16 คู่สัตว์ที่คุณเกือบจะจำสลับกันตลอด
อาณาจักรสัตว์นั้นมีความหลากหลายมากมายเสียจนแทบเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะไปจำพันธุ์สัตว์ทั้งหมดทั้งปวงบนโลกเราได้ บางทีความแตกต่างที่เอาไว้แยกแยะสัตว์ที่เป็นญาติใกล้ชิดกันนั้นก็สังเกตยากเอามาก ๆ เลย แต่พันธุ์สัตว์ที่แตกต่างกันมักจะมีวิวัฒนาการในแบบเดียวกัน เพราะว่าสิ่งแวดล้อมของมัน
ชีวิตสดใสได้รวบรวมสัตว์ 16 คู่ที่เกือบจะแยกออกจากกันไม่ออกตอนดูรอบแรก เพื่อให้คุณได้รู้ความแตกต่างของพวกมัน
1. เสือจากัวร์ กับ เสือดาว
แม้ว่าจะเหมือนกันขนาดนี้ แต่แมวยักษ์สองตัวนี้อาศัยอยู่ในทวีปที่แตกต่างกันและสภาพภูมิอากาศก็ต่างกัน เพราะว่าเสือดาวอาศัยอยู่ในเขตทุ่งหญ้าสะวันนาในแอฟริกา ส่วนเสือจากัวร์อาศัยอยู่ในป่าเขตร้อนของอเมริกาใต้ เสือจากัวร์ ยังตัวใหญ่กว่าเสือดาวและล่ำบึ้กกว่า แถมยังไม่เหมือนเสือดาวและเสืออื่น ๆ ตรงที่มันชอบน้ำเอามาก ๆ
2. แอลลิเกเตอร์ กับ จระเข้
คุณสามารถแยกเจ้า 2 ตัวนี้ได้ง่าย ๆ ดูจากรูปทรงปากที่ยื่นของมัน จระเข้จะมีทรงปากที่ยาวยื่นเรียว ๆ ออกมาเป็นตัววี ส่วนแอลลิเกเตอร์จะมีปากที่ยื่นออกมาสั้นกว่า กว้างกว่า และเป็นทรงตัวยู และเราสังเกตจากฟันได้ด้วย คือฟันจระเข้จะเหมือนฉีกยิ้มเป็นเอกลักษณ์โดยให้เห็นฟันสี่ซี่ กลับกัน กรามบนของแอลลิเกเตอร์นั้นกว้างกว่ากรามล่าง ดังนั้นเราถึงไม่เห็นฟันมันเป็นส่วนใหญ่
3. ต่อ กับ แตน
แมลงสองตัวนี้น่ากลัวสุด ๆ แตนจะตัวใหญ่กว่าและมีสีส้มดำ เป็นเหมือนจุด ๆ มากกว่าจะเป็นแถบ ส่วนตัวต่อจะมีสีสว่างกว่าและมีวงสีเหลืองกับดำ คุณควรจะอยู่ห่างไว้จากทั้งคู่นั่นแหละ
4. แมวน้ำ กับ สิงโตทะเล
คุณเจอแมวน้ำและคิดว่ามันเป็นสัตว์ตัวอวบน่ารัก และเห็นสิงโตทะเลเวลาไปดูละครสัตว์แสดงกายกรรม แมวน้ำนั้นเต็มไปด้วยขนและมีครีบเหมือนมือด้านหน้าที่คอยกันไม่ให้มันเดิน บังคับให้มันขยับตัวด้วยท้องแทน ส่วนสิงโตทะเลมีผิวเรียบ และมีครีบกว้างให้มันเดินบนพื้นได้
5. เต่าธรรมดา กับ เต่าบก
ทั้ง 2 ตัวนี้เดินได้ (แต่เฉื่อยทั้งคู่) และมี 4 ขา แต่ “เต่าธรรมดา” ที่เราเห็นนั้นเป็นสัตว์น้ำ และมีลายเหมือนเส้นกับวงกลม ลักษณะเหมือนน้ำ จะได้ซ่อนตัวเนียน ๆ ได้ในบ่อน้ำ ส่วนเต่าบกนั้นเป็นสัตว์บกตามชื่อ และอยู่บนดิน สมชื่อเขาล่ะ
6. เรเวน อีกา นกแก และแจ๊คดอว์
พวกวงศ์นกกานั้นหน้าตาเหมือนกันไปหมด (ยกเว้นนกเจย์ที่ดูยังกับเด็กเล่นละครในตระกูลพวกเด็กโกธิคดำมืด) เรเวนนั้นดูเก๋ไก่นำแฟชั่นที่สุด เพราะว่ามีขนที่คอดูเหมือน “เครา” ส่วนกาและนกแกดู ๆ แล้วมีขนาดเดียวกัน แต่นกแกจะมีจะงอยปากโดดเด่นสีเทาและมีขนเหมือน “กางเกง” ที่ขา ส่วนแจ๊คดอว์นั้นหน้าตาเพี้ยนที่สุด เพราะว่าจะงอยปากสั้นและมีหัวกลม ๆ แถมเหมือนใส่หมวกแก๊ปอีก
7. ลา กับ ล่อ
อันนี้อาจจะดูยากซักหน่อย ก็คือมีเหตุผลง่าย ๆ อยู่ว่า ลานั้นเป็นพันธุ์ของตัวเอง แต่ล่อเป็นลูกผสมระหว่างลากับม้า ฮามั้ยล่ะ มันก็เลยดูเหมือนสัตว์ทั้งสองตัวผสมกันไง หัวดูสง่างามแต่ดันมีหูเบ้อเร่อชวนขำแบบหูลา
8. กระต่ายป่า กับ กระต่าย
หากคุณอยากกอดสัตว์เลี้ยงซักตัว กระต่ายนี่ล่ะคือสัตว์เลี้ยงที่ดีที่สุดเลย แต่กระต่ายป่าอาจจะไม่ เพราะว่ามันตัวใหญ่กว่า วิ่งไวกว่า และมีหูยาวกับขายาวกว่า ส่วนกระต่ายที่เราเลี้ยงกันนั้นตัวเล็กกว่า ขนฟูกว่า และดูรวม ๆ “น่ารักกว่า” แถมมันกินอาหารไม่เหมือนกันด้วยนะ กระต่ายน่ะชอบผักมากกว่า (เช่น แครอท) และหญ้านุ่ม ๆ แต่กระต่ายป่าชอบกินเปลือกไม้กับกิ่งไม้ กระต่ายนั้นเป็นสัตว์ที่ชอบให้คนเล่นด้วย แต่กระต่ายป่าชอบอยู่ตัวเดียว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมกระต่ายเชื่องกว่า แต่กระต่ายป่านั้นมักจะดุร้าย
9. ผีเสื้อกลางคืน กับ ผีเสื้อกลางวัน
ผีเสื้อกลางคืนจะมีปีกเหมือนเวลากางเต็นท์ แต่ผีเสื้อกลางวันปกติจะกระพือปีกแนวตั้ง ผีเสื้อกลางคืนเวลาอยู่นิ่งไม่บินจะพักปีกด้วยการกางไว้ แต่ผีเสื้อธรรมดาจะพักด้วยการหุบปีก และหนวดของผีเสื้อสองแบบนี้ก็ต่างกัน หนวดผีเสื้อกลางวันจะยาวผอม ส่วนหนวดผีเสื้อกลางคืนจะสั้นและมีขน และเราเจอผีเสื้อกลางวันในตอนกลางวันเท่านั้น ส่วนผีเสื้อกลางคืนจะหากินตอนกลางคืน
10. โลมาทั่วไป กับ โลมาหัวบาตร
ความแตกต่างระหว่างโลมาทั่วไปกับโลมาหัวบาตรคือ ปาก ครีบ และรูปร่างของมัน โลมาทั่วไปจะมี “ปาก” ยาว และมีรูปร่างผอมเพรียว และมีครีบหลังโค้ง ส่วนโลมาหัวบาตรจะมีหน้าแบนกว่า งุ้มกว่า และมีครีบเล็กกว่า ส่วนครีบหลังก็สั้นกว่าและเป็นทรงสามเหลี่ยม
11. พังพอน กับ สโตธ
สัตว์ 2 ตัวนี้เป็นวงศ์ที่ใกล้ชิดกันมาก สโตธจะตัวใหญ่กว่าและมีหางยาวกว่า ปลายหางฟูและมีสีดำแต้ม ส่วนพังพอนจะมีหางสั้นกว่าและมีสีเดียวกันตลอดทั่วตัว สโตธจะเดินแบบเขย่งและโก่งหลัง ดูฮามาก แต่ปกติพังพอนจะเดินหลังเป็นแนวไปกับพื้น และสโตธจะเปลี่ยนสีเป็นสีขาวในหน้าหนาว
12. นกอินทรีย์ กับ เหยี่ยว และ เหยี่ยวนกเขา
นกอินทรีย์นั้นตัวใหญ่เบ้อเร่อ เป็นนกที่ทรงพลังที่อยู่ในพื้นที่เปิด อย่างเช่นหน้าผาและภูเขา ส่วนเหยี่ยวจะตัวเล็กกว่าหน่อยและปราดเปรียวกว่าในอากาศ และสามารถจับสัตว์ได้ในพื้นที่ปิด ส่วนเหยี่ยวนกเขาจะตัวเล็กที่สุด และเป็นตัวที่ไวที่สุดในบรรดานกทั้งสาม และเห็นได้ชัดว่าไม่เหมือนเพื่อน เพราะว่ามีตาโตกว่าและมีจะงอยปากสั้นกว่า
13. หนู กับ หนูท่อ
เจ้าสัตว์ฟันแทะรว้าย ๆ 2 ตัวนี้ สามารถแยกออกจากกันได้ 3 อย่าง หนึ่งคือขนาด สองคือหาง และสามคือหู หนูบ้านจะตัวเล็ก เหมือนหนูเด็ก หางยาวแหลมบางมีขนคลุม ส่วนหนูท่อจะหางหนากว่าและไม่มีขน หนูบ้านจะมีหูใหญ่กว่าเมื่อเทียบกับตัว หูกลม ๆ ตก ๆ มีหน้าทรงสามเหลี่ยม ส่วนหน้าของหนูท่อจะพุ่งกว่าและหน้าทื่อ ๆ
14. นกนางนวล กับ นกอัลบาทรอส
นกนางนวลจะอยู่ใกล้น้ำ ไม่ว่าจะเป็นทะเลหรือแอ่งน้ำ และดูเหมือนเล่นกายกรรมผาดโผนเวลาโฉบลงมาหรือไปจับปลา มันไม่ชอบบินไกล ๆ ยาว ๆ แบบนกอัลบาทรอส นกอัลบาทรอสท่าทางจะเป็นนกที่บินอยู่บนฟ้าเหนือทะเล และมีโพรงจมูกที่ไม่เหมือนใคร เพื่อให้มันเอาเกลือออกจากน้ำทะเลและอาหาร
15. วูล์ฟเวอรีน กับ ฮันนีแบดเจอร์
แม้ว่าสองตัวนี้จะอยู่ห่างกันคนละสภาพโซนภูมิอากาศ ฮันนีแบดเจอร์อาศัยอยู่แถบแอฟริกา ส่วนวูล์ฟเวอรีนอาศัยอยู่ทางป่าตอนเหนือ แต่ทั้งคู่อยู่ในวงศ์เพียงพอน (Mustelidae) วูล์ฟเวอรีนจะตัวสูงกว่า มีขายาวกว่า และมีหูที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนและมีขนสีน้ำตาลพร้อมกับวงเหลือง ๆ ส่วนฮันนีแบดเจอร์นั้นจะอยู่ใกล้ดิน ตัวสีดำ และมีเหมือน “ผ้าคลุม” คลุมหลังอยู่
16. หมาป่า กับ หมาไคโยตี และ หมาแจ็คกัล
สามตัวนี้เป็น “เด็กดี” ที่เราเจอได้ทั่วโลกเลย หมาแจ็คกัลอาศัยอยู่ในแอฟริกา เอเชีย และอินเดีย ไคโยตีจะอยู่ทางตอนเหนือของอเมริกา ส่วนหมาป่าอยู่ไปทั่วเลย หมาป่าจะตัวใหญ่ ปราดเปรียว ส่วนไคโยตีกับแจ็คกัลนั้นร่างกายจะผอมกว่าและดูตัวบาง ๆ
ไคโยตีนั้นจะสังเกตได้ว่ามีขนสีแดงบนหน้าและหู ส่วนแจ็คกัลจะมีขนออกเหลือง ๆ และแจ็คกัลจะขนไม่ฟูเท่าไหร่ เพราะว่ามันไม่ต้องมาทนความหนาวในหน้าหนาว
โบนัสสุดฮา: วูล์ฟเวอรีน กับ ฮันนีแบดเจอร์
สัตว์ตัวไหนกันนะที่เคยทำให้คุณงง ? ถ้าคุณมีตัวอย่างมากกว่านี้ พิมพ์บอกเราในคอมเมนต์ได้เลย !