุณใช้โลชั่นไร้กลิ่นหรือปิโตรเลียมเจลในการทำให้ผิวลื่นก่อนจะฉีดน้ำหอม กลิ่นก็จะอยู่ได้นานกว่า
  • ฉีดน้ำหอมไปที่ผิวหรือผมโดยตรง อย่าฉีดในอากาศแล้วเดินผ่านให้ละอองตกใส่ตัว และอย่าฉีดใส่เสื้อผ้าหรือว่าเอามาถูกับผิวหนัง
  • อย่าเก็บน้ำหอมเอาไว้ในห้องน้ำ เพราะความชื้น อุณหภูมิที่สูง และแสงจะมีผลในทางลบกับคุณภาพและการจัดเก็บน้ำหอม เก็บน้ำหอมเอาไว้ในที่เย็น แห้ง และมืด อย่างเช่นตู้เสื้อผ้าจะดีกว่า
  • ลองใช้ชุดเครื่องประทินผิวที่มากับน้ำหอมหรือโอ เดอ ปาฟูม อย่างเช่น โลชั่น ครีม หรือเจลอาบน้ำ มันจะช่วยทำให้กลิ่นอยู่บนผิวได้นาน
แชร์บทความนี้